“บรรจง นะแส”ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ จวกยับระบอบแม้ว ไฟเขียวนายทุนขูดรีดพี่น้องประชาชน ชี้ระบบทุนนิยมสามานท์กำลังสร้างความแตกแยก ปูพื้นให้แต่ละครอบครัวเกิดความแตกแยก เกิดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน เชื่อถึงเวลาการเปลี่ยนแปลงในสังคมแล้ว
วันนี้ (24 มิ.ย.)เวลา 22.30 น.นายบรรจง นะแส คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ภาคใต้ ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อย้ำถึงเรื่องที่ประชาชนเป็นห่วงมากที่สุดเวลานี้ คือ มีความพยายามของคนในรัฐบาลสืบทอดระบบทุนนิยมสามานท์ ที่ฝั่งรากลึกมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ระบบทุนนิยมสามานท์กำลังก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคนรวยกับคนจน ดังนั้นสังคมไทยต้องรู้จักเรียนรู้ รักและไม่ทอดทิ้งซึ่งกันและกัน ปัญหาทุกอย่างต้องได้รับการแก้ไขอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่ปล่อยให้คนชั่วมาสร้างราคาให้กับตัวเอง สิ่งที่ผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากระบอบทักษิณ ต้องไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
ขณะเดียวกัน นักการเมืองที่กำลังพูดกันอย่างปากเปียกปากแฉะอยู่ในสภาผู้แทนราษฏร ก้ต้องดูแลเอาใจใส่ และต้องเห็นคุณค่าของของพี่น้องประชาชน อย่าปล่อยให้คนในสังคมไทยถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายทุนที่เกิดขึ้นจากระบบทุนนิยมสามานท์
นายบรรจง กล่าวอีกว่า วันนี้สังคมไทยได้เดินมาถึงจุดที่เราต้องตัดใจ ว่า การเมืองในระบบรัฐสภานั้นมันแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนไม่ได้ กี่ปีกี่ชาติที่เราปล่อยให้ระบบทุนนิยมสามานท์ หาผลประโยชน์จากคนส่วนใหญ่ของประเทศ จนเกิดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ปัญหาเหล่านี้ไม่เคยถูกหยิบยกขึ้นมาแก้ไขแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นการต่อสู้ของพันธมิตรฯ จึงเป็นการต่อสู้ที่หนักมาก
พันธมิตรฯ ต้องต่อสู้กับระบบทุนนิยมสามานท์ที่ฝั่งรากลึกมานานนับสิบปี ปูพื้นให้เราให้แต่ละครอบครัวต้องเห็นแก่ตัว หาทางช่วยเหลือตัวเองเท่านั้น ไม่มีความรักไม่มีความเผื่อแผ่ ระบบคอรัปชั่นจึงปรากฎเต็มไปหมด ใครก็ได้มีโอกาสฉกฉวยก็เอาไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าลูกเมียตัวเองจะพึ่งใคร
ถามว่า วันนี้หากทุกคนคิดได้เพียงเท่านี้ คนส่วนใหญ่ของประเทศจะทำกันอย่างไร บ้านเมืองจะเต็มไปด้วยคนยากคนจน แล้วอย่าคิดว่า พวกคนรวยหรือคนชั้นกลางจะรอด ไม่มีกำแพงใดจะสู. ไม่มีถนนใดจะโล่ง แล้วจะปลอดภัย ถ้าสังคมนั้นความยุติธรรม
นายบรรจง ยังเชื่อว่า การลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนจะต้องเกิดขึ้นในอนาคต ต้องมีเครื่องมือในอารยะประเทศทั้งหลายเอามาใช้ ไม่ว่าระบบภาษีการจำกัดการถือครองที่ดิน ภาษีมรดก และระบบภาษีก้าวหน้า จะต้องถูกหยิบมาใช้ด้วยความรักและเข้าใจของคนในสังคม สังคมถึงเวลาแล้วที่เราต้องรักและไม่ทอดทิ้งกันอีกต่อไป