xs
xsm
sm
md
lg

ยามฯภูเก็ตชี้หากความรุนแรงเกิด “หมัก”-“เหลิม”ต้องรับผิดชอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เยาวชนกู้ชาติ
ศูนย์ข่าวภูเก็ต-ประชาชนชาวภูเก็ตจำนวนมาก ร่วมชมการถ่ายทอดสดบรรยากาศการรวมตัวชุมนุมขับไล่รัฐบาลนอมินี “แม้ว” ที่ปลายแหลมสะพานหิน เมืองภูเก็ต หลัง มท.1 สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศสั่งเคเบิลทีวีท้องถิ่น ระงับการถ่านทอดสัญญาณดาวเทียมช่อง ASTV News 1 อ้างเผยแพร่ข้อมูลก่อการต้านรัฐบาล เป็นภัยต่อความมั่นคง ด้านเคเบิลภูเก็ตยังยื้อถ่ายทอดต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดภูเก็ตว่า หลังจากที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ สั่งการให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นในพื้นที่ต่าง ๆ ระงับการถ่ายทอดสัญญาณของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง ASTV News 1

โดยอ้างว่า เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เป็นอารยะขัดขืน ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาวันนี้ (13 มิ.ย.) ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตแหล่งข่าวรายหนึ่ง แจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต ได้เรียกผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นในพื้นที่ 3 ราย เข้าพบ ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอความร่วมมือให้ระงับการถ่ายสัญญาณสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง ASTV News 1

หลังจากก่อนหน้านี้มีการโทรศัพท์พูดคุยกัน เพื่อขอความร่วมมือมาแล้วรอบหนึ่ง แต่ผู้ประกอบการบางรายยังยื้อที่จะถ่ายทอดสัญญาณต่อ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ติดตามชมรายการของช่อง ASTV News 1 เป็นหลัก หากระงับการถ่ายทอดสัญญาณเกรงว่า ลูกค้าจะยกเลิกการใช้บริการ แต่หากสถานการณ์รุนแรง ถูกกดดันจากหน่วยงานภาครัฐมากเกินไป ผู้ประกอบการก็คงต้องดำเนินการตามที่ภาครัฐสั่งการ

ทั้งนี้ เนื่องจากมีการระบุว่า หากผู้ประกอบการรายใดไม่ปฏิบัติตาม จะถูกดำเนินการตามกฎหมายอาญา มาตรา 85 ทันที ทำให้ผู้ประกอบการเกิดความอึดอัดใจ เพราะอาจมีผลต่อธุรกิจของตนเองด้วย

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ยังไม่มีรายงานว่า พื้นที่ใดของ 3 อำเภอ เคเบิลท้องถิ่นระงับการถ่ายทอดสัญญาณแต่อย่างใด ยังสามารถรับชมได้ตามปกติ

คนแห่ร่วมไล่ “แม้ว”- “หมัก” แน่นสะพานหิน

ขณะที่บรรยากาศการรับชมการถ่ายทอดสดบรรยากาศ การรวมตัวของพี่น้องพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย จากถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร บริเวณปลายแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผ่านจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ ที่กลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต จัดขึ้น มาตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.2551 เป็นต้นมา เป็นไปอย่างคึกคักมีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมรับฟังข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง บางรายเดินทางมาเป็นครอบครัว โดยมีการทำอาหารมารับประทานร่วมกันด้วย บางรายก็เดินทางมาเป็นกลุ่ม แต่ด้วยสภาพพื้นที่กว้างทำให้ดูเหมือนมีผู้เดินทางมาน้อย

นายเมธี คงแดง หนึ่งในแกนนำกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต กล่าวว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการให้ผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นระงับการถ่ายทอดสัญญาณสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง ASTV News 1 ถือว่า คิดผิด เพราะเป็นการยั่วยุประชาชนให้ออกมารวมตัวต่อต้าน และขับไล่กันมากขึ้น

นอกจากนี้ ยิ่งเคเบิลท้องถิ่นระงับการถ่ายทอดสัญญาณมากเท่าไหร่ ยิงทำให้รัฐบาลพังเร็วมากขึ้นเท่านั้น เพราะการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนสมควรได้รับเป็นการกระทำที่ปลุกกระแสประชาชนอย่างหนัก หากเกิดความรุนแรงใด ๆ ขึ้นผู้ที่จะต้องรับผิดชอบคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายกรัฐมนตรี นอมินี เปรียบเสมือนว่า ร.ต.อ.เฉลิม เป็นพนักงานเสริฟ ที่เชียร์แขกเข้าร้านอาหาร เพราะมีปากเป็นอาวุธ

“ยิ่งปิดกั้นประชาชนมากเท่าไหร่รัฐบาลจะยิ่งอยู่ยากมากเท่านั้น เพราะการที่ประชาชนไม่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร จะทำให้ยิ่งเกิดคงวามอักอั้นตันใจ จนยากต่อการควบคุมอารมณ์ของแต่ละคน และจะยิ่งทำให้ปลายแหลมสะพานหิน อ.เมืองภูเก็ต มีโอกาสต้อนรับประชาชนผู้รักชาติ รักแผ่นดินมากยิ่งขึ้น เพราะจะเป็นพื้นที่เดียวที่จะรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้ดีที่สุด” นายเมธี กล่าว

ขณะที่ชาวภูเก็ตท่านหนึ่ง ที่เดินทางมาร่วมรับชมการถ่ายทอดสด ระบุว่า การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าว จะทำให้ประชาชนที่รับชมข้อมูลข่าวสารทางช่อง ASTV News 1 จะมีอารมณ์ร่วมกันมากขึ้น โดยเฉพาะการออกมารวมตัวต่อต้าน และเดินทางขึ้นไปร่วมกับพี่น้องพันธมิตรฯส่วนกลางที่ถนนราชดำเนิน ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้สูงอายุ

“คิดว่า คำพูดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นการแสดงออกถึงความโกรธที่ไม่สามารถดำเนินการใด ๆ กับพี่น้องพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยได้ จึงต้องหาทางออกด้วยวิธีการที่ผิด ๆ เป็นการกระทำ และคำพูดที่ผิดมหันต์ เหตุการณ์รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นครั้งนี้ ถือว่า มาจากคำพูดของรัฐมนตรีที่ไร้การควบคุม ไม่มีวุฒิภาวะ”
ชาวภูเก็ตทยอยเดินทางมาร่วมอย่างต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น