ส.ส.ชาติไทย ศรีสะเกษ จวก “นพดล” แจง “พระวิหาร” ไม่เคลียร์ หวั่นเขมรจดมรดกโลกทำไทยเสียพื้นที่ทับซ้อน สงสัย “นพเหล่” ช่วยเขมรทำไม ทั้งที่ตอนไทยขดจดทะเบียนร่วมกลับไม่ยินยอม ฝากถามผ่านสื่อปล่อยชาวกัมพูชารุกพื้นที่ทับซ้อนทำไม ด้าน “บรรหาร” กำชับลูกพรรคห้ามแตกแถวเด็ดขาด
วานนี้ (25 มิ.ย.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคชาติไทย กล่าวถึงการชี้แจงกรณีประสาทเขาพระวิหารของนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ว่าตนเฝ้าติดตามดูการชี้แจงของนายนพดลมาตลอด แต่ฟังแล้วก็ยังตอบไม่ตรงประเด็นที่ฝ่ายค้านถามหลายเรื่อง และในฐานะส่วนตัวที่เป็น ส.ส.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ตนและชาวศรีสะเกษยังติดใจในคำชี้แจงของนายนพดลจึงขอถาม 3 ประเด็น คือ 1.ถ้าขึ้นทะเบียนตัวปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแล้ว พื้นที่ทับซ้อนที่มีการกล่าวอ้างรวมถึงพื้นรุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย จะดำเนินการอย่างไรเพราะประตูทางเข้าอยู่ฝั่งไทย ขณะที่ชุมชนคนเขมรที่รุกล้ำอยู่ตรงกลางและยอดเขาพระวิหารอยู่ด้านบนเป็นของเขมร และในอนาคต ถ้าเป็นมรดกโลกแล้ว ไทยจะสูญเสียพื้นที่ที่ถูกรุกล้ำและพื้นที่โดยรอบหรือไม่
ประเด็นที่ 2 การเร่งรีบรับแผนผังรูปที่ 2 ของ รมว.การต่างประเทศโดย ระบุว่า องค์การยูเนสโกจะไม่ฟังคำค้านของฝ่ายไทย ขอถามว่าองค์การยูเนสโกมีสิทธิอะไรที่จะไม่รับฟังคำคัดค้าน และประเทศเขมรจะไม่รู้เลยหรือว่า ทางยูเนสโกจะไม่รับฟังคำค้านของไทย ซึ่งหากทางเขมรรู้เช่นนั้น มันจะมีประโยชน์อะไรที่เขมรจะต้องเสียเวลามาเปลี่ยนแผนที่ให้ไทยใหม่ เพราะยิ่งทำให้พื้นที่ของเขมรลดน้อยลงและเสียประโยชน์ แล้วเขาจะทำ ทำไม และ
3.ที่ผ่านมาไทยเคยขอจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกร่วมกับทางเขมรแต่ถูกปฏิเสธ แสดงว่าเขมรไม่เคยให้ความสำคัญกับประเทศไทย เหตุใด รมว.การต่างประเทศของไทยจึงต้องไปให้ความสำคัญและช่วยเหลือรับรองสถานสัญญาในการจดขึ้นทะเบียนของปราสาทเขาพระวิหารให้เขมร ทั้งยังเป็นการสร้างความขัดแย้ง แตกแยกของคนในชาติให้แตกออกเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จึงขอให้นายนพดล เร่งชี้แจงให้ตรงประเด็นที่ถามต่อประชาชนชาวไทยโดยเฉพาะชาวศรีสะเกษที่รอฟังคำชี้แจงทั้ง 3 ข้ออยู่โดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงไม่ขออภิปรายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในข้อสงสัยที่ชาวศรีสะเกษต้องการคำชี้แจง นายสิริพงส์ กล่าวว่า จะเป็นการเสียมารยาททางการเมืองเพราะเป็น ส.ส.ร่วมรัฐบาล แต่ตนก็ฝากถามนายนพดลผ่านสื่อมวลชนแทนชาวศรีสะเกษด้วยว่า ที่ผ่านมาหลายปีผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำอะไรอยู่จึงปล่อยให้คนเขมรรุกล้ำพื้นที่ประเทศไทยเข้ามากจนเป็นชุมชนเช่นนี้ เมื่อถามต่อว่าจะยกมือไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายสิริพงส์ กล่าวว่า ต้องรอฟังมติของพรรคก่อนแล้วค่อยพิจารณา ยังมีเวลา
“เติ้ง” กำชับลูกพรรคห้ามแตกแถว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ส.ส.พรรคชาติไทยเพื่อกำหนดท่าทีของพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้านเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้กำชับให้ ส.ส.ทุกคนฟังการอภิปรายฯ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 โดยได้สั่งให้รัฐมนตรีของพรรคชาติไทยทุกคนเตรียมข้อมูลในส่วนงบประมาณของกระทรวงตนเองให้พร้อม พร้อมทั้งกำชับให้ ส.ส.ในพรรคเตรียมข้อมูลที่จะใช้ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ
สำหรับประเด็นเรื่องการยกมือในลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น นายบรรหารได้กำชับให้ ส.ส.ของพรรคยกมือไปในทิศทางเดียวกันหมด คือสนับสนุนรัฐบาลเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการสั่นคลอนของรัฐบาล เนื่องจากตามมารยาทพรรคชาติไทยถือเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องสนับสนุนเพื่อให้รัฐบาลสามารถบริหารงานต่อไปได้ ส่วนจะแก้ไขอะไรหรือไม่ ค่อยมาว่ากันอีกที