xs
xsm
sm
md
lg

อำนาจเถื่อนขว้างระเบิดข่มขู่ผู้จัดการ-เอเอสทีวี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อำนาจเถื่อนสั่งขว้างระเบิดหน้าบ้านพระอาทิตย์ ที่ตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ-เอเอสทีวี ตำรวจคาดข่มขู่ พันธมิตรฯ เคลื่อนทัพบุกกกต.วันนี้ จี้ตั้งจี้ตั้งกก.สอบแก้ไขฐานข้อมูลให้ชัดเจน รวมสอบพฤติกรรมฉาวโฉ่ของ “สมชัย” ให้ประจักษ์ เตือนผู้ว่าฯทั่วประเทศระวังตกเป็นแพะ หากรับสนอง "เป็ดเหลิม" ไปบีบเคเบิ้ลท้องถิ่นให้งดถ่ายทอดสัญญาณจากเอเอสทีวี ครส.จวกรัฐบาลเถื่อนละเมิดสิทธิมนุษยชน ประชาชนแทบทุกจังหวัดรักเอเอสทีวี ประกาศอารยะขัดขืนทั่วประเทศ ด้านเครือข่ายแม้ว เดินสายปลุกระดมในภาคอีสาน ด่าพันธมิตรฯ-ล้มล้าง รธน.50

การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเครือข่ายจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อขับไล่รัฐบาลเถื่อน ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อวานนี้ (15มิ.ย.) ยังคงเป็นไปด้วยความคึกคัก มีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้แถลงข่าวถึงความคืบหน้ากำหนดการเดินทางไปให้กำลังใจคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันนี้ และพร้อมกันนี้ ยังจะเรียกร้องให้ตรวจสอบ นายสมชัย จึงประเสริฐ หนึ่งในกกต.อีกคนที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย ที่เอื้อต่อระบอบทักษิณ และพวกพ้อง

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานเครือข่ายกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า วันนี้ในเวลา 10.00 น. กลุ่มพันธมิตรฯ จะเดินทางไปให้ กกต.ทั้ง 3 ท่านคือ นายอภิชาติ สุขัคคานนท์ ประธานกกต. และนายประพันธ์ นัยโกวิท และนายสุเมธ อุปนิสากร โดยจะมี 4 แกนนำพันธมิตรฯ เดินขบวนไปด้วย ยกเว้น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่อยู่ดูแลสถานการณ์เวทีพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวาน

ทั้งนี้ เป้าหมายในการเดินขบวนดังกล่าว เพื่อให้กำลังใจกับ 3 กกต. ที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมา พร้อมกันนี้ ยังจะเรียกร้องให้ กกต.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการแก้ไขฐานข้อมูลของ กกต.ที่เอื้อต่อ นายยงยุทธ ติยะไพรัช กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เพราะประเด็นดังกล่าว สาธารณชนยังสงสัยเคลือบแคลงถึงการทำงานในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะกรณีของนายสมชัย จึงประเสริฐ หนึ่งใน กกต. ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบอบทักษิณ รวมทั้งเอื้อประโยชน์ต่อพรรคพลังประชาชนอย่างชัดเจน

ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรฯ กล่าวถึงประเด็นที่ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย สั่งระงับสัญญาณ ASTV ว่า ตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ในประเด็นดังกล่าว

ส่วนกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย ยืนยันจะยังร่วมรัฐบาลต่อไปนั้น ทางกลุ่มพันธมิตรฯ มองว่า พล.ต.สนั่น มองคนละประเด็นกับพันธมิตรฯ แต่สิทธิในการชุมนุมของพันธมิตรฯ ก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ อีกทั้งพันธมิตรฯ ก็ไม่เชื่อว่าระบบพรรคเมืองจะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้ได้

ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว เพิ่มเติมอีกว่า ทางกลุ่มพันธมิตรฯไม่เคยเชื่อในระบบรัฐสภา เพราะหากระบบรัฐสภาสามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้กลุ่มพันธมิตรฯคงไม่มานอนข้างถนนอยู่อย่างนี้ทุกวัน

