พันธมิตรฯ โต้ “หมัก” ให้ย้อนมองตัวเองก่อนกล่าวหาคนอื่นใช้คำหยาบ เหน็บทำไขสือไม่รู้โครงการเช่ารถเมล์ 6 พันคันมีใต้โต๊ะ จวกปากกล้าขาสั่น อ้างไม่กลัวอภิปราย แต่กลับบอกไม่จำเป็น แถมบิดเบือนกล่าวหา ส.ส.-ส.ว.สอดไส้ แฉเกมยื้อหวังถ่วงเรื่องรอโครงการบางอย่างผ่านอนุมัติ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเหล่าแกนนำพันธมิตรฯ ตอบโต้รายการ “สนทนาประสาสมัคร”
เมื่อเวลา ประมาณ 11.20 น.วันนี้ (15 มิ.ย.) แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายพิภพ ธงไชย ได้เป็นตัวแทน 5 แกนนำ ขึ้นเวทีเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อตอบโต้รายการ “สนทนาประสาสมัคร” ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์กระจายเสียงแห่งประเทศไทย หรือเอ็นบีที ในช่วงเช้าที่ผ่านมา
นายสมเกียรติ กล่าวว่า มีประเด็นที่จะพูดถึงรายการที่นายสมัครพูดเมื่อเช้านี้ คือเรื่องแรก นายสมัครยังคงยอมรับว่ามีส่วนร่วมในการสั่งการร่วมกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ให้ปิดเคเบิลทีวีที่ถ่ายทอดรายการจากเอเอสทีวี
“นายกฯ คนนี้บอกว่าที่ปิดเพราะว่าเวทีพันธมิตรฯ ใช้วาจาหยาบคาย แต่เขาไม่รู้หรือว่าเวทีพันธมิตรฯ ล้วนแล้วแต่เป็นคนไม่มีตำแหน่ง ไม่มีหัวโขน ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่เป็นชาวบ้าน นักวิชาการธรรมดาๆ ที่รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ แต่ความหยาบคายก็ยังน้อยกว่าคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างนายสมัคร” นายสมเกียรติกล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า นายสมัครหยาบคายอย่างไร คืนนี้จะนำคำพิพากษาคดีที่นายสมัครถูกสั่งจำคุกฐานหมิ่นประมาทนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ มาอ่านที่เวทีแห่งนี้ นอกจากนั้น อยากให้ย้อนไปดูคำพูดของนายสมัคร เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2549 ในรายการ “เมืองไทยเช้านี้” ทางช่อง 5 ซึ่งนายสมัครพูดถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มีการใช้คำว่า “ไอ้” ซึ่งหยาบคายและสามานย์มาก
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า พันธมิตรฯ อาจพูดคำหยาบคายบ้าง แต่ก็ด้วยอารมณ์ที่ต้องกให้คนชั่วออกไป ร.ต.อ.เฉลิม บอกว่า พันธมิตรฯ ชอบใช้คำว่า ไอ้ อี มึง กู แต่ไม่ทราบว่ารัฐมนตรีดอกเตอร์คนไหนที่พูดในงานวันเกิดว่า กูไม่กลัวพันธมิตร กูไม่กลัวมึง ก็ในเมื่อรัฐมนตรีพูดก่อน เราก็พูดบ้าง เพราะเป็นชาวบ้าน แต่คนเป็นนายกรัฐมนตรีเคยพูดกับนักข่าวว่า “หุบปาก” “คุณถามหาหอกอะไร” “เมื่อคืนคุณเสพเมถุนมาหรือเปล่า”
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมา นายสมัครบอกว่า ไม่สบายใจที่มีคนกล่าวหาว่าได้เงินจากการเช่ารถเมล์ติดก๊าซเอ็นจีวี 6 พันคัน คันละ 1 ล้านบาท โดยนายสมัครได้ 2 พันล้านบาท คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ได้ 2 พันล้านบาท และนายเนวิน ชิดชอบได้ 2 พันล้านบาท ซึ่งนายสมัครบอกว่าอยากทราบว่าจะได้เงินมาจากไหน ก็อยากจะถามนายสมัครว่าแล้วโครงการรถดับเพลิงได้เงินมาอย่างไร เรื่องนี้ต้องย้อนไปถึงคำให้สัมภาษณ์ของนายเสนาะ เทียนทอง ในหนังสือรู้ทันทักษิณว่า ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ในการเขียนโครงการต่างๆ คุณหญิงพจมานได้บอกให้เพิ่มงบประมาณเพิ่มอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อหาเงินเข้าพรรค โดยเจ้าของโครงการต้องไปตกลงกับคนของเขา แล้วเสนอเข้า ครม.