กลุ่มแพทย์รุมถล่ม "ไชยา" สั่งทบทวนซีแอลสมคบบริษัทยาข้ามชาติ ทำให้ชาวบ้านตาดำๆต้องบริโภคยาราคาแพง เชื่อกระบวนการยุติธรรมจัดการกับนักการเมืองโกงได้ พร้อมให้จำบทเรียนทุจริตยาที่ลากคออดีตรัฐมนตรีติดคุก
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "รู้ทันประเทศไทย"
วันนี้(14 มิ.ย.) ที่เวทีสะพานมัฆวานฯ ในช่วงรู้ทันประเทศไทย ได้มีการให้ความรู้ในเรื่องการทำซีแอลยาให้คนจนเข้าถึงยาคุณภาพ โดยมี นางจิราพร ลิมประนานนท์ อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นพ.ประวิทย์ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท ร่วมรายการ
นางจิราพร ชี้ให้เห็นถึงความอยุติธรรมที่บริษัทยาข้ามชาติใช้ระบบสิทธิบัตรยามาเอาเปรียบประชาชนในประเทศยากจน รวมทั้งประชาชนคนยากคนจน ทำให้ต้องบริโภคยาแพงเกินความเป็นจริง อย่างไรก็ดีมีทางออกคือการทำซีแอล คือสามารถไปใช้สิทธซื้อยาราคาถูกจากที่อื่นได้ ซึ่งที่ผ่านมาทางอดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข นพ.มงคล ณ สงขลา ได้ทำซีแอลยาเอาไว้ และทำให้ยาที่ใช้สำหรับรักษาโรคสำคัญบางอย่าง เช่น เอดส์ มะเร็งมีราคาถูกทำให้คนจนเข้าถึงยาคุณภาพมากขึ้น หรือแม้กระทั่งยารักษาเอดส์ถ้าไม่ทำซีแอลคนจนก็จะไม่สามารถเข้าถึงยาได้เลย เพราะมีราคาแพง
นางจิราพร ย้ำว่าการทำซีแอลยาถูกต้องตามกฎหมายและทำให้ยาบางตัวมีราคาลดลงมาหลายเท่าตัว ยกตัวอย่างยารักษามะเร็งเต้านมจากเดิมราคา 230 บาทลดลงมาเหลือ 6 บาท หรือยารักษามะเร็งปอดเดิมราคาเม็ดละ 2,750 บาทเหลือ 735 บาท เท่านั้น และว่าถ้าเราไม่ทำซีแอล ก็ไม่สามารถใช้กลไกราคาต่อรองได้
นพ.ประวิทย์ ย้ำว่าการทำซีแอลยาทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาราคาถูกและมีคุณภาพได้อีกนับแสนคน กรณีที่ นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทบทวนการทำซีแอล อาจเป็นเพราะมีผีห่าซาตานคอยกระซิบให้ทำ ซึ่งอาจถูกถอดถอนเพราะความโง่
นพ.ประวิทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุกยุคจะมีตัวแทนบริษัทยาเข้ามาวิ่งเต้นกับนักการเมือง ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจะมีจิตสำนึก มโนธรรมแค่ไหน แต่กรณีของ นายไชยา ไม่อยากบอกว่าโง่หรือโกง รู้แต่ว่าคนสองหมื่นได้ยื่นถอดถอนไปแล้ว และเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะสามารถจัดการกับนักการเมืองโกง และสามารถเอาติดคุกได้ พร้อมชี้ให้เห็นบทเรียนกรณีอดีตรัฐมนตรีสาธารณสุขที่เคยติดคุกในกรณีทุจริตยามาแล้ว