กกต.ไม่กดดันกรณีพันธมิตรฯ บุก

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรฯจะเดินทางมาให้กำลังใจ กกต.3 คน และมอบพวงหรีดให้แก่นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนวินิจฉัยว่า ไม่มีปัญหาพันธมิตรฯ คงมาตามที่ได้ประกาศไว้ โดย กกต.ทุกคนก็ไม่รู้สึกกดดัน และคงไม่ต้องสั่งเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยมากนัก เพียงแค่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติมเท่านั้น และส่วนตัวคงจะมารับข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม คิดว่าการเดินทางมาครั้งนี้ไม่ได้เป็นการมาเพื่อดิสเครดิต กกต. โดยยืนยันว่าที่ผ่านมา กกต.ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่เคยเข้าข้างใคร เพราะทำทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา ไม่เคยเป็นพวกใคร และไม่อยากให้ใครเป็นพวก

เตือนผู้ว่าฯ ระวังเป็นแพะ

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย มีคำสั่งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ดำเนินการปิดเอเอสทีวี ว่า ขณะนี้จะเห็นได้ว่าร.ต.อ.เฉลิม ออกมาพลิกลิ้น โดยอ้างว่าไม่ได้มีคำสั่งดังกล่าว แต่ก็ยังมีผู้ว่าราชการบางจังหวัด พยายามหยุดการถ่ายทอดภาพของ เอเอสทีวี ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ดูคำสั่งของ ร.ต.อ.เฉลิมให้ชัดเจนก่อน จะทำอะไรต้องใช้วิจารณญาณให้ดีก่อนที่จะดำเนินการ ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายร่วมกับรัฐมนตรี ทำผิดรัฐธรรมนูญ

"ขอให้คนที่เป็นนายกฯ และรัฐมนตรี เลิกพฤติกรรมแบบนี้ เป็นการพูดกลับไปกลับมา ลดทอนความน่าเชื่อถือของตัวเองลงไป การที่ร.ต.อ.เฉลิม พูดชัดเจนว่าภาคภูมิใจกับการทำให้คนสองคนพึงพอใจ ด้วยการสั่งปิดเอเอสทีวี เพื่อไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร) และนายสมัคร( สุนทรเวช) จึงอยากถามกลับไปว่าในฐานะ รมว.มหาดไทย ได้ทำอะไรให้กับประชาชน 64 ล้านคน แล้วหรือยัง ปัญหาต่างๆได้มีการแก้ไขบ้างหรือยัง เช่น ภาคใต้เคยลงไปดูบ้างหรือไม่ จึงขอรียกร้องให้หยุดทำงานให้กับคนเพียงแค่สองคน ควรเก็บสิ่งเหล่านั้นไว้ในลิ้นชัก แล้วหันกลับมาทำงานให้กับประชาชน ไม่อย่างนั้นเวลาจะเหลือน้อยเต็มที " นายบุญยอดกล่าว

จี้กรมกร๊วกดูแล NBT ให้เป็นกลาง

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ คณะกรรมการ จะยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อทวงถามข้อมูลการดำเนินการตรวจสอบ กรณีของสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ซึ่งเป็นสื่อของรัฐ เสนอข่าวขาดความเป็นกลาง ที่อาจจะกระทบต่อภาครัฐ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่า มีเอกชนเข้าไปดำเนินรายการข่าว และมีการเสนอข่าวที่ไม่เป็นกลาง และอาศัยสื่อของรัฐเป็นช่องทางเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง ซึ่งขัดต่อสัญญาข้อ 4 จึงจำเป็นจะต้องตรวจสอบแผนการดำเนินการ โดยจะขอให้ส่งข้อรายละเอียดของรายการข่าว และผู้ดำเนินการรายการ มาเพื่อทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง

อย่างไรก็ตาม หากพบว่าการนำเสนอต่างๆ เกิดความไม่เป็นกลางจริงก็จะเสนอให้ยกเลิก และในครั้งต่อไปควรจะมีการตั้งคณะกรรมการที่มีความเป็นกลางเป็นที่ยอมรับของสังคมมาพิจารณาเพื่อไม่ให้สื่อของรับถูกใช้เป็นเครื่องมือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และหากนายกฯ จะมีการปรับ ครม.ควรจะต้องคิดว่าไม่ควรที่จะนำรัฐมนตรีที่เป็นสายล่อฟ้ามาอยู่ในองค์กรนี้ และอย่าเอากลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ เข้ามากำกับดูแล เหมือนที่ผ่านมา

"หมัก"ช่วย"เหลิม"ขู่เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ตอบคำถามประชาชนทางบ้าน ในช่วงท้ายของรายการ"สนทนาประสาสมัคร" ที่อยากให้ดำเนินการโดยเร็วกับ เอเอสทีวี ที่มีการใช้ถ้อยคำหยาบคายโจมตีนายกรัฐมนตรีทุกวัน ว่า เรื่องนี้ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้ดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่ และท่านได้แถลงแล้วว่า ไม่ได้สั่งปิด แต่จะดำเนินคดีเพราะไอ้ความหยาบคาย และหมิ่นประมาทคนอื่นเขา

"เคเบิ้ลทีวีทั้งหลาย ถ้าใครดูอยู่ ก็ฟังไว้ก็แล้วกัน ว่าคุณถ่ายทอดอันนั้นไป คุณก็ทำผิดด้วย เขาก็จะฟ้องคุณ เท่านั้นเอง เขาไม่ได้สั่งปิดคุณ ถ้าคุณไม่ถอด ก็เอาไว้อย่างนั้นก่อน เขาคงทำเป็นลายลักษณ์อักษรเตือนไปให้ เพราะไปอยู่บนเสาไฟฟ้าเขาด้วย ไปทำความผิด ดังนั้นถ้าคุณถ่ายทอด คุณก็จะผิดด้วย เขาเตือนเท่านั้น และเขาก็จะดำเนินคดี ซึ่งถ้าใครทำผิดแล้วถูกดำเนินคดี จะก่อให้เกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีปัญหา คนที่ดำเนินการเขาต้องรับผิดชอบ ซึ่งได้มีการดำเนินการแล้ว" นายกรัฐมนตรีกล่าว

ซัด "หมัก" หยาบคายกว่าพันธมิตรฯ

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร ยอมรับว่า มีส่วนร่วมในการสั่งการร่วมกับร.ต.อ.เฉลิม ให้ปิดเคเบิลทีวี ที่ถ่ายทอดรายการจากเอเอสทีวี ว่า

"นายกฯ บอกว่าที่ปิด เพราะว่าเวทีพันธมิตรฯ ใช้วาจาหยาบคาย แต่เขาไม่รู้หรือว่าเวทีพันธมิตรฯ ล้วนแล้วแต่เป็นคนไม่มีตำแหน่ง ไม่มีหัวโขน ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่เป็นชาวบ้าน นักวิชาการธรรมดาๆ ที่รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ แต่ความหยาบคายก็ยังน้อยกว่าคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี อย่างนายสมัคร"

นายสมเกียรติ กล่าวว่า นายสมัครหยาบคายอย่างไร ตนจะนำคำพิพากษาคดีที่นายสมัคร ถูกสั่งจำคุกฐานหมิ่นประมาท นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ มาอ่านที่เวทีแห่งนี้ นอกจากนั้น อยากให้ย้อนไปดูคำพูดของนายสมัคร เมื่อวันที่ 10 ก.พ.49 ในรายการ"เมืองไทยเช้านี้" ทางช่อง 5 ซึ่งนายสมัคร พูดถึงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ มีการใช้คำว่า "ไอ้" ซึ่งหยาบคายและสามานย์มาก

จวกนายกฯ-มท.1 ตลบตะแลง

ด้าน นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า การที่นายสมัครและร.ต.อ.เฉลิม บอกจะปิดเอเอสทีวีโดยสั่งการไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัด พอถูกประชาชนต่อต้านก็ตลบตะแลงว่าไม่ได้พูดอย่างนั้น เป็นถึงนายกฯและรัฐมนตรี แต่มีพฤติกรรมแบบนี้
         
"ผมขอเตือนผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ต้องอารยะขัดขืน อย่าไปทำตามคำสั่ง ร.ต.อ.เฉลิม ไม่เช่นนั้นท่านจะซวย เพราะรัฐมนตรีเอาตัวรอด เห็นประชาชนต่อต้านจึงต้องรีบกลับคำ บอกไม่ได้พูด อย่างนี้คบไม่ได้ และการที่นายกฯถามว่าเมื่อไหร่เราจะเลิกประท้วง เราขอประกาศเลยว่าเราจะไม่เลิกประท้วง จนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีการแก้ไขรธน.มตรา 309 และต้องนำพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อศาลตัดสินออกมาอย่างไรเรายอมรับ แต่ขณะนี้มีความพยามที่จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมตลอดเวลาของรัฐบาลนิมินี แล้วจะมาบอกให้เราเลิกชุมนุม เราไม่เลิกชุมนุมแน่ เพราะเราต้องสู้กับความไม่ถูกต้องชอบธรรมจนกว่าจะได้รับชัยชนะ" นายพิภพกล่าว

"จำลอง" ร้อง ทหารอย่านิ่งเฉยกรณีเขาพระวิหาร

เมื่อเวลา 21.00น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชานเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวที กล่าวถึงการทีประเทศไทยได้เสียเขาพระวิหารไปให้กับประเทศกกัมพูชา ว่า การเจรจาในเรื่องการครอบครองเขาพระวิหารระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชานั้น ทหารของไทยควรเข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ด้วย เพราะเพียงแค่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเพียงคนเดียวไปเจรจากับทางประเทศกัมพูชานั้นไม่ประสบความสำเร็จ แต่หากมีทหารเดินทางไปด้วย การเจรจาในเรื่องนี้จะเกิดผลดีเพราะประเทศกัมพูชาจะเกิดความเกรงใจและเกรงกลัวประเทศไทย ซึ่งตนเองในฐานะทหารขอเรียกร้องให้ทหารในกองทัพอย่านิ่งเฉยต่อเรื่องดังกล่าว

ครส.จวกหมักละเมิดสิทธิมนุษยชน

ด้าน คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.) ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง หยุดละเมิดสิทธิพลเมือง หยุดใช้อำนาจมิชอบ ปิดกั้นข้อมูลข่าวสารของประชาชน ซึ่งคำสั่งดังกล่าว ครส. มีความเห็นว่า เป็นการลุแก่อำนาจ และละเมิดสิทธิมนุษยชนในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และการไม่ออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรนั้น อาจเพราะกลัวการถูกฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ฐานการออกคำสั่ง การใช้อำนาจหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้ ซึ่งสะท้อนถึงความไม่จริงใจในการบริหารราชการแผ่นดินและการใช้อำนาจในทางมิชอบอย่างชัดเจนของ รมว.มหาดไทย (อ่านรายละเอียดในล้อมกรอบ)

เครือข่าย"แม้ว"ปลุกระดมอีสาน

รายงานข่าวจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยขอนแก่น แจ้งว่า เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา "กลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน" นำโดยนายพิชิต พิทักษ์ ซึ่งอ้างว่ามีความสัมพันธ์กับคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ภาคอีสาน และ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ได้เกณฑ์ชาวบ้านในเขตจ.ขอนแก่น และใกล้เคียงประมาณ 70 คน เข้าร่วมการสัมมนาในหัวข้อ "ขบวนคนรุ่นใหม่ภาคอีสาน" ที่ห้องประชุมสถาบันวิจัยและพัฒนา (RDI) มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยอ้างกับ RDI ว่า จะมาอบรมเยาวชน พอช. แต่เมื่อถึงเวลาสัมมนา กลับเป็นเวทีเคลื่อนไหวของฝ่ายระบอบทักษิณ โดยนายจรัล ดิษฐาอภิชัย ร่วมกับนักวิชาการมหาวิทยาลัยขอนแก่น คือ รศ.ดร.บัวพันธ์ พรหมพักพิง อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ ม.ขอนแก่น ร่วมกันอภิปรายโจมตีรัฐธรรมนูญ 2550 การปฏิวัติของทหาร และการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ตลอดทั้งวัน