โดยผ่านคนที่เป็นลูกจ้างเขามาก่อน แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณจะเสนอเข้า ครม.เองแล้วอนุมัติเอง นอกจากนี้นายเสนาะยังสารภาพว่า ทุกวันนี้ยังไม่มีใครรู้เลยว่า 10 เปอร์เซ็นต์นั้นมีอยู่เท่าไหร่ เพราะฉะนั้นกรณีโครงการเช่ารถเมล์ 6 พันคัน จะไม่ให้มีคนสงสัยได้อย่างไร
**ซ่อนเงื่อนยื้ออภิปราย
ส่วนประเด็นที่ นายสมัคร กล่าวว่า ส.ส. ส.ว.กระเหี้ยนกระหือรือที่จะเปิดอภิปรายทั่วไปในช่วงสมัยประชุมวิสามัญ โดยอ้างว่าเขาไม่กลัวแต่ไม่จำเป็นที่จะเปิดอภิปรายในช่วงนี้ นายสมเกียรติ กล่าวว่า อย่างนี้เรียกว่าปากกล้าขาสั่น อ้างว่าไม่กลัว แต่กลับบอกว่าไม่จำเป็นต้องเปิด เหมือนกับที่ปากกล้าบอกว่าจะแตกหักกลับผู้ชุมนุม พอทหารไม่เอาด้วยก็บอกว่า ไม่เคยบอกว่าจะสลายการชุมนุม เช่นเดียวกับที่ ร.ต.อ.เฉลิม บอกว่าให้ปิดเอเอสทีวี แต่เมื่อวานก็พูดใหม่ว่า ไมได้บอกว่าให้ปิด และเมื่อย้อนไปปี 2549 ตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณขายหุ้นชินคอร์ปฯ ให้เทมาเส็ก พันธมิตรฯ เตรียมออกมาชุมนุมขับไล่ ก็บอกว่าจะเปิดสภาให้ซักถาม ไม่ให้ใช้กลไกข้างถนน แต่แล้วก็ยุบสภาหนี
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า คำพูดของนายสมัครที่บอกว่า ส.ส.-ส.ว. สอดไส้ยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปนั้นเป็นคำพูดที่เหมือนกับซ่อนอะไรเอาไว้ เพราะที่จริงแล้วเรื่องนี้ ไม่ใช่การสอดไส้ แต่เป็นการทำตามหน้าที่ และการที่นายสมัครไม่ต้องการให้เปิดในสมัยประชุมวิสามัญนี้ โดยให้รอเปิดในสมัยหน้า ซึ่งก็จะเป็นสมัยนิติบัญญัติ ก็จะไม่สามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ เท่ากับเป็นการยื้อเวลาไม่ให้เปิดอภิปราย เพื่อรอให้โครงการบางอย่างเสร็จก่อน เพราะฉะนั้นนายสมัครเองที่สอดไส้ซ่อนเงื่อนเอาไว้ พรรคฝ่ายค้านจะขอเจรจาเพื่อเปิดอภิปรายก็ไม่มาตามนัด อ้างว่ามี ส.ส.พรรคหนึ่งยื่นขอเปิดอภิปรายไปแล้วจึงไม่มา
ส่วนกรณีที่นายสมัครบอกให้ประชาชนไปแจ้งจับผู้ชุมนุมนั้น นายสมเกียรติกล่าวว่า ถึงไปแจ้งอย่างไรก็ไม่มีความผิด เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยเลขที่ 11/2549 ที่บอกว่า การออกกฎหมายห้ามประชาชนจัดชุมนุมบนทางหลวงนั้นทำไม่ได้ เพราะเป็นการขัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน จะห้ามได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุอันควร เมื่อประเทศอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือประกาศภาวะสงครามเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะจับผู้ชุมนุมก็ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ ศาลปกครองกลางสงขลาก็ได้วินิจฉัยแล้วว่าการที่ตำรวจสลายการชุมนุมของประชาชนที่มาต่อต้านท่อก๊าซที่ จ.สงขลานั้น ไม่สามารถทำได้เพราะประเทศไม่ได้อยู่ในภาวะฉุกเฉิน และสั่งให้ตำรวจจ่ายค่าชดเชยให้ประชาชนคนละ 1 หมื่นบาท
