xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” หนุนพันธมิตรฯ งัดอารยะขัดขืนไล่ลูกกรอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป.
“อภิสิทธิ์” เตือนลูกกรอกอย่าระแวงข้อเสนอแก้ปัญหาความขัดแย้งไปทุกเรื่อง เกรงจะอยู่ลำบาก ตำหนิชิงยุบสภาหนีเลือกตั้งใหม่แล้วยังทุจริตก็หนีไม่พ้นถูกไล่ เห็นด้วยพันธมิตรฯ ยกระดับการชุมนุมใช้อารยะขัดขืน แต่ต้องอบู่บนพื้นฐานความชอบธรรม

วันนี้ (9 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีปัดข้อเสนอของ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ที่แนะให้อดีตนายกรัฐมนตรีหารือกันเพื่อหาทางออกวิกฤตปัญหาในบ้านเมืองว่า ข้อเสนอต่างๆ ที่ออกมาเพราะทุกคนมีความห่วงใยบ้านเมือง และเสียงที่สะท้อนจากประชาชนจำนวนมากก็เพราะอยากเห็นบ้านเมืองมีทางออก ซึ่งจะต้องช่วยกันคิดไปเรื่อยๆ แต่สิ่งสำคัญ คือ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการที่รัฐบาลขจัดเงื่อนไขต่างๆ ที่เป็นปัญหาอยู่

“ผมก็ยืนยันว่าถ้ามีการปฏิเสธทางออกไปเรื่อยๆ คนที่ลำบากที่สุดจะเป็นรัฐบาลเอง เพราะขณะนี้รัฐบาลยังไม่สามารถทำงานให้เป็นที่พอใจของประชาชนได้ และโอกาสที่จะทำงานให้ประสบความสำเร็จก็ยาก ตราบเท่าที่คนจำนวนมากเห็นความไม่ชอบธรรมในการดำเนินการหลายๆ อย่าง หรือมีความหวาดระแวงสงสัยว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นมากกว่าปัญหาของประชาชน ดังนั้น อย่ารีบปฏิเสธข้อเสนอต่างๆ อย่าไประแวงว่าคนเสนอจะมีเจตนาอะไร เพราะผมเชื่อว่าขณะนี้ทุกคนที่พูดถึงทางออกก็ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบ แต่ต้องสงบอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง เพราะฉะนั้น ถ้ารัฐบาลใจกว้าง ผมคิดว่าช่วยกันดูว่าอะไรที่เป็นเงื่อนไข แล้วช่วยก็ต้องพิสูจน์ว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น แต่ถ้ายิ่งมีการตอกย้ำมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ารัฐบาลไม่สนใจ ไม่ใส่ใจต่อความรู้สึกของประชาชนจำนวนมาก ผมเชื่อว่าอันตราย” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ส่วนกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ระบุว่านายอภิสิทธิ์เล่นการเมืองแบบตีสองหน้านั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เพราะเป็นอย่างนี้ คือมีชวนคนทะเลาะอยู่ตลอด ประชาชนจึงได้เบื่อหน่าย แต่วันนี้ตนไม่ขอทะเลาะกับใคร มีแต่เสนอทางออกโดยพยายามที่จะใช้กลไกของรัฐสภาให้มากที่สุด แต่ขณะเดียวกัน ตนต้องยืนยันสิทธิของการเมืองภาคประชาชนที่จะเคลื่อนไหว ดังนั้นไม่มีอะไรที่ตีสองหน้า แต่เป็นความไม่เข้าใจของฝ่ายรัฐบาลเองว่าจริงๆ แล้วประชาธิปไตยประกอบไปด้วยอะไรบ้าง เพราะพวกตนสนับสนุนประชาธิปไตยจริงๆ ไม่ได้คิดที่จะเอาประชาธิปไตยบังหน้าเพียงเพื่อที่จะแสวงหาประโยชน์ของตัวเอง

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ระบุว่าแม้ยุบสภาไปเลือกตั้งใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังแพ้เลือกตั้งอยู่ดี และจะยังมีการชุมนุมขับไล่รัฐบาลว่า ตนไม่ทราบ เพราะการจะยุบสภาหรือไม่ เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตน และเมื่อยุบสภาแล้วผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร ไม่มีใครทราบ เพราะการเลือกตั้งครั้งที่แล้วคะแนนสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชาชนห่างกันแค่ 1 แสนคะแนนเศษจาก 30 ล้านคะแนน แต่ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนั้น เพราะไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้งก็ตาม หากเข้ามาแล้วทุจริต ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ แทรกแซงสื่อ พยายามที่จะล้มคดีช่วยคนผิด จะเสียงมาก หรือเสียงน้อยจะต้องถูกต่อต้าน ซึ่งหากเข้าใจตรงนี้ตนคิดว่ารัฐบาลจะเดินหน้าไปได้ แต่หากเข้าใจจากการสะท้อนความคิดเห็นแบบนี้ ตนมองไม่เห็นเลยว่าบ้านเมืองจะพ้นวิกฤตได้อย่างไร

ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศจะยกระดับการชุมนุมเป็นอารยะขัดขืน โดยอาจจะหยุดงานและงดจ่ายภาษีนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าการเคลื่อนไหวจะต้องมีรูปแบบที่หลากหลายออกไป แต่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะต้องถูกลงโทษ ไม่เช่นนั้นจะไปเรียกร้องว่าอีกฝ่ายอย่าอยู่เหนือกฎหมายคงไม่ได้ เพราะต้องให้กระบวนการยุติธรรมบังคับใช้แบบเสมอภาคจริงๆ ทั้งนี้ ตนไม่ทราบมาตรการอารยะขัดขืนของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ไม่อยากให้มีการทำอะไรที่ผิดกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น