“นพดล” แจงแผนที่อาณาเขตเขาพระวิหาร ที่กัมพูชา เสนอ ผ่าน สมช.แล้ว เตรียมให้ ครม.อนุมัติวันนี้ อ้างทุกอย่างโปร่งใส กัมพูชากั้นเขตเฉพาะตัวปราสาท ส่วนเขตทับซ้อนยังคงไว้ เตรียมนำแผนที่ออกเผยแพร่เร็วๆ นี้ เผยรับไม่ได้ ถูกพันธมิตรฯ ด่า ท่องคาถาเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชน
วานนี้ (16 มิ.ย.) นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ในรายการตอบโจทย์ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ทีวีสาธารณะ ดำเนินรายการโดย กรุณา บัวคำศรี ถึงความคืบหน้ากรณีกัมพูชาเสนอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกว่า ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เห็นชอบแผนที่แสดงอาณาเขตของทางเขมรแล้ว ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็คือเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้พิจารณาอนุมัติในวันนี้
ส่วนรายละเอียดของแผนที่นั้น คาดว่า อีกไม่กี่วันข้างหน้าสังคมจะได้เห็นแผนที่ดังกล่าว และเมื่อนั้นก็จะมีความชัดเจนมากขึ้นว่าการดำเนินการในเรื่องนี้ ที่สุดแล้วประเทศไทยไม่มีการสูญเสียดินแดนของเราไปแม้แต่ตารางนิ้วเดียว เนื่องจากแผนที่ของกัมพูชา ที่ส่งมาในครั้งนี้เป็นการระบุเขตแดนเฉพาะบริเวณตัวพระวิหารเท่านั้น ส่วนพื้นที่ทับซ้อนรอบๆ ตัวปราสาท ทางกัมพูชาก็เขียนว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนร่วมกันของไทย-กัมพูชา ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการร่างข้อตกลงบริหารพื้นที่ทับซ้อนดังกล่าวร่วมกันแล้ว
ต่อคำถามว่า กรณีที่พบว่า มีชาวกัมพูชาเข้ามาปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ในบริเวณเขตพื้นที่ทับซ้อนทางขึ้นเขาพระวิหารจนทำให้ชาวบ้านอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ไม่พอใจและรวมตัวประท้วง กระทรวงต่างประเทศจะแก้ไขปัญหาอย่างไร นายนพดลกล่าวว่า เรื่องของการรุกล้ำอธิปไตยนั้น เป็นเรื่องของทหารที่จะปกป้องหรือขับไล่ผู้รุกล้ำ กระทรวงต่างประเทศมีหน้าที่หลักในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเรา ไม่มีสิทธิ์ไปไล่ใคร เรามีสิทธิ์เพียงส่งหนังสือประท้วงว่าไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าวเท่านั้น
นายนพดล กล่าวต่อไปว่า กรณีที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาตนว่า มีผลประโยชน์ทับซ้อนในเรื่องเขาพระวิหารนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง การดำเนินการทุกอย่างในเรื่องนี้เป็นไปอย่างโปร่งใส ส่วนเรื่องที่จะนำดินแดนของประเทศไปแลกกับผลประโยชน์(ในการขอสัมปทานขุดก๊าซในเขตทับซ้อนทางทะเล)ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะแค่คิดก็ผิดแล้ว ดังนั้นในเรื่องนี้หากฝ่ายค้านมีข้อข้องใจใดๆ จะยื่นอภิปราย ตนก็ยินดี จะได้ถือเป็นโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาชนด้วย
ผู้ดำเนินรายการ ถามว่า มีความคิดเห็นอย่างไรต่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายนพดล กล่าวว่า จริง ๆ แล้วการชุมนุมโดยสงบเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ตนก็คงไม่ว่าอะไร แต่พักหลังเริ่มเห็นได้ชัดว่า พันธมิตรฯ มีจุดมุ่งหมายขับไล่และด่าทอรัฐบาล เช่นวานนี้บนเวทีพันธมิตรฯ ก็ด่าว่าตนอย่างเสียๆ หายๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนยอมรับไม่ได้ และก็หวังว่าประชาชนคงไม่ให้น้ำหนักกับคำพูดเหล่านั้น แต่ก็ไม่อยากจะตอบโต้นัก เพราะเรื่องบางเรื่องก็ไร้สาระเกินกว่าจะตอบโต้
นายนพดล กล่าวด้วยว่า ตนเห็นว่า ไม่ยุติธรรมที่พันธมิตรฯ ออกมาขับไล่รัฐบาลตอนนี้ เพราะรัฐบาลก็เพิ่งทำงานมาได้ไม่นาน และตนก็อยากจะถามว่า พันธมิตรฯ เป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และสาเหตุที่รัฐบาลจะออกจากตำแหน่งมีเพียง 2 อย่างเท่านั้น คือ ยุบสภา และลาออก ด้วยตัวเอง พันธมิตรฯ ไม่มีสิทธิ์มาขับไล่