วอร์รูมลูกกรอกยังปากดีท้า ส.ส.ฝ่ายค้าน ส.ว.เปิดอภิปราย แต่ “หมัก” ไม่เล่นด้วย จับแพะชนแกะ อ้างพันธมิตรฯจับมือ ปชป.จ้องโค่นพลังแม้วทั้งในและนอกสภา มั่วนิ่ม กกต.-พันธมิตรฯแตกคอ เพราะขัดแย้งภายใน
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่พรรคพลังประชาชน นายสุนัย จุลพงศธร และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ คณะทำงานศูนย์ติดตามและวิเคราะห์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พรรคพลังประชาชน ร่วมกันแถลงข่าว โดย นายสุนัย แถลงว่า การยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติของพรรคประชาธิปัตย์นั้น จากการติดตามข่าวน่าจะไม่มีการอภิปรายเกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ศูนย์ฯอยากให้มีการอภิปรายเกิดขึ้น แต่ไม่ทราบว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะอยากให้ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งมีบทบาทและแสดงตัวตนให้สังคมรู้ว่าคุณภาพเป็นเช่นใด และมีความเชื่อมโยงกับผู้ที่แต่งตั้งให้รับตำแหน่ง คือ คมช.อย่างไรบ้าง
การยื่นญัตติของพรรคประชาธิปัตย์นั้น น่าสนใจโดยเฉพาะการเช่ารถเมล์ของ ขสมก.มูลค่า 1 แสนล้านบาท นั้น มีมูลค่าสูงมาก ประชาชนฟังแล้วอาจตกใจ แต่เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์คงสงสัย เปรียบเสมือนในช่วงรัฐบาลที่แล้ว ซึ่ง สตช.เช่ารถมูลค่าสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท แต่กรณีนั้นรถเช่าเพื่อนำมาใช้ภายใน สตช.แต่กรณีนี้เป็นการทำเพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้ใช้บริการ ส่วนกรณีที่ นายถาวร เสนเนียม ระบุว่า เสียงข้างน้อยอภิปรายรัฐบาลไปก็ทำอะไรไม่ได้นั้น ตนไม่อยากให้ดูถูก ส.ส.เพราะหากเรื่องนี้มีเงื่อนงำจริง ตนก็จะไม่ยกมือวางใจให้ด้วยเช่นกัน
นายสุนัย กล่าวว่า เมื่อวานนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ยกเรื่องของ นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ ขึ้นมาในช่วงอภิปรายร่าง พ.ร.บ.ประชามตินั้น มันตรงกับสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯกำลังโจมตีรัฐบาล วันนี้จึงเกิดภาพชัดเจนขึ้น ว่า พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรฯร่วมงานกันทั้งในและนอกสภา สิ่งสำคัญ คือ มีการวิจารณ์เรื่องนี้มาก ซึ่งผิดหลัก เพราะเรื่องนี้อยู่ในชั้นศาล หากมีการวิจารณ์ขึ้นอาจจะเข้าข่ายหมิ่นเหม่ได้” นายสุนัย กล่าว
นายสุนัย กล่าวต่อว่า ตนห่วงเพื่อนๆ กลุ่มพันธมิตรฯมาก โดยเฉพาะนักการเมืองในอดีตและปัจจุบันที่ไปร่วมการชุมนุม วันนี้สังคมเกิดความไร้ระเบียบมาก มีการด่าพระ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติไม่ตรงกับสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯคิดไว้ แต่สิ่งที่ร้ายที่สุด คือ กลุ่มพันธมิตรฯเริ่มด่าทหาร ว่า ผู้นำทหารระดับสูงไม่ใช่ทหารเสือพระราชา และทหารเสือพระราชินีตัวจริง แต่ผู้ชุมนุม คือ ทหารเสือตัวจริง ตรงนี้คือ การสบประมาท ขอเตือนว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯจะชุมนุมก็ทำไป แต่อย่าไปสบประมาททุกสถาบันในสังคม เพราะมันจะสร้างภาวะไร้ระเบียบ กลุ่มพันธมิตรฯพูดสิ่งโกหกเราอาจจะจับไม่ได้ แต่กลุ่มพันธมิตรฯอย่าโกหกในสิ่งที่เห็นชัดๆ เช่น ไปพูดว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตก เพราะเมื่อวานนี้เวลา 21.30 น.นายสมเกียรติ ขึ้นพูดบนเวที ว่า กกต.เป็นองค์กรที่ช่วยเหลือพรรคพลังประชาชน และทำให้พรรคได้ส.ส.มาก ทั้งๆ ที่ในช่วงนั้นพรรคแทบเอาตัวไม่รอด โดนใบเหลืองและใบแดงเต็มไปหมด กกต.มีแต่ช่วยซ้ำ ฉะนั้น คือ การโกหกที่เชื่อไม่ได้เชื่อ
นายสุนัย กล่าวว่า การที่ นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ไปตอบกระทู้ของ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธิศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในเรื่องใบแดง จ.เพชรบูรณ์ โดย นายประพันธ์บอกว่า เป็นคนเดียวที่ให้ใบแดง และนายสมเกียรติ กล่าวหา กกต.ว่าเป็นแก๊งกวน.....เข้าใจว่า วันนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ถล่ม กกต.นั้น น่าจะมาจากความขัดแย้งภายในระหว่าง กกต.กับกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะกลุ่มนี้ร่วมมือกันตั้งแต่ 19 ก.ย.2549 แต่อย่าโยนบาปให้พรรคพลังประชาชน
