“ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์” เตือนสติทหารทุกคนที่รู้เรื่องเขาพระวิหารต้องกล้าพูด และให้ข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ชาติ ไม่ต้องเกรงใจ กต.ที่ห้ามพูด-รอง ปธ.สิทธิมนุษยชนสภาทนาย “นคร ชมพูชาติ” ระบุ รัฐบาลไม่มีสิทธิปิดกั้นข่าวสาร ทุกขั้นตอนต้องโปร่งใสและฟังเสียงประชาชน
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการคมชัดลึก
วานนี้ (25 มิ.ย.) พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ ประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ คมชัดลึก ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนนัล ถึงกรณีกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ว่า การที่กระทรวงการต่างประเทศไปเซ็นลงนามสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกอยู่ฝ่ายเดียวนั้น ถือเป็นเรื่องที่มีความสุ่มเสี่ยงอยู่มาก ตนในฐานะประธานที่ปรึกษากองทัพไทยก็เคยทำหนังสือชี้แจง และเตือนกระทรวงต่างประเทศไปแล้ว ว่า ถ้าเรายอมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนอยู่ฝ่ายเดียว แล้วแผนที่ที่เขาแนบไปเป็นแผนที่คนละฉบับกับที่นำมาให้เราดู จะเกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย และจากการที่ตนลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว พบว่า พื้นรอบเขาพระวิหารมีชาวกัมพูชารุกล้ำดินแดนเข้ามามาก ซึ่งพื้นที่ก็ยังไม่ได้มีการปักปันเขตแดนอย่างชัดเจน ดังนั้น เรื่องนี้ถ้าดำเนินการไม่ดีเราจะสุ่มเสียงอย่างยิ่งที่จะสูญเสียพื้นที่ไป อีกทั้งจะส่งผลต่อความขัดแย้งทางสันติภาพ และความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีอย่างถาวรอีกด้วย
พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าวด้วยว่า ตนอยากเรียกร้องให้ทหารทุกคนอย่าสับสนว่าอะไรคือสิ่งที่เราพูดได้หรืออะไรพูดไม่ได้ เพราะทหารต้องให้ข้อมูลทุกอย่างให้ถูกต้องอย่างชัดเจน อย่ามองแค่ว่าถามมาแค่ไหนตอบแค่นั้น ไม่ใช่ว่ากระทรวงการต่างประเทศ ถามว่า ในแผนที่รุกล้ำดินแดนหรือไม่ ก็ตอบว่าแผนที่ไม่รุกล้ำ แล้วก็ไม่ได้อธิบายในรายละเอียดต่อเรื่องการไม่ยอมรับเพราะมีแนวสันปันน้ำอยู่ ส่วนการที่จะไม่พูดเพราะกระทรวงการต่างประเทศบอกว่าไม่ต้องตอบนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพราะทหารทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูดเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ
“ในส่วนของความเป็นข้าราชการคุณก็ฟัง แต่คุณต้องฟังว่าการที่คุณเงียบ มันมีผลกระทบต่อเรื่องดินแดนไหม ผมล่ะไม่เงียบคนนึงล่ะ เพราะถ้าเงียบแล้วมันเกิดปัญหาในอนาคตนะ มันไม่ใช่เรื่องของ พลเอก แต่เป็นหน้าที่ของทหารทุกคนที่เป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า คุณจะต้องเอาใจใส่ ดังนั้น การที่พูดออกมามีสิทธิ์ที่จะพูด และใครก็ห้ามไม่ได้ด้วย เพราะการห้าม คือ การผิดต่อการถวายสัตย์ปฏิญาณ ต่อการสาบานต่อธงไชยเฉลิมพล และต่อรัฐธรรม” พล.อ.ปฐมพงษ์ กล่าว
ด้าน นายนคร ชมพูชาติ รองประธานกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ กล่าวว่า อยากเตือนรัฐบาลว่าเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาลกำลังทำอยู่นั้น คุณแน่ใจแค่ไหนว่ามันไม่เสี่ยงต่อการเสียดินแดน แล้วถ้ามันเสี่ยงอยู่บ้าง มันมีความจำเป็นมากมายหรือที่จะต้องเอาประเทศและดินแดนไปเสี่ยง ถึงแม้หากมองในมุมของข้อกฎหมาย ไทยอาจจะยังไม่ได้สูญเสียอะไรไป แต่สิ่งที่ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ไปยอมเซ็นให้กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนง่ายๆ นั้น แน่ใจได้อย่างไรว่าประเทศจะไม่สูญเสียอะไรในอนาคต ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่รัฐบาลกลับสกัดกั้นการรับรู้ข่าวสารของประชาชนโดยทั่วไป ดังนั้น ตนมองว่า รัฐบาลควรทำเรื่องดังกล่าวให้โปร่งใส และฟังเสียงของประชาชนให้มากกว่านี้ มิใช่ไปตัดสินใจโดยไม่ฟังเสียงประชาชน
