“หม่อมปลื้ม” เปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.อย่างเป็นทางการผ่าน NBT อ้างในเมื่อสังคมไม่มีฮีโร่จึงขอเป็นทางเลือกให้คนกรุง หวังดำเนินนโยบายแบบ “โอบามา” เปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองใหม่ อวดปัญญาหางอึ่งบอกกลุ่มเคลื่อนไหวนอกสภาฯ ให้หยุดได้แล้วเพราะแก้ปัญหาอะไรไม่ได้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "ปลื้ม" ให้สัมภาษณ์เปิดตัว ชิงเก้าอี้ผู้ว่า กทม.
วานนี้ (6 มิ.ย.) ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 และพิธีกรรายการแกะดำ ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวภาคค่ำ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ถึงกรณีการเปิดตัวเป็นผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ในนามผู้สมัครอิสระไม่สังกัดพรรคการเมืองใดว่า สาเหตุที่ตนเลือกลงสมัครเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แทนที่จะเลือกลงสมัคร เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ก็เนื่องจากตนมองว่า การเมืองในระดับประเทศนั้น มีการแข่งขันค่อนรุนแรง อีกทั้งตนก็ไม่ต้องการสังกัดพรรคการเมืองใด ๆ เพราะการสังกัดพรรคการเมืองนั้น เสี่ยงต่อการถูกมองว่าอยู่ในข้างใดข้างหนึ่ง เป็นการยากที่จะบอกว่าเรายืนอยู่ตรงกลาง ดังนั้นการสมัครเป็นผู้ว่า กทม. จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะไม่ใช่การเมืองระดับประเทศแล้ว ในการสมัครรับเลือกตั้ง ก็สามารถสมัครในนามผู้สมัครอิสระได้ โดยไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรคใด ๆ ได้ด้วย
“เกมการเมืองระดับประเทศมันรุนแรง และแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายกันมาก และมันมีอันตรายสูงมากในการที่จะถูกตีตราว่าคุณอยู่ข้างนี้ คุณอยู่ข้างโน้น คนดีทุกคนที่ลงไปส่วนใหญ่พังเพราะว่ายืนอยู่ตรงกลาง”
ม.ล.นัฏฐกรณ์ กล่าวต่อไปว่า มีแนวคิดที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ให้เหมือนกับนโยบายของนายบารัค โอบามา ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงอเมริกา ดังนั้นจึงได้เตรียมนโยบายพัฒนากรุงเทพฯ ด้านต่าง ๆ ไว้แล้ว 19 ข้อ ที่ครอบคลุมการพัฒนากรุงเทพฯ ในทุกด้าน เพื่อต้องการหยั่งเสียงประชาชนในกรุงเทพฯ ซึ่งหากนโยบายดังกล่าวไม่ถูกใจคนกรุงเทพฯ ตนก็พร้อมจะถอย แต่ตอนนี้ตนขอเปิดตัวเป็นคนแรก เพื่อเป็นทางเลือกให้กับสังคมในยามที่สังคมไม่มีฮีโร่ นอกจากนี้ตนก็อยากฝากไปถึงคนที่เล่นการเมืองอยู่นอกสภาฯ ขณะนี้ด้วยว่าให้หยุดได้แล้ว
“หลายคนที่เป็นฮีโร่ของสังคม ตอนนี้เมืองไทยยังขาด แต่ในความเป็นจริงคนกลุ่มนี้เขาก็คงไม่อยากสกปรกกับการเมืองก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดมีฮีโร่ของสังคมลงมาผมพร้อมจะถอยเสมอ เพราะว่าผมไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ว่า แต่ว่าถ้าทางเลือกของสังคมไม่มี ผมต้องช่วยให้สังคมมีทางเลือก และคนที่บ่นอยู่ข้างเวที กรุณาเลิกบ่นซะที เพราะว่าปัจจุบันถ้าประเทศไทยจะเป็นประชาธิปไตย การบ่นนอกเวที หรือบ่นนอกสภา มันแก้อะไรไม่ได้มาก” ม.ล.ณัฏฐกรณ์กล่าว
อนึ่ง การประกาศตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่า กทม.ของ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ครั้งนี้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความคิดทางการเมืองของเขาว่าจะเข้าใจความต้องการของชาวกรุงเทพมหานครดีเพียงใด โดยก่อนหน้านี้เขาได้เขียนบทความใน นสพ.บางกอกโพสต์ ในลักษณะดูถูกชาวกรุงเทพมหานครที่เลือกนางรสนา โตสิตระกูล เป็นสมาชิกวุฒิสภา และการที่เขาโจมตีการชุมนุมของพันธมิตรฯ ย่อมแสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญดีเพียงใด
