“ภูวดล” แฉพลังแม้วกำลังระอุ “ยี้ห้อย-หญิงหอม” เปิดศึกชิงอำนาจกันจ้าละหวั่น หวังเอาใจนายใหญ่นายหญิง จับตา “เหล่-เป็ดเหลิม-เจ๊มิ่ง” ชุดแรกที่จะถูกเขี่ย เผยล่าสุดหน้าเหลี่ยมกำลังแฟบได้ที่ หมุนเงินหัวปั่น เหตุเพราะศาล รธน.รับรองอำนาจ คตส. ทำให้คำร้องขอถอนอายัดสมบัติ 7.3 หมื่นล้านต้องเป็นหมัน ขณะเดียวกัน จวก “พ่อปลื้ม” สุดแสบ ก่อไฟปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้กลุ่มทุนทักษิณที่กำลังจะตายพลิกเป็นโอกาสกลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ ปราศรัย
วันนี้ (1 ก.ค.) เมื่อเวลา 21.42 น. ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ทราบจากวงในค่อนข้างจะเชื่อได้ว่าเป็นข้อเท็จจริง คือ ขณะนี้ในพรรคพลังประชาชน รวมทั้งแกนกลางของผู้รับใช้ทักษิณ บางคนก็ถูกห้ามไม่ให้เล่นการเมืองอยู่ในกลุ่ม 111คน จริงๆ แล้ว พรรคพลังประชาชนพี่น้องร้อยละร้อยรู้ว่าเป็นนอมินีของระบอบทักษิณ มีแต่ กกต.บางคนเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่อง พวกลิ่วล้อระบอบทักษิณในบรรดาแกนนำจริงๆ มี 2 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกที่ยังครองสภาพการนำทั้งนายหญิงนายชายก็หลงใหล โดยเฉพาะนายหญิงคือห้อยร้อยยี่สิบกลุ่มหนึ่ง อีกกลุ่มที่พยายามมีบทบาทตลอดมาที่เราเรียกว่ากลุ่มคุณหญิงเนื้อหอม กลุ่มนี้ส่วนใหญ๋คุมนักการเมืองใน กทม.และชานเมือง
ดร.ภูวดล กล่าวต่อว่า ขณะนี้กลุ่มห้อยร้อยยี่สิบคุมสภาพการนำในพรรคพลังประชาชนได้เรียบร้อย เนื่องจากหน้าเหลี่ยมก็ดี ครอบครัวก็ดี ต้องมนต์คาถาหน้าเหลี่ยมหรืออะไรก็สุดแล้วแต่จะบรรยาย ปัญหาคือกลุ่มห้อยฯมีบทบาทมาก ขณะเดียวกันกลุ่มคุณหญิงก็พยายามจะเคลื่อนไหวอาศัยคอนเนคชั่นส่วนตัวสร้างพลังต่อรองเพื่อให้หน้าเหลี่ยมเห็นว่าตัวเองมีความสำคัญอยู่ เช่นกรณีการจัดผ้าป่า ที่ล้มเลิกไป คุณหญิงหอมคนนี้ พยายามดิ้นเพื่อชิงบทบาทนำในพรรคนอมินี ขณะเดียวกันห้อยก็มีบทบาทนำ
“ขณะนี้กลุ่มห้อยร้อยยี่สิบ กำลังสร้างพลังต่อรองเพื่อเปลี่ยนรัฐมนตรีพันธุ์ชั่วที่ประชาชนประณาม แล้วก็เป็นการฉวยโอกาสทางการเมือง คนที่กลุ่มห้อยฯพยายามสร้างกระแสให้ปรับออกไปก็คือ ด็อกเตอร์กำมะลอคนบางบอนนั่นแหล่ะคือคนแรกที่จะถูกปลดออกไป ซึ่งไม่ได้เป็นอะไรที่ดีกับเราเลย จะฟัดกันเองก็ฟัดไป ไม่มีใครสนใจหรอก แต่ระบอบทักษิณต้องพัง นอกจากนั้นยังมี รมว.คมนาคมคนที่ทุจริตการสอบแล้วกลับมาจบปริญญาโทม.รามคำแหง รมต.เหล่ และเจ๊มิ่ง พวกนี้กำลังจะถูกกลุ่มห้อยฯเขี่ยออกเช่นกัน” ดร.ภูวดล กล่าว
ดร.ภูวดล กล่าวต่อว่า ฉะนั้นขอให้จับตาภาพของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขณะนี้ ขณะเดียวกันคุณหญิงเนื้อหอมก็พยายมจะเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อสร้างภาพว่าตัวเองมีคอนเนคชั่น มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำกองทัพ ทั้งกองทัพบก และกอง บก.สส. เพื่อสร้างพลังต่อรองให้เหลี่ยมให้ความสำคัญมา
นอกจากนั้น ดร.ภูวดล ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้หน้าเหลี่ยมกำลังมีปัญหากับการที่ศาลรัฐธรรมนูญลงมติว่าคตส.มีอำนาจถูกต้อง จึงทำให้คำร้องเรียนของหน้าเหลี่ยมและพวกที่จะขอให้อายัติทรัพย์สินประมาณ 7.3 หมื่นล้านบาท เป็นหมันไป ตอนนี้เหลี่ยมกำลังเจอปัญหาเงินหมุนไม่ทัน จากการซื้อแมนซิตี้ เหลี่ยมต้องใช้เงินหมุนไม่ต่ำกว่าวันละ 300 ล้านบาทไทย สำหรับโชว์อัพหรือทำให้กิจการแมนซิตี้ซึ่งจะถึงฤดูกาลแข่งขันในอีกไม่กี่วันนี้ หน้าเหลี่ยมปวดหัวมากคิดว่าลงทุนแมนซิตี้จะสร้างกำไรมหาศาล ในธุรกิจทุนนิยม ถ้าไม่สามารถเอาเงินต่อเงินได้คุณก็จะประสบความพ่ายแพ้ขาดทุน วันนี้ดูสีหน้า หน้าเหลี่ยมให้ดี ถ้าเป็นปลากัดก็เป็นปลากัดที่ใกล้จะโดนจิ้งจกกัดตายแล้ว
ดร.ภูวดล กล่าวต่อว่า ปัญหาการเมืองไทยวันนี้ไม่มีทางที่ประชาชนจะถึงทางตัน ประชาชนไทยวันนี้แม้จะโดนศาลแพ่งหรือแม้แต่ศาลเตี้ยพิพากษา วันนี้ประชาชนตื่นขึ้นมาหมดแล้ว ประเทศไทยไม่ใช่อยู่แค่สะพานชมัยมรุเชฐ แห่งเดียวเท่านั้น แต่ทั่วทุกพื้นที่ที่ประชาชนมีเงินซื้อทีวี ซื้อจานดาวเทียม ทุกคนรู้เช่นเห็นชาติแล้วว่ระบบการเมืองการปกครองที่สามานย์เช่นนี้ต้องหมดไป ก่อนที่ลูกหลานของพีน้องจะไม่มีแผ่นดินอยู่อาศัย ก่อนที่จะไม่มีสิทธิเสรีภาพ เพราะจะถูกโกงกินซื้อขายหมดสิ้น
นอกจากนั้น ดร.ภูวดล ยังยกตัวอย่างที่ระบบนี้นำไปใช้ซื้อประเทศไทยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา จากการไปสมคบกับสิงคโปร์ ว่า สิงคโปร์ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นเมืองท่าสำคัญของอังกฤษ สิงคโปร์ใช้นอมินีในประเทศไทยมานานแล้ว ก่อนที่ไทยจะรู้จักคำว่านอมินี และก่อนที่ประเทศไทยจะมีตลาดหุ้นเสียด้วยซ้ำ โดยสิงคโปร์เข้ามาใช้นอมินีถือหุ้นในธุรกิจหลายๆ แห่งในประเทศไทย แม้กระทั่งธุรกิจการผลิตข้าวเพื่อส่งออก
