ประชาชนคนไทยใช้สิทธิร้องศาลปกครองวันอังคารที่ 24 มิ.ย.นี้ ขอไต่สวนฉุกเฉินระงับการลงนามในแถลงการณ์ร่วมขายชาติยกปราสาทเขาพระวิหารให้เขมร “สนธิ” ขอประชามติให้ดำเนินคดีกับ ครม.ทั้ง 35 คนข้อหาขายชาติ พร้อมให้จดจำสอนบทเรียนพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรคอย่าให้คนพวกนี้ได้เกิดทางการเมืองอีกต่อไป
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันนี้ (20 มิ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีที่หน้าสนามม้านางเลิ้ง ประกาศว่า ในวันอังคารที่ 24 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้ไต่สวนฉุกเฉินไม่ให้ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงนามในแถลงการณ์ร่วมยอมรับให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก และเชื่อว่า ฟ้ามีตาแน่นอน
นายสนธิ ย้ำว่า กระบวนการทางกฎหมายที่รัฐบาลดำเนินการเอาไว้ยังไม่เรียบร้อย เพราะยังต้องผ่านกระบวนการอีกหลายขั้นตอนดังนั้นจึงยังไม่มีผล
“เวลานี้เรายึดอำนาจรัฐด้วยการเอาธรรมนำหน้า โดยไม่เสียเลือดเนื้อแม้แต่หยดเดียว เวลานี้คนไทยจะไม่ให้นักการเมืองชั่วมาหลอกใช้คำพูดถ่อยว่าผมมาจากการเลือกตั้งได้อีกต่อไป” นายสนธิ ระบุ
นายสนธิ กล่าวว่า ที่ผ่านมา เคยพูดว่าเมื่อเขมรยื่นจดทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ทำไมเราจึงไม่ยื่นควบคู่เข้าไปด้วย ไม่รู้ว่าจะตายกันหรือไง และวันนนี้มีการพิสูจน์ชัดแล้วว่ามีการทำข้อตกลงลับบางอย่าง
แกนนำพันธมิตรฯผู้นี้ ยังระบุอีกว่า ที่ผ่านมาเคยพูดเรื่องการฮุบเกาะกูด แล้วมีนักวิชาการหลายคนหัวเราะหากว่าเล่านิทานโกหกให้ฟัง อยากถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคยเปลี่ยนนิสัยโกหกหรือไม่ ยังพูดอย่างทำอย่างเหมือนเดิม
นายสนธิ ยังได้ขอประชามติพี่น้องประชาชนโดยเสนอให้ดำเนินคดีกับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะในข้อหาขายชาติ
“ไม่ใช่เฉพาะ นายสมัคร มักกับนพดลต้องติดคุกเท่านั้น ครม.ทั้ง 35 คนต้องติดคุกด้วย ถ้าเห็นด้วยก็ให้โหวตยกมือ” นายสนธิ ระบุพร้อมยกตัวอย่างแม้แต่ถ้าจะขายที่ดินสักแปลงยังต้องถามพ่อแม่ แต่นี่เป็นผลประโยชน์ด้านอธิปไตยเป่นแผ่นของชาติยังไม่ถามประชาชนสักคำ
นายสนธิ ย้ำอีกว่า พรรคการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการขายชาติในครั้งนี้ ให้จดจำพรรคการเมืองต่อไปนี้นอกจากพรรคพลังประชาชนแล้ว ยังมีพรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน มัชฌิมาธิปไตย รวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคประชาราช
“ให้จำชื่อ นายบรรหาร ศิลปอาชา นายเสนาะ เทียนทอง นายสุวิทย์ คุณกิตติ นายสมศักดิ์ และ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน และ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ให้จดจำชื่อหัวหน้าพรรคและพรรคเหล่านี้เอาไว้ อย่าให้คนพวกนี้ได้เกิดทางการเมืองอีกต่อไป” นายสนธิ ระบุ
เพลงต้องห้ามในยุค 2505 แต่งและร้องโดย คำรณ สัมบุญณานนท์ถูกรัฐบาล สั่งห้ามเปิดออกอากาศ ณ ช่วงเวลานั้น
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันนี้ (20 มิ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีที่หน้าสนามม้านางเลิ้ง ประกาศว่า ในวันอังคารที่ 24 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้ไต่สวนฉุกเฉินไม่ให้ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลงนามในแถลงการณ์ร่วมยอมรับให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก และเชื่อว่า ฟ้ามีตาแน่นอน
นายสนธิ ย้ำว่า กระบวนการทางกฎหมายที่รัฐบาลดำเนินการเอาไว้ยังไม่เรียบร้อย เพราะยังต้องผ่านกระบวนการอีกหลายขั้นตอนดังนั้นจึงยังไม่มีผล
“เวลานี้เรายึดอำนาจรัฐด้วยการเอาธรรมนำหน้า โดยไม่เสียเลือดเนื้อแม้แต่หยดเดียว เวลานี้คนไทยจะไม่ให้นักการเมืองชั่วมาหลอกใช้คำพูดถ่อยว่าผมมาจากการเลือกตั้งได้อีกต่อไป” นายสนธิ ระบุ
นายสนธิ กล่าวว่า ที่ผ่านมา เคยพูดว่าเมื่อเขมรยื่นจดทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ทำไมเราจึงไม่ยื่นควบคู่เข้าไปด้วย ไม่รู้ว่าจะตายกันหรือไง และวันนนี้มีการพิสูจน์ชัดแล้วว่ามีการทำข้อตกลงลับบางอย่าง
แกนนำพันธมิตรฯผู้นี้ ยังระบุอีกว่า ที่ผ่านมาเคยพูดเรื่องการฮุบเกาะกูด แล้วมีนักวิชาการหลายคนหัวเราะหากว่าเล่านิทานโกหกให้ฟัง อยากถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคยเปลี่ยนนิสัยโกหกหรือไม่ ยังพูดอย่างทำอย่างเหมือนเดิม
นายสนธิ ยังได้ขอประชามติพี่น้องประชาชนโดยเสนอให้ดำเนินคดีกับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะในข้อหาขายชาติ
“ไม่ใช่เฉพาะ นายสมัคร มักกับนพดลต้องติดคุกเท่านั้น ครม.ทั้ง 35 คนต้องติดคุกด้วย ถ้าเห็นด้วยก็ให้โหวตยกมือ” นายสนธิ ระบุพร้อมยกตัวอย่างแม้แต่ถ้าจะขายที่ดินสักแปลงยังต้องถามพ่อแม่ แต่นี่เป็นผลประโยชน์ด้านอธิปไตยเป่นแผ่นของชาติยังไม่ถามประชาชนสักคำ
นายสนธิ ย้ำอีกว่า พรรคการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการขายชาติในครั้งนี้ ให้จดจำพรรคการเมืองต่อไปนี้นอกจากพรรคพลังประชาชนแล้ว ยังมีพรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน มัชฌิมาธิปไตย รวมใจไทยชาติพัฒนา และพรรคประชาราช
“ให้จำชื่อ นายบรรหาร ศิลปอาชา นายเสนาะ เทียนทอง นายสุวิทย์ คุณกิตติ นายสมศักดิ์ และ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน และ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ให้จดจำชื่อหัวหน้าพรรคและพรรคเหล่านี้เอาไว้ อย่าให้คนพวกนี้ได้เกิดทางการเมืองอีกต่อไป” นายสนธิ ระบุ
เพลงต้องห้ามในยุค 2505 แต่งและร้องโดย คำรณ สัมบุญณานนท์ถูกรัฐบาล สั่งห้ามเปิดออกอากาศ ณ ช่วงเวลานั้น