“ประพันธ์” ปลุกคนไทยเตรียมความพร้อมสู้ศึกใหญ่ โค่นระบอบทักษิณ และนักการเมืองโกงชาติ เพื่อสร้างการเมืองใหม่ ระบุการชุมนุมของพันธมิตรฯ ถือเป็นสถิติโลกด้านการเปลี่ยนแปลงการเมือง เพราะแค่ 2 ปีสามารถโค่นรัฐบาล “แม้ว” สำเร็จ เปิดประเด็นใหม่ แหล่งพลังงานชาติกำลังถูกปล้นจากระบอบทักษิณทำ คนไทยต้องใช้น้ำมันแพง พร้อมเย้ย “เป็ดเหลิม” มุดหนีพันธมิตรฯ ที่กระบี่ทางเสือหรือหมา
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายประพันธ์ คูณมี ปราศรัย
วันนี้ (2 ก.ค.) เวลาประมาณ 20.00 น. นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หน้าทำเนียบรัฐบาลว่า ขณะนี้คนไทยทั้งประเทศเริ่มรับรู้เรื่องราวต่างๆ และกำลังจะเข้าร่วมการสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นป่าล้อมเมือง หรือจากเมืองสู่ป่า แต่เป็นการที่คนไทยประสานกัน ระหว่างคนเมืองกับคนต่างจังหวัด และอีกไม่นานคงได้เห็นคนทั้งประเทศร่วมกันต่อสู้ในเรื่องที่เรากำลังเรียกร้องอยู่
ทั้งนี้ เชื่อว่าการที่ประชาชนมาชุมนุมต่อเนื่องกัน 39-40 วันจะทำให้เราได้รับชัยชนะ โดยหากนานกว่านี้เป็นปีก็สามารถทำได้ แต่ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับศึกใหญ่ ซึ่งปัจจัยของการเปิดการจราจรในช่วงเช้าทำให้ พันธมิตรฯ มีโอกาสได้พักผ่อนและเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งหลังจากนี้ต้องเตรียมความพร้อมให้ดี เพราะจะเป็นการต่อสู้ที่ใหญ่หลวง และเป็นการต่อสู้ที่ไม่เหมือนในอดีต และไม่เหมือนทุกครั้งในประวัติศาสตร์การเมืองบ้านเรา
“การต่อสู้ครั้งนี้ไม่เหมือนในอดีตที่การชุมนุจะมีเงื่อนไข เช่นการขอค้าจ้างเพิ่ม การต่อต้านรัฐบาลทักษิณ ซึ่งเมื่อได้รับการแก้ไขก็จะเลิกกันไป แต่การต่อสู้ครั้งนี้เราจะไม่เลิก โดยจะเป็นการต่อสู้เพื่อโค้นการเมืองเก่าในระบอบทักษิณ เพื่อปฏิรูปการเมืองใหม่ เพื่อคนไทยทั้งชาติ” นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า การชุมนุมของประชาชนในครั้งนี้มีทั้งอุดมการณ์ และจุดยืนที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งใดๆ คือ 1.เพื่อการแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม ในการป้องปกชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2.ปกป้องอธิปไตย และทรัพยากรของชาติ มิให้ผู้ใดโกงกินเหมือนในอดีต 3.เพื่อโค่นล้มรัฐบาลหุ่นเชิด และระบอบทักษิณ เพื่อสร้างการเมืองใหม่ ที่ทำเพื่อประชาชน และขจัดนักการเมืองเลวๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้หมดสิ้น โดยทั้งหมดถือเป็นภาระกิจในการสร้างการเมืองใหม่ที่ดีกว่า