ทั้งนี้ การจัดสัมมนาครั้งนี้ ติดป้ายเวทีตัวใหญ่ว่า "ยึดหลักประชาธิปไตย ต่อต้านรัฐประหาร เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550" รวมทั้งประกาศว่า จะตระเวนจัดเวทีปลุกระดมให้พี่น้องชาวอีสานร่วมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และต่อต้านการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ

รายงานแจ้งว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ เป็นการเคลื่อนไหว 3 ประสาน ระหว่าง นปก. นักวิชาการ และเอ็นจีโออีสานบางกลุ่ม ซึ่งคาดว่าจะได้รับทุนสนับสนุนจากฝ่ายระบอบทักษิณจำนวนมาก ทั้งนี้ จากที่ได้พูดคุยกับชาวบ้านบางคนบอกว่า ได้รับค่าจ้างมาร่วมประชุม 500 บาท และที่สำคัญ คนกลุ่มนี้ ส่วนหนึ่งมุ่งสร้างความน่าเชื่อถือในการเคลื่อนไหวของตนเอง โดยพยายามไปอิงกับเอ็นจีโอบางคน และใช้ชื่อสถาบันการศึกษาที่ทำงานกับชุมชน เช่น สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อให้ดูเหมือนว่า หน่วยงานเหล่านี้ร่วมจัดด้วย ซึ่งในวันนั้นนักวิชาการสถาบันแห่งนี้ได้ร่วมกันต่อต้าน และให้ปลดป้ายรณรงค์ของกลุ่มทันที เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยที่จะใช้ชื่อสถาบันมาปรากฏบนป้ายของกลุ่ม

นอกจากนี้ ยังมีข้อสงสัยต่อการทำงานของคนกลุ่มนี้ เช่น หัวข้อและกลุ่มเป้าหมายของการสัมมนา ไม่ใช่เรื่องอบรมคนรุ่นใหม่ตามที่อ้าง แต่เป็นเวทีปลุกระดมการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และด่าพันธมิตรฯ ตลอดงาน รวมทั้งยังมีความพยายามสร้างภาพด้วยการมาจัดที่ RDI ทั้งที่ใน จ.ขอนแก่น มีสถานที่จัดงานมากมาย โดยเฉพาะห้องประชุมของหน่วยงานราชการอื่นๆ ใน จ.ขอนแก่น ที่ยินดีอ้าแขนรับ เพราะทั้งกลไกการเมือง และราชการในขอนแก่นยังคงตกอยู่ภายใต้การครอบงำของระบอบทักษิณอยู่แล้ว หรือแม้แต่ที่คณะมนุษยศาสตร์ฯ ต้นสังกัดของนักวิชาการที่มาร่วมขบวนการ ก็ไม่ไปจัด

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่านายพิชิต พิทักษ์ ที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดสัมมนาครั้งนี้เคยทำงานอยู่ที่มูลนิธิดวงประทีป ของนางประทีป อึ้งทรงธรรม มาก่อน

ส่วนรศ.ดร.บัวพันธ์ พรหมพักพิง ก็เป็นนักวิชาการฝ่ายซ้าย ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่มีความสนิทสนมกับ นายอดิศร เพียงเกษ 1 ใน 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเนื่องจากคดียุบพรรค

ภาคประชาชน-เคเบิ้ลอารยขัดขืนทั่วประเทศ

จากการที่ ร.ต.อ.เฉลิม อย่าบำรุง รมว.มหาดไทย ได้สั่งการด้วยวาจาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศบีบเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นให้ตัดสัญญาณเอเอสทีวี โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จากแยกสะพานมัฆวานฯ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ศูนย์ข่าวภูมิภาค “ผู้จัดการรายวัน” ได้ประมวลความเคลื่อนไหวของภาคประชาชนต่อกรณีนี้ทั่วประเทศ พบว่า ประชาชนในแทบทุกจังหวัดต่างมีปฏิกิริยาตอบโต้คำสั่งโดยไม่ชอบของ รมว.มหาดไทยครั้งนี้อย่างกว้างขวางและเป็นไปในวงกว้าง

การแสดงออกของภาคประชาชนที่เด่นชัด ประกอบด้วย มีการชักชวนรวมตัวกันเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในกรุงเทพฯมีปริมาณเพิ่มขึ้น มีการประกาศว่าจะรวมกลุ่มแสดงพลังยังจวนผู้ว่าฯหรือศาลากลางจังหวัด รวมถึงการตั้งจอโปรเจกเตอร์ถ่ายทอดเอเอสทีวีเพิ่มมากขึ้น ส่วนในเมืองใหญ่ๆ ที่มีการดำเนินการอยู่แล้วประชาชนก็ไปร่วมให้กำลังใจเพิ่มขึ้น เป็นต้น และที่ปรากฏการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนชัดเจนส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ที่เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นมีการตัดสัญญาณเอเอสทีวีจริง โดยเฉพาะในภาคอีสานและภาคเหนือ(อ่านรายละเอียดในล้อมกรอบ)

สมาคมเคเบิลฯ พบ "เป็ดเหลิม" วันนี้

นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล อุปนายก สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯโดยระดับกรรมการบริหารประมาณ 10 กว่าคน จะเดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในวันนี้เวลา 13.00 น.ที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อชี้แจงและแสดงเจตนารมณ์ต่อวิชาชีพ โดยเฉพาะกรณี การที่สมาชิกสมาคมฯแพร่ภาพสัญญาณของเอเอสทีวี ซึ่งทำไปอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ทุกอย่าง

“เราต้องการแสดงเจตนารมณ์ว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนไม่ว่ากรณีอะไรในครั้งต่อๆไป ก่อนหน้าที่กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการอะไร ควรแจ้งให้กับสมาคมฯทราบก่อน เพื่อทำความเข้าใจและประสานงานกับสมาชิกให้ถูกต้อง ชัดเจน เพราะถ้าหากสั่งเรื่องผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด อาจจะเกิดความคลาดเคลื่อนสื่อสารกันผิดทาง ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายเหมือนครั้งนี้อีก”

“จากนี้ไปหากกระทรวงมหาดไทยจะมีคำสั่งอะไรออกมา ควรทำเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน ว่าจะห้ามหรือสั่งการอะไร เป็นทางการออกมาก่อน ไม่ใช่เป็นเพียงการพูดต่อๆกันมาเหมือนอย่างคราวนี้ ทำให้ผู้รับคำสั่งอย่างผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ทำงานไม่สะดวก ขณะที่ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีเองก็สับสนว่าจะเอายังไงกันแน่”

อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯคงจะต้องพิจารณาหรือประเมินอีกครั้ง หากมีคำสั่งอะไรออกมาอีก ไม่ใช่ว่าจะต้องปฎิบัติตามทุกครั้ง เพราะเราเป็นสื่อสารมวลชน ซึ่งสมาคมฯมีข้อกำหนดชัดเจนอยู่ว่า เคเบิลทีวีต้องเป็นสื่อสารมวลชนที่ดีของประชาชน ให้ข่าวสารข้อมูลอย่างรอบด้าน ไม่สังกัดค่ายใดค่ายหนึ่ง ทุกคนที่ออกอากาศผ่านเคเบิลทีวีของสมาคมฯจะต้องถูกต้องตามกฎหมาย แล้วให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจในข้อมูลข่าวสารที่รับนั้นเองว่าเป็นอย่างไร ไม่ใช่เอเอสทีวีเท่านั้น ของเนชั่นชันแนล หรือค่ายอื่นเราก็นำเสนอให้

ขว้างระเบิดขู่หน้า สนพ.ผู้จัดการ

เมื่อเวลาประมาณ 22.19 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ซึ่งเป็นที่ตั้งของหนังสือพิมพ์ในเครือผู้จัดการได้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว 2 ครั้ง โดยจากการตรวจสอบข้อมูลในเบื้องต้นคาดว่า น่าจะเป็นระเบิดปิงปองเพื่อข่มขู่ เนื่องจากไม่พบเศษวัสดุที่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น