ในช่วงท้าย นายสมเกียรติ กล่าวว่า นายสมัครเลือกเอาจดหมายจากประชาชนที่ถูกใจตัวเองมาอ่าน ที่ไม่ถูกใจก็ทิ้งไป จดหมายที่เขาเลือกมาอ่านก็กล่าวหาว่า ทำไมสื่อชอบเสนอข่าวม็อบ เพราะคนชอบดูข่าวม็อบ แล้วบอกว่าคนทางเหนืออย่าเอาตัวอย่างภาคอื่น ซึ่งภาคอื่นก็มีอีสาน กลาง ใต้ แสดงว่ายังมีคนที่ยังชอบนายสมัครอยู่นิดเดียวไม่กี่จังหวัด ไม่กี่อำเภอ ซึ่งการชุมนุมของพันธมิตรฯ ทำให้รัฐบาลนายสมัครหนักใจมาก เคยประกาศจะสลายการชุมนุม แต่เมื่อทหารและตำรวจส่วนใหญ่ไม่เอาด้วย ก็สั่งผู้ว่าฯ ให้ปิดเอเอสทีวี แต่ปรากฏว่า ผู้ว่าฯ หลายจังหวัดก็ถูกประชาชนไปล้อมจวน จนต้องยอมให้เปิด และโดยกฎหมายก็สั่งปิดไม่ได้ จึงเชื่อว่ารัฐบาลคงอกแตกตายในวันกี่วันข้างหน้านี้
**ปากอ้างมาจากเลือกตั้งแต่ปฏิเสธกลไกสภา
ด้านนายภิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึง นายสมัคร ไม่ยอมให้ให้ฝ่ายค้านได้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในสมัยประชุมสภาวิสามัญว่า รัฐบาลชุดนี้มาจากการเลือกตั้ง แต่กลับปฎิเสธกลไกระบบรัฐสภาที่จะมีการตรวจสอบ รวมถึงการตรวจสอบของภาคประชาชน ทั้งๆที่นายสมัครรู้ดีว่ากลไกตรวจสอบของระบบรัฐสภาไม่มีประสิทธิภาพ ทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ นายสมัครก็ยังปิดกั้น แล้วอย่างนี้จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร แสดงให้เห็นว่านายสมัคร เป็นเผด็จการรัฐสภา ไม่ยอมรับการตรวจสอบของระบอบประชาธิปไตย
นายภิภพ กล่าวต่อว่า นายสมัคร ยังมีหน้าไปเปรียบเทียบกับ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี อีก โดยอ้างว่านายอานันท์มีปม เป็นนายกฯมาจากระบบเผด็จการ แต่ตนเองมาจากระบบประชาธิไตย มาจากการเลือกตั้ง แต่พฤติกรรมไม่ได้มาจากระบบประชาธิไตยเลย ขนาดอาจารย์ป๋วย อึ้งภาการณ์ มาจากเผด็จการระบบทหาร แต่มีจุดยืนประชาธิปไตย ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ผลงานเป็นที่ยอมรับของประชาชน ดีกว่านายกที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้ปกป้องผลประโยชน์ประเทศชาติ โกหกไปวันๆทั้งตัว นายสมัครและร.ต.อ.เฉลิม บอกจะปิดเอเอสทีวีโดยสั่งการไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัด พอถูกประชาชนต่อต้านก็ตลบตะแลง ว่าไม่ได้พูดอย่างนั้น เป็นถึงนายกฯและรัฐมนตรี แต่มีพฤติกรรมแบบนี้ แถมไม่ฟังเสียงส.ส.ในสภา ประชาชน สื่อมวลชน ที่วิพากษ์วิจารณ์ เชื่อว่านำไปสู่จุดจบของรัฐบาลนาสมัครแน่นอน
"ผมขอเตือนผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ต้องอารยะขัดขืน อย่าไปทำตามคำสั่ง ร.ต.อ.เฉลิม ไม่เช่นนั้นท่านจะซวย เพราะรัฐมนตรีเอาตัวรอด เห็นประชาชนต่อต้านจึงต้องรีบกลับคำ บอกไม่ได้พูด อย่างนี้คบไม่ได้ และการที่นายกฯถามว่าเมื่อไหร่เราจะเลิกประท้วง เราขอประกาศเลยว่าเราจะไม่เลิกประท้วง จนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีการแก้ไขรธน.มตรา 309 และต้องนำพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อศาลตัดสินออกมาอย่างไรเรายอมรับ แต่ขณะนี้มีความพยามที่จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมตลอดเวลาของรัฐบาลนิมินี แล้วจะมาบอกให้เราเลิกชุมนุม เราไม่เลิกชุมนุมแน่ เพราะเราต้องสู้กับความไม่ถูกต้องชอบธรรมจนกว่าจะได้รับชัยชนะ" นายภิภพกล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวถึง รัฐบาลเร่งโครงการใหญ่ รวมทั้งกรณีการจะยกเลิกโครงการรถเมล์ร้อนและเปลี่ยนเป็นรถแอร์ว่า นายสมัคร ไม่เคยพูดเรื่องวิธีการที่จะป้องกันการทุจริต ทำทุกอย่างให้โปร่งใสเลย เพราะเป็น รัฐบาลนอมินี ไม่เป็นตัวของตัวเอง ดีแต่ทำตามคำสั่งรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ในขณะที่รัฐบาลของ นายอานันท์ และอ.ป๋วย รัฐบาลเผด็จการไม่สามารถก้าวล่วงได้ อยากถามว่านายสมัคร กล้าลาออกไหม
**จวกคิดเปรียบตัวเองกับ"อานันท์"
ขณะที่ นายสมศักดิ์ โกสัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า รายการสนทนาประสาสมัคร ดีแต่พูดโกหกไร้สาระไม่มีเนื้อหาอะไร แต่ชอบกล่าวหาพันธมิตรฯ ว่าใช้วาจาหยาบคาย แต่การที่ตัวเองไปจ้องหน้าสื่อแบบนั้นหยาบคายยิ่งกว่า มีนายกฯ ที่ไหนทำแบบนั้นเหมือนเพิ่งออกจากโรงพยาบาลบ้า แล้วบอกว่าเป็นลูกเจ้าพระยาฯ แต่ถูกศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 2 ปี ในข้อหาหมิ่นประมาท และถ้าศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น นายสมัครจะต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 182 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ แม้ว่าจะมีความพยายามยื้อเรื่องนี้ออกไป แต่ตนก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องเดินหน้าต่อไป
"นายกฯ แบบนี้ยังมีกล้ามีหน้าไปเปรียบเทียบกับ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯอีก เทียบกันไม่ได้เลย เพราะรัฐบาลนี้บริหารประเทศมา 4 เดือนก็ถูกประชาชนขับไล่แล้ว ถ้าปล่อยให้บริหารประเทศต่อไปเป็น 6 เดือน บ้านเมืองฉิบหายแน่ เป็นนายกฯ หุ่นเชิด ไม่รู้อะไรชั่วอะไรดี ผมทราบข่าวมาว่ามีการโกงที่ดินที่เป็นที่สาธารณะ แถวอำเภอปรานบุรี ขณะนี้ส.ส.เค้ากำลังตรวจสอบอยู่ อีกไม่นานคงจะได้รู้ว่าเป็นใคร ขณะนี้ประชาชนลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลแล้ว ก็ไม่ควรจะอยู่ปบริหารประเทศต่อไป เรา 5 แกนนำพันธมิตรพร้อม ให้รัฐบาลตรวจสอบทรัพย์สิน แต่รัฐบาลนี้กลับไม่กล้าให้สภาฯและประชาชนตรวจสอบ แค่นี้ก็หมดความชอบธรรมแล้ว"
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึง โครงการเปลี่ยนรถเมล์ ขสมก.ที่นายสมัครบอกว่า มีการโกงน้ำมัน วิธีการแก้จะต้องปลดพนังานออกครึ่งหนึ่ง เรื่องนี้เล็กน้อย แต่การโกงรถดับเพลิงมูลค่ากว่า 6 พันล้าน เสีบหายมากกว่าหลายเท่า มีการจัดซื้อแบบวิธีพิเศษ สมัยนายสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. และขณะนี้ก็กำลังเร่งโครงการใหญ่ กินค่าหัวคิวเท่าไหร่ และจะยุบสภาหนี เป็นรัฐบาลหนีปัญหาตลอด ไม่เคยคิดที่จะแก้ปัญหา รัฐบาลนี้หมดเวลา
คำต่อคำ “หมัก” ขาสั่นแจงไม่ให้อภิปราย-ไขสือใต้โต๊ะรถเมล์ 6 พันล้าน