xs
xsm
sm
md
lg

“เนทีวี” ขนสารพัดหน่วยงาน แก้ต่างให้ “หุ่นเชิด” กรณีพระวิหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


NBT เชิญหลายหน่วยงาน แก้ต่างเรื่องเขาพระวิหาร ยันไทยไม่มีสิทธิในตัวปราสาท ท่องคาถายังไงก็ไม่เสียดินแดน “ปองพล” ตอกกลับ กระทรวงต่างประเทศน่าจะพยายามให้มากกว่านี้ เพื่อขอจดมรดกโลกร่วมกับกัมพูชา ให้สองประเทศได้ประโยชน์สูงสุด

คลิกที่นี่เพื่อฟังรายการ ถามจริง-ตอบตรง

วันที่ 23 มิ.ย.รายการถามจริงตอบตรง ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ดำเนินรายการโดย นายจอม เพชรประดับ ได้เชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาออกรายการ หลังจากเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกรณีกระทรวงการต่างประเทศของไทยลงนามในข้อตกลงสนับสนุนให้กัมพูชาจดทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งทำให้ไทยเสียสิทธิ?จะทวงคืนปราสาทพระวิหารและเสี่ยงต่อการสูญเสียพื้นที่ดดยรอบปราสาทพระวิหารที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนไปด้วย

พล.ท.แดน มีชูอรรถ เจ้ากรมแผนที่ทหาร ยืนยันว่า ตัวปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชาอย่างแน่นอนตามที่ศาลโลกได้ตัดสินไปแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเขตแดน เพราะเรื่องของเขตแดนจะต้องมีการปักปันเขตแดนกันใหม่ในพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการดังกล่าวก็กำลังดำเนินการในพื้นที่ทับซ้อนบริเวณอื่นๆ อยู่ ส่วนในพื้นที่บริเวณเขาพระวิหารนั้น ยังไม่ได้มีการปักปันอย่างแน่ชัดว่าตรงไหนเป็นของใคร เพราะทางคณะกรรมการยังดำเนินการไปไม่ถึงพื้นที่ตรงนั้น แต่ยืนยันว่าเรื่องการเมืองจะไม่มีส่วนเข้ามาแทรกแซงเรื่องการปักปันเขตแดนอย่างแน่นอน เพราะตนซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการชุดดังกล่าว ก็จะทำไปตามหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุด โดยไม่มีอะไรมาแทรกแซงได้

ด้าน นายเพ็ญศักดิ์ ชลารักษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า ไทยไม่มีทางที่จะไปทวงปราสาทเขาพระวิหารกลับมาเป็นของไทยอย่างแน่นอน เพราะศาลโลกได้ตัดสินไปแล้วว่าเป็นของกัมพูชา ดังนั้นการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชา จึงเป็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้

ส่วนคำถามที่ว่า ไทยเคยขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกร่วมกับกัมพูชาหรือไม่นั้น นายเพ็ญศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศเคยติดต่อไปแล้ว แต่ทางกัมพูชาไม่ยินยอม ด้วยอาจเป็นเพราะทางกัมพูชายังหวาดระแวงไทย แต่ก็ยืนยันว่า ทางกระทรวงได้พยายามดำเนินการมาแล้ว

ส่วนกรณีพื้นที่ทับซ้อนบริเวณใกล้เขาพระวิหารที่มีชาวกัมพูชาเข้ามาสร้างบ้านเรือนอยู่นั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศก็พยายามแก้ไข โดยการทำหนังสือทักท้วงไปแล้วหลายครั้ง และก็ทำมาตลอด ซึ่งก็สรุปได้ว่าไทยยังคงอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ไม่ได้นิ่งเฉยต่อปัญหานี้แต่อย่างใด ซึ่งตนยืนยันว่ากระทรวงต่างประเทศ จะดำเนินการตามหลักการแน่นอน และจะไม่ยอมให้การเมืองเข้ามามีส่วนร่วม หรือส่งผลในเรื่องของเขตแดนอย่างเด็ดขาด

ขณะที่ นายกฤต ไกรจิตติ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ปัญหาการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารนั้น เดิมทีแล้วกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารโดยนำพื้นที่ทับซ้อนยื่นจดทะเบียนไปด้วย แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศโดยการนำของรัฐมนตรีว่าการ นายนพดล ปัทมะ ได้ทำหนังสือทักท้วง จนกัมพูชายอมขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทพระวิหารเท่านั้น

ดังนั้น จึงอยากทำความเข้าใจกับประชาชนว่า การลงนามยอมรับแผนที่ของกัมพูชาที่รัฐบาลได้เซ็นชื่อไปนั้น เป็นเรื่องของการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องเขตแดน ดังนั้นการที่รัฐบาลไทยยินยอมเซ็นแผนที่ของกัมพูชาและสนับสนุนการจดทะเบียนเขาพระวิหารนั้นเป็นเพียงแถลงการณ์ร่วม ไม่ใช่เรื่องของสนธิสัญญา จึงไม่จำเป็นต้องผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร

อนึ่ง สำหรับ นายกฤต ไกรจิตติ เป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ คนใหม่ ที่มาแทน นายวีระชัย พลาดิศัย อธิบดีคนเดิมที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อกัมพูชากรณีเขาพระวิหาร และกระทำการขัดใจรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศหลายเรื่อง

ด้าน นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การที่กัมพูชาจะขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป้นมรดกโลกนั้น ตนมองว่า ต้องรวมกับโบราณสถานย่อย ที่อยู่ในไทยจึงจะเข้าเกณฑ์ เป็นมรดกโลกได้ แต่ถ้าจะขอขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทนั้นเป็นไปได้ยาก จึงเห็นว่า เรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศน่าจะพยายามเจรจาขอขึ้นทะเบียนร่วมให้ได้ แม้จะอ้างว่าเคยขอไปแล้วแต่โดนปฏิเสธ แต่ก็น่าจะพยายามอีกสักครั้ง เพราะหากทำได้จะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อีกทั้งไทยและกัมพูชาก็จะได้รับผลประโยชน์สูงสุดร่วมกันด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น