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่พรรคพลังประชาชน นายสุนัย จุลพงศธร และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ คณะทำงานศูนย์ติดตามและวิเคราะห์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พรรคพลังประชาชน ร่วมกันแถลงข่าว โดย นายสุนัย แถลงว่า การยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติของพรรคประชาธิปัตย์นั้น จากการติดตามข่าวน่าจะไม่มีการอภิปรายเกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ศูนย์ฯอยากให้มีการอภิปรายเกิดขึ้น แต่ไม่ทราบว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะอยากให้ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งมีบทบาทและแสดงตัวตนให้สังคมรู้ว่าคุณภาพเป็นเช่นใด และมีความเชื่อมโยงกับผู้ที่แต่งตั้งให้รับตำแหน่ง คือ คมช.อย่างไรบ้าง
การยื่นญัตติของพรรคประชาธิปัตย์นั้น น่าสนใจโดยเฉพาะการเช่ารถเมล์ของ ขสมก.มูลค่า 1 แสนล้านบาท นั้น มีมูลค่าสูงมาก ประชาชนฟังแล้วอาจตกใจ แต่เรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์คงสงสัย เปรียบเสมือนในช่วงรัฐบาลที่แล้ว ซึ่ง สตช.เช่ารถมูลค่าสูงถึง 1 หมื่นล้านบาท แต่กรณีนั้นรถเช่าเพื่อนำมาใช้ภายใน สตช.แต่กรณีนี้เป็นการทำเพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้ใช้บริการ ส่วนกรณีที่ นายถาวร เสนเนียม ระบุว่า เสียงข้างน้อยอภิปรายรัฐบาลไปก็ทำอะไรไม่ได้นั้น ตนไม่อยากให้ดูถูก ส.ส.เพราะหากเรื่องนี้มีเงื่อนงำจริง ตนก็จะไม่ยกมือวางใจให้ด้วยเช่นกัน
นายสุนัย กล่าวว่า เมื่อวานนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ยกเรื่องของ นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ ขึ้นมาในช่วงอภิปรายร่าง พ.ร.บ.ประชามตินั้น มันตรงกับสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯกำลังโจมตีรัฐบาล วันนี้จึงเกิดภาพชัดเจนขึ้น ว่า พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มพันธมิตรฯร่วมงานกันทั้งในและนอกสภา สิ่งสำคัญ คือ มีการวิจารณ์เรื่องนี้มาก ซึ่งผิดหลัก เพราะเรื่องนี้อยู่ในชั้นศาล หากมีการวิจารณ์ขึ้นอาจจะเข้าข่ายหมิ่นเหม่ได้” นายสุนัย กล่าว
นายสุนัย กล่าวต่อว่า ตนห่วงเพื่อนๆ กลุ่มพันธมิตรฯมาก โดยเฉพาะนักการเมืองในอดีตและปัจจุบันที่ไปร่วมการชุมนุม วันนี้สังคมเกิดความไร้ระเบียบมาก มีการด่าพระ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติไม่ตรงกับสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯคิดไว้ แต่สิ่งที่ร้ายที่สุด คือ กลุ่มพันธมิตรฯเริ่มด่าทหาร ว่า ผู้นำทหารระดับสูงไม่ใช่ทหารเสือพระราชา และทหารเสือพระราชินีตัวจริง แต่ผู้ชุมนุม คือ ทหารเสือตัวจริง ตรงนี้คือ การสบประมาท ขอเตือนว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯจะชุมนุมก็ทำไป แต่อย่าไปสบประมาททุกสถาบันในสังคม เพราะมันจะสร้างภาวะไร้ระเบียบ กลุ่มพันธมิตรฯพูดสิ่งโกหกเราอาจจะจับไม่ได้ แต่กลุ่มพันธมิตรฯอย่าโกหกในสิ่งที่เห็นชัดๆ เช่น ไปพูดว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตก เพราะเมื่อวานนี้เวลา 21.30 น.นายสมเกียรติ ขึ้นพูดบนเวที ว่า กกต.เป็นองค์กรที่ช่วยเหลือพรรคพลังประชาชน และทำให้พรรคได้ส.ส.มาก ทั้งๆ ที่ในช่วงนั้นพรรคแทบเอาตัวไม่รอด โดนใบเหลืองและใบแดงเต็มไปหมด กกต.มีแต่ช่วยซ้ำ ฉะนั้น คือ การโกหกที่เชื่อไม่ได้เชื่อ
นายสุนัย กล่าวว่า การที่ นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ไปตอบกระทู้ของ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธิศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในเรื่องใบแดง จ.เพชรบูรณ์ โดย นายประพันธ์บอกว่า เป็นคนเดียวที่ให้ใบแดง และนายสมเกียรติ กล่าวหา กกต.ว่าเป็นแก๊งกวน.....เข้าใจว่า วันนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ถล่ม กกต.นั้น น่าจะมาจากความขัดแย้งภายในระหว่าง กกต.กับกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะกลุ่มนี้ร่วมมือกันตั้งแต่ 19 ก.ย.2549 แต่อย่าโยนบาปให้พรรคพลังประชาชน