ทั้งนี้ การชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่ผ่านมาถือว่าประสพความสำเร็จอย่างดี โดยหากนำไปเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในอดีตอย่างมหาตมะคานธี ที่อินเดีย เหมาเจ๋อตง หรือโจเอินไหล ในจีน การชุมนุมในครั้งนี้นับเป็นสถิติโลก เนื่องจากไม่ถึง 2 ปีสามารถล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้ นี่แหละคือความสำเร็จอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ การชุมนุมของพันธมิตรฯ ยังนำไปสู่การ ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และการยุบพรรคไทยรักไทย โดยทั้งหมดถือเป็นความดีของกลุ่มพันธมิตรฯ ในการอุทิศตนเพื่อชาติ
“ถ้าไม่มีการชุมนุมคงไม่เห็นแบบนี้ นักการเมืองเลวๆ กำลังถูกบดขยี้ จากกงล้อของประวัติศาสตร์ นักการเมืองโบราณมันหมดยุคสมัยไปแล้ว นักการเมืองพวกนี้ท้าทายคุณสนธิ ทางหมากับทางเสือไม่ยุ่งกัน และที่มันมุดออกมาเมื่อเช้านี้ไม่รู้ว่ามันทางหมาหรือเสือ ขณะนี้พี่น้องชาวต่างจังหวัดตื่นแล้ว และเราต่อสู้จนได้รับชัยชนะมาส่วนหนึ่งแล้ว ขนาดครม.ต้องกลับมติตนเองเรื่องเขาพระวิหาร นายสมัครก็ตาขวางสติแตกไปแล้ว” นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า เป้าหมายการต่อสู้ของประชาชนกำลังจะใกล้ความเป็นจริง ที่ยีนหยัดมาไม่ใช่ไม่ชนะ หรือไม่มีผลงาน ประชาชนต้องเชื่อในสิ่งที่ทำ โดยการต่อสู้ในคร้งนี้เชื่อว่ามาถูกทาง และถูกเป้าหมายแล้ว ซึ่งจะต้องกวาดล้างนักการเมืองในระบอบทักษิณ และนักการเมืองที่โกงกินบ้านเมืองไม่สิ้นซาก และต้องไม่ให้มันมีอำนาจอีก เพราะไม่เช่นนั้นประเทศไทยจะไม่เจริญ เนื่องจากมันจะเอาทรัพยากรชาติไปขายจนหมด โดยไม่นึกถึงเรื่องความชอบธรรม
ทั้งนี้ ในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ เมื่อเช้านี้เราได้มีการเปิดประเด็นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องของการที่ระบอบทักษิณกำลังดำเนินการปล้นทรัพยากรธรรมชาติของไทย โดยเฉพาะแหล่งพลังงานที่มีอยู่หลายแห่งในประเทศ แต่รัฐบาลกลับบอกว่าไม่มี และพวกเราจะต้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ออกมา
“ไหนว่า ปตท.เก่งนัก แล้วทำไมให้ต่างชาติเข้ามาทำสัมปทาน พรุ่งนี้พวกผมจะไปสงขลา และเอาข้อมูลมาตีแผ่ว่า ทำไมทักษิณจึงขายบริษัทสื่อสาร และหันมาทำธุรกิจพลังงาน เพราะการมาเป็นนายกฯ ทำให้เขาทราบว่าประเทศไทยมีอะไรบ้างอยู่ต้องไหนและร่วมมือกับรัฐบาลหุ่นเชิด และรัฐบาลประเทศรอบบ้าน เพื่อปล้นทรัพยากรธรรมชาติบ้านเมืองไทย” นายประพันธ์กล่าว
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า เราจำเป็นต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อล้มล้างการเมืองเลวที่ทำให้บ้านเมืองไม่ก้าวหน้า และประชาชนต้องตกเป็นทาส โดยขณะที่น้ำมันของประเทศไทยกำลังถูกปล้นไปขาย แต่ประชาชนกลับต้องใช้น้ำมันแพง คนพวกนี้โกงกินบ้านเมืองทั้งที่ปฏิญาณตนต่อหน้าในหลวงว่าจะทำเพื่อชาติ ซึ่งการกระทำเช่นนี้เท่ากับทำให้เวลาของนักการเมืองโกงชาติหมดลงแล้ว และเชื่อว่าประชาชนจะลุกฮือขึ้นมาต่อต้านในอีกไม่ช้า เพื่อร่วมกันสร้างการเมืองใหม่และจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน