ผู้จัดการออนไลน์ - “พิเชฐ” ชูหลักฐาน “นพดล” ขายชาติ กรณีเขาพระวิหาร ชี้คำให้สัมภาษณ์ปลัดก.ต่างประเทศ และ “ปองพล” เป็นเสียงเดียวกันต้องติดคุก พร้อมฉายเล่ห์อุบายรัฐแก้ปมยุบสภา วันจันทร์-พุธ ยอมให้ ส.ว.และฝ่ายค้านอภิปราย พอจบเร่งพิจารณากม.งบประมาณ เสร็จแล้วประกาศยุบสภาหนีประชาชน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิเชษฐ พัฒนโชติ ปราศรัย
วันนี้ (21 มิ.ย.) เมื่อเวลา 19.30 น. นายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภา ขึ้นเวทีปราศรัยกลุ่มพันธมิตรประชาชนฯ โดยกล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น และตื้นตันใจกับการรวมตัวของพี่น้องประชาชนที่มากันเต็มไปหมด ดังนั้น สิ่งที่ มท.1 อย่างเฉลิมพูดว่ามาเพิ่มตอนกลางคืนแค่วันละ 200 ร้อยคน ก็ไม่เป็นไรเพราะจะมีคนร่วมการชุมนุมเพิ่มขึ้นทุกวัน และไม่ลดลงจนเต็มหน้าทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ นายพิเชฐ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ได้มีการพูดถึงเขขาพระวิหารมาโดยตลอด ตอนนี้เริ่มปรากฏชัดแล้วว่า รัฐบาลโดยเฉพาะ รมว.ต่างประเทศ โกหก เพราะล่าสุดปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้ออกมาให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า คำตัดสินของศาลโลกเรื่องเขาพระวิหารเป็นของเขมรนั้น แต่มีบางส่วนเป็นของไทย ไล่มาตั้งแต่ตัวโบสถ์ ปราสาทเมืองต่ำ สระน้ำ เป็นต้น แต่เรื่องนี้นายนพดล กลับกล่าวอ้างเพียงว่ามีเฉพาะแค่ตัวปราสาทเท่านั้นที่เป็นของไทย อย่างไรก็ตามแม้ตัวปราสาทเป็นของไทยแล้วไปเซ็นมอบให้เขมรทำไม
ขณะเดียวกัน เมื่อเขมรทำการขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ตอนนั้นประเทศไทยก็ได้รู้เรื่องดังกล่าว และยังทราบถึงกรณีปัญหานั่นคือพื้นที่ทับซ้อน โดยภาครัฐได้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกันระหว่างทั้ง 2ประเทศ แต่ฝ่ายเขมรไม่ยอมด้วย ส่วนภาครัฐบาลไทย แทนที่จะเร่วดำเนินการวิธีอื่น กลับนิ่งเฉยตามไปด้วย ซึ่งเท่ากับเป็นการละเลยหน้าที่ที่พึงปฏิบัติ หรือเหมือนกับการขายชาตินั่นเอง
“สิ่งที่ปลัดกระทรวงการต่างประเทศออกมาพูดนั้น ก็เหมือนกับสิ่งที่เรานำมาหยิบยก หรือนำมานำเสนอแก่พี่น้องประชาชนทั้งสิ้น ดังนั้นจึงเป็นหลักฐานที่แน่ชัดว่า นพดลนั้นขายชาติ”
นอกจากนี้ จากคำให้สัมภาษณ์ของปลักกระทรวงการต่างประเทศ ทำให้ได้รัยทราบว่าในส่วนของการปักหลักดินแดนไทย ณ บริเวณดังกล่าวนั้นกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการแต่ต้องใช้เวลาอีหลายปี
นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากปลัดกระทรวงการต่างประเทศ แล้ว นายปองพล อดิเรกสาร อดีต รมว.ต่างประเทศ ก็ออกมาให้ความเห็นว่านายนพดล กระทำผิด เพราะมติที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเพียงแค่การยอมรับหรือไม่ยอมรับแผนที่ของรัฐบาลเขมรที่ส่งมาให้เท่านั้น ไม่ใช่สิทธิที่นายนพดลจะสามารถเซ็นเอกสารยอมรับให้เขมรได้ ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีความผิดตามมาตรา 190 ซึ่งจะทำให้รมว.ต่างประเทศคนนี้ติดคุกทันที
นอกจากนี้ นักธุรกิจชาวไทยรายหนึ่งซึ่งทำธุรกิจในเขมร และเวียดนาม ได้ส่งข้อมูลมาให้ตนว่า เรืองดังกล่าวล้วนมีผลประโยชน์ของทักษิณ เกี่ยวข้อง นั่นคือเพื่อแลกกับผลประโยชน์ในเรื่องเกาะกง ตามที่ทักษิณ และอุนเซ็นได้มีการเจรจากันไว้ อีกทั้งทักษิณมีแผนที่จะนำโครงการโรงไฟฟ้าเช่นเดียวกับที่บ่อนอก หินกรูดไปดำเนินการที่เขมร แต่ที่น่าสังเกตุนั่นคือ ต่อไปก็จะพยายามให้ประเทศไทยเข้าไปซื้อกระแสไฟฟ้าจากที่นี้เข้ามาใช้ในประเทศนั่นเอง
แฉเล่ห์รัฐบาลแก้ปมยุบสภา
นายบพิเชฐ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่ภายในทำเนียบว่ารัฐบาลได้สั่งให้ส่งจดหมายไปยังพรรคการเมืองต่างๆ รวมถึง ส.ว.ว่ารัฐบาลยอมเปิดให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยในวันจันทร์นี้เปิดโอกาสให้ ส.ว.ได้อภิปราย และวันอังคาร-พุธ เปิดให้ฝ่ายค้านอภิปราย พอวันพฤหัสบดี ก็จะเปิดพิจารณากฏหมายด้านงบประมาณทันที
“นี่คือแผนการของรัฐบาลที่จ้องการแก้ปมปัญหาเรื่องที่ไม่สามารถยุบสภาได้ โดยเปิดโอกาสให้ ส.ว.และส.ส.อภิปราย พออภิปรายเสร็จก็จะเร่งพิจารณากฎหมายงบประมาณทันที และพอจัดการเรียบร้อย ก็จะทำการยุบสาภหนีพี่น้องประชานไป นี่คือเล่ห์อุบายของภาครัฐ ที่ต้องจับตาส่วนวิธีแก้ไขหรือจะดำเนินการอย่างไรกับรัฐบาลดังกล่าวต่อไปนั้น ขอให้อดใจไว้รอรับฟังจากบรรดาแกนนำสมาชิกในคืนนี้”
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิเชษฐ พัฒนโชติ ปราศรัย
วันนี้ (21 มิ.ย.) เมื่อเวลา 19.30 น. นายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภา ขึ้นเวทีปราศรัยกลุ่มพันธมิตรประชาชนฯ โดยกล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น และตื้นตันใจกับการรวมตัวของพี่น้องประชาชนที่มากันเต็มไปหมด ดังนั้น สิ่งที่ มท.1 อย่างเฉลิมพูดว่ามาเพิ่มตอนกลางคืนแค่วันละ 200 ร้อยคน ก็ไม่เป็นไรเพราะจะมีคนร่วมการชุมนุมเพิ่มขึ้นทุกวัน และไม่ลดลงจนเต็มหน้าทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ นายพิเชฐ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ได้มีการพูดถึงเขขาพระวิหารมาโดยตลอด ตอนนี้เริ่มปรากฏชัดแล้วว่า รัฐบาลโดยเฉพาะ รมว.ต่างประเทศ โกหก เพราะล่าสุดปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้ออกมาให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า คำตัดสินของศาลโลกเรื่องเขาพระวิหารเป็นของเขมรนั้น แต่มีบางส่วนเป็นของไทย ไล่มาตั้งแต่ตัวโบสถ์ ปราสาทเมืองต่ำ สระน้ำ เป็นต้น แต่เรื่องนี้นายนพดล กลับกล่าวอ้างเพียงว่ามีเฉพาะแค่ตัวปราสาทเท่านั้นที่เป็นของไทย อย่างไรก็ตามแม้ตัวปราสาทเป็นของไทยแล้วไปเซ็นมอบให้เขมรทำไม
ขณะเดียวกัน เมื่อเขมรทำการขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ตอนนั้นประเทศไทยก็ได้รู้เรื่องดังกล่าว และยังทราบถึงกรณีปัญหานั่นคือพื้นที่ทับซ้อน โดยภาครัฐได้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมกันระหว่างทั้ง 2ประเทศ แต่ฝ่ายเขมรไม่ยอมด้วย ส่วนภาครัฐบาลไทย แทนที่จะเร่วดำเนินการวิธีอื่น กลับนิ่งเฉยตามไปด้วย ซึ่งเท่ากับเป็นการละเลยหน้าที่ที่พึงปฏิบัติ หรือเหมือนกับการขายชาตินั่นเอง
“สิ่งที่ปลัดกระทรวงการต่างประเทศออกมาพูดนั้น ก็เหมือนกับสิ่งที่เรานำมาหยิบยก หรือนำมานำเสนอแก่พี่น้องประชาชนทั้งสิ้น ดังนั้นจึงเป็นหลักฐานที่แน่ชัดว่า นพดลนั้นขายชาติ”
นอกจากนี้ จากคำให้สัมภาษณ์ของปลักกระทรวงการต่างประเทศ ทำให้ได้รัยทราบว่าในส่วนของการปักหลักดินแดนไทย ณ บริเวณดังกล่าวนั้นกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการแต่ต้องใช้เวลาอีหลายปี
นายพิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากปลัดกระทรวงการต่างประเทศ แล้ว นายปองพล อดิเรกสาร อดีต รมว.ต่างประเทศ ก็ออกมาให้ความเห็นว่านายนพดล กระทำผิด เพราะมติที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเพียงแค่การยอมรับหรือไม่ยอมรับแผนที่ของรัฐบาลเขมรที่ส่งมาให้เท่านั้น ไม่ใช่สิทธิที่นายนพดลจะสามารถเซ็นเอกสารยอมรับให้เขมรได้ ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีความผิดตามมาตรา 190 ซึ่งจะทำให้รมว.ต่างประเทศคนนี้ติดคุกทันที
นอกจากนี้ นักธุรกิจชาวไทยรายหนึ่งซึ่งทำธุรกิจในเขมร และเวียดนาม ได้ส่งข้อมูลมาให้ตนว่า เรืองดังกล่าวล้วนมีผลประโยชน์ของทักษิณ เกี่ยวข้อง นั่นคือเพื่อแลกกับผลประโยชน์ในเรื่องเกาะกง ตามที่ทักษิณ และอุนเซ็นได้มีการเจรจากันไว้ อีกทั้งทักษิณมีแผนที่จะนำโครงการโรงไฟฟ้าเช่นเดียวกับที่บ่อนอก หินกรูดไปดำเนินการที่เขมร แต่ที่น่าสังเกตุนั่นคือ ต่อไปก็จะพยายามให้ประเทศไทยเข้าไปซื้อกระแสไฟฟ้าจากที่นี้เข้ามาใช้ในประเทศนั่นเอง
แฉเล่ห์รัฐบาลแก้ปมยุบสภา
นายบพิเชฐ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่ภายในทำเนียบว่ารัฐบาลได้สั่งให้ส่งจดหมายไปยังพรรคการเมืองต่างๆ รวมถึง ส.ว.ว่ารัฐบาลยอมเปิดให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยในวันจันทร์นี้เปิดโอกาสให้ ส.ว.ได้อภิปราย และวันอังคาร-พุธ เปิดให้ฝ่ายค้านอภิปราย พอวันพฤหัสบดี ก็จะเปิดพิจารณากฏหมายด้านงบประมาณทันที
“นี่คือแผนการของรัฐบาลที่จ้องการแก้ปมปัญหาเรื่องที่ไม่สามารถยุบสภาได้ โดยเปิดโอกาสให้ ส.ว.และส.ส.อภิปราย พออภิปรายเสร็จก็จะเร่งพิจารณากฎหมายงบประมาณทันที และพอจัดการเรียบร้อย ก็จะทำการยุบสาภหนีพี่น้องประชานไป นี่คือเล่ห์อุบายของภาครัฐ ที่ต้องจับตาส่วนวิธีแก้ไขหรือจะดำเนินการอย่างไรกับรัฐบาลดังกล่าวต่อไปนั้น ขอให้อดใจไว้รอรับฟังจากบรรดาแกนนำสมาชิกในคืนนี้”