นักวิชาการชำแหละ “ทักษิโณมิกส์” ทำให้คนตกเป็นทาสน้ำเงิน เปิดโปงกองทุนหมู่บ้าน โครงการประชานิยมสุดฟอนเฟะ มีแต่หนี้สูญพอกพูนชาวบ้านต้องกู้เงินนอกระบอบมาใช้คืน
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "รู้ทันประเทศไทย"
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่เวทีสะพานมัฆวานฯ เมื่อเวลา 19.15 น. นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง พร้อมคณะได้จัดรายการ “รู้ทันประเทศไทย” โดยมีวิทยากร คือ นายจรัส สุวรรณมาลา คณบดีรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ฯ และเอนก นาคะบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการพัฒนาสังคมฯ โดยได้ชำแหละทักษิโณมิกส์
นายเอนก กล่าวว่า ระบอบทักษิณพยายามจะฉีกธงชาติออกเป็นริ้วๆ โดยฉีกสีแดงซึ่งเป็นมวลชนมาเป็นของบางตระกูลในรัฐบาล ขณะที่สีน้ำเงินซึ่งเป็นจิตวิญญาณของชาติกำลังถูกท้าทาย
นายจรัส กล่าวว่า แม้รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะมาจากการเลือกตั้ง แต่ในทางปฏิบัติปรากฏว่าไม่ได้ใช้วิธีประชาธิปไตย เช่น ใช้วิธีกู้เงินโดยไม่ขออนุมัติจากสภา เช่นกรณีกองทุนน้ำมัน เพื่อเอาใจประชาชนจากการตรึงราคาน้ำมัน ซึ่งเมื่อจากอำนาจไปแล้วทำให้เป็นหนี้กว่า 1 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีการใช้งบกลางของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ และมีการตั้งงบไว้จำนวนมากไม่น้อยกว่าปีละ 2 แสนล้านบาท รวมแล้วกว่า 6 แสนล้านบาท พร้อมทั้งยกตัวอย่างกรณีนำไปใช้ในกรณีทัวร์นกขมิ้นที่บอกว่าจังหวัดไหนเลือกไทยรักไทยก็ให้จังหวัดนั้นก่อน
นายเอนก กล่าวว่า ระบอบทักษิณยังได้ตัดตอนทุกกระทรวงทบวงกรม ตัดตอนระบบราชการออกไปอย่างสิ้นเชิง และแปลงเจตนารมณ์ของประชาชนมาเป็นของรัฐบาลและพรรคการเมือง
นายจรัส กล่าวว่า การทุจริตในระบบราชการก่อนยุครัฐบาลทักษิณมีแต่ถือว่าน้อยกว่ามาก แต่ในยุคทักษิณใช้วิธีบังคับให้สถาบันการเงินให้กู้ไปก่อน เช่น กองทุนหมู่บ้าน ธนาคารประชาชน ทำให้รัฐบาลได้คะแนนนิยม แต่เมื่อเป็นหนี้สูญ แม้จะมีการบอกว่ามีหนี้สูญแค่ 2-3 เปอร์เซ็นต์ แต่ข้อเท็จจริงเมื่อปี 2548-2549 ตัวเลขถูกเผยออกมาว่ามีจำนวนถึง 15-20 เปอร์เซ็นต์ แล้วใช้วิธีเอางบประมาณซึ่งเป็นเงินจากภาษีของประชาชนไปโปะ
นายเอนก ซึ่งเคนเป็นกรรมการกองทุนหมู่บ้านระดับชาติ เปิดโปงว่า แท้ที่จริงแล้วการตัดสินใจในเรื่องกองทุนหมู่บ้านอยู่ที่นายกรัฐมนตรีคนเดียว ส่วนกรรมการกองทุนคนอื่นไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ หรือแม้แต่กรรมการในระดับหมู่บ้านก็ไม่มีสิทธิ์ มีการตั้งขึ้นมาเพื่ออำพรางเท่านั้น หรือเป็นการแต่งตั้งจากหัวคะแนนจัดตั้งของพรรคไทยรักไทยทั้งสิ้น และเมื่อได้เงินกู้ไปแล้วก็เอาไซื้อโทรศัพท์มือถือ รถยนต์ มอร์เตอร์ไซค์ เป็นต้น
นายเอนก ยังกล่าวอีกว่า เมื่อถึงกำหนดต้องใช้เงินคืน ชาวบ้านที่กู้เงินไปแล้วก็ต้องไปกู้เงินนอกระบบร้อยละ 10 มาใช้คืน ธ.ก.ส. และต้องหมุนหนี้ต่อไปเรื่อย ซึ่งคนเหล่านี้ก็จะกลายเป็นทาส คือจากลูกนี้ เป็นลูกค้ามาเป็นลูกผีลูกคน แล้วมาเป็นลูกกรอกหรือเป็นทาสนั่นเอง