“ทุนไทยสามานย์เริ่มมีบทบาทเมื่อไอ้หน้าเหลี่ยมบังเอิญหลบเช็คเด้งไปอยู่ภาคใต้ แล้วได้รู้จักกับนายทุนที่หากินกับสิงคโปร์ โดยเฉพาะหากินกับการค้าแร่เถื่อน ในที่สุดก็รู้คอนเนคชั่นและผู้นำสิงคโปร์กับหน้าเหลี่ยมเป็นจีนแคระเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม วันนี้รัฐบาลไทยไถลไปไกลเมื่อเอาสัมปทานของชินคอร์ปไปขายให้เทมาเส็ก ซึ่งเป็นบริษัทกองทุนร่วมที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์” ดร.ภูวดล กล่าว
นายภูวดล กล่าวต่อว่า วันนี้ธนาคารในไทยหลายๆ แห่งก็กลายเป็นนอมินีสิงคโปร์ไปแล้ว แม้แต่ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารอื่นไม่ต้องพูดถึงแม้แต่ธนาคารที่ชื่อฝรั่ง เพราะฝรั่งไม่เคยไว้วางใจระบบบัญชีและนักการธนาคารไทยเลย เพราะเต็มไปด้วยการฉ้อโกง เขาจึงไปจ้างสิงคโปร์มาคุม สมาคมธนาคาร สมาคมนักบัญชีไทยรู้ดีว่าประเทศนี้อยู่กับการแต่งบัญชี
นายภูวดล กล่าวอีกว่า สถาบันการเงินวันนี้ก็อ่อนแอ ตั้งแต่สมัย คมช. ที่มี รมว.คลังชอบผู้หญิง พ่อปลื้มนั่นแหละ ในสมัยรัฐบาลสุรยุทธ์ ช่วง 2-3 อาทิตย์แรก คนนี้ฝันจะไปไกลถึงตำแหน่งนายกฯด้วยซ้ำ ปัญหาคือหลังจากนั้นตัวเองออก ก็เอาคนที่ว่านอนสอนง่าย โดยเฉพาะบรรดาสตรีทั้งสวยไม่สวย ที่พินอบพิเทาทั้งหลายในแบงค์ชาติขึ้นมาหมดเลย คนมือดี มีการศึกษา คนหัวแข็งไม่แต่งตั้งเลย หรือไม่ก็กลั่นแกล้งเขาด้วยซ้ำ วันนี้แบงค์ชาติไทยจึงอ่อนปวกเปียกยิ่งกว่าร้านโชวห่วยเสียด้วยซ้ำ มาตรการออฟชอร์ ออนชอร์ ทำเสียหายหมด 1ปีของรัฐบาลสุรยุทธ์คือความฉิบหายของระบบเศรษฐกิจไทย จากการที่อัตราแรกเปลี่ยนเงินตรา ระหว่างออฟชอ ออนชอต่างกันถึงเหรียญละ 3 บาท คนที่มั่งคั่งคือ บริษัทส่งออกขนาดใหญ่และธนาคารขนาดใหญ่เท่านั้น ส่วนธุรกิจเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้อนิสงค์เลย
“การปั่นหุ้นก็ดี ปั่นอัตราเงินตราก็ดี ช่วงรัฐบาลสุรยุทธ์เปิดโอกาสให้กลุ่มทุนทักษิณ ซึ่งอ่อนแออยู่แล้ว เนื่องจากถูกประชาชนขับไล่ สามารถสร้างเครดิตขึ้นมา คุณอยู่ในตลาดหุ้น ถ้าคุณปั่นหุ้นเป็น ทำกำไรได้ สร้างเปอร์เซ็นต์ให้โบรกเกอร์ คุณจะเอาวันละกี่สิบล้านล่ะ” ดร.ภูวดล กล่าว