“พันธมิตรฯ” จี้ ก.ล.ต.ยืนยันผลสอบ “ทักษิณ” ปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น “เอสซี แอสเสท” ตั้งวินมาร์ค-กองทุนมาเลย์เป็นตัวแทนเชิด ทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ทวงถามแผนการเอาผิด “แม้ว” และตรวจสอบคนใกล้ชิดที่มีพฤติกรรมส่อเป็นหุ่นเชิด
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.) นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ พร้อมคณะประมาณ 200 คน เป็นตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางตามแผนดาวกระจาย ไปยื่นหนังสือต่อเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสอบถามความคืบหน้า ยืนยันข้อเท็จจริง และดำเนินการลงโทษต่อกรณีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซี-แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดังนี้
เรื่อง สอบถามความคืบหน้า ยืนยันข้อเท็จจริง และดำเนินการลงโทษต่อกรณีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซี-แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
เรียน ท่านเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ตามที่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดชุมนุมใหญ่ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2551 ดังที่ทราบแล้วนั้น
ต่อมาผู้เข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เห็นชอบให้ส่งตัวแทนเดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อสนับสนุนให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อกรณีคดีของผู้มีอำนาจอย่างตรงไปตรงมา และสอบถามความคืบหน้าในคดีความการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น ตลอดจนให้ยื่นเรียกร้องดังต่อไปนี้
1.จากการที่สำนักงาน ก.ล.ต.ได้ตรวจสอบคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปกปิดโครงสร้างการถือหุ้นเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จนถึงขั้นกล่าวโทษแล้วนั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอสอบถามความชัดเจนว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชได้เข้าสู่อำนาจรัฐและปรากฏเป็นข่าวตามสื่อสารมวลชนว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันมีพฤติกรรมเป็นเสมือนหุ่นเชิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวก ดังนั้น สำนักงาน ก.ล.ต.จะยังคงทำงานเป็นอิสระเช่นเดิมต่อไปได้หรือไม่? หรือถูกอิทธิพลของรัฐบาลทำให้ ก.ล.ต.ใช้อำนาจอันมิชอบปกปิดหรือบิดเบือนเพื่อช่วยกันปกป้องความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและพวกหรือไม่?
จากประเด็นดังกล่าวข้างต้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงเรียนมาเพื่อขอให้สำนักงาน ก.ล.ต.ได้โปรดพิจารณาตอบคำถามว่า สำนักงาน ก.ล.ต.จะยังคงยืนยันข้อเท็จจริงตามที่เคยได้พิสูจน์พบมาแล้วหรือไม่? ตามประเด็นที่สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.1 วินมาร์ค และกองทุนมาเลเซีย มีพฤติกรรมเป็นตัวแทนหุ่นเชิดในการถือหุ้น บริษัท เอสซี-แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และมีความเกี่ยวโยงถึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยมิได้เปิดเผยข้อมูลแก่ประชาชนทั่วไปตามความจริง
1.2 วินมาร์ค มีบัญชีที่ธนาคารยูบีเอส มีเลขบัญชี 121751 ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นชินคอร์ป
1.3 การปกปิดดังกล่าว เป็นการผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ โดยการจงใจปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นในหนังสือชี้ชวนและรายงานประจำปีต่อประชาชนทั่วไป อีกทั้งทำให้การรายงานการซื้อขายหุ้นไม่เป็นไปตามกฎหมาย
2.หากสำนักงาน ก.ล.ต. ยืนยันข้อเท็จจริงตามข้อ 1. ว่ายังมิได้ถูกบิดเบือนไป สำนักงาน ก.ล.ต.มีแผนในการปรับโทษต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรผู้ถูกกล่าวหา เป็นขั้นตอนอย่างใด? และเมื่อใด?
ทั้งนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีข้อสังเกตว่า กรณีก่อนหน้านี้ นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้จัดทำและแก้ไขข้อมูลย้อนหลังไป 6 ปีเพื่อให้เห็นว่าตนเป็นเจ้าของแอมเพิลริชที่แท้จริงนั้น สำนักงาน ก.ล.ต.ได้พิจารณาโทษและปรับด้วยตนเองในเวลาไม่ช้า เพียง 2-3 เดือนเท่านั้น ในกรณีนี้ก็มีหลักฐานความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่คล้ายคลึงกัน เหตุใด สำนักงาน ก.ล.ต.จึงไม่รีบดำเนินการตัดสินโทษไปเหมือนกับกรณีของนายพานทองแท้ ชินวัตร แต่กลับต้องรอมาจนเป็นเวลากว่า 2-3 ปี สำนักงาน ก.ล.ต. มีมาตรฐานอย่างไร? และมีการคุกคามจากผู้มีอำนาจหรือไม่ ?
เพื่อป้องกันมิให้เกิดข้อสงสัยว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้โปรดแจ้งแผนปฏิบัติการในเรื่องนี้ ภายใน 7 วัน
3.การที่วินมาร์ค ถือหุ้นชินคอร์ปฯ ในบัญชีซึ่งดูแลโดย ธนาคาร ยูบีเอส เลขที่บัญชี 121751 นั้น ยังพบอีกว่า ในการโอนหุ้นชินคอร์ปให้นายพานทองแท้ ในวันที่ 1 กันยายน 2543 มูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท นั้น นายพานทองแท้ กลับต้องทำตั๋วสัญญาใช้เงินสั่งจ่าย คุณหญิงพจมาน ชินวัตรเพิ่มอีกประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งได้นำไปสู่การเป็นช่องทางการถ่ายเทผลประโยชน์จากหุ้นชินคอร์ปที่ถือโดยบุคคลใกล้ชิดกลับมาสู่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและคู่สมรสอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวได้แสดงถึงพฤติกรรมของบุคคลใกล้ชิดกัน ทั้ง นายพานทองแท้ ชินวัตร, น.ส.พิณทองทา ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตลอดจน นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ต่างก็มีพฤติกรรมที่ส่อไปเป็นหุ่นเชิด สำนักงาน ก.ล.ต.จะได้มีโอกาสที่จะดำเนินการตรวจสอบในกรณีดังกล่าวได้อย่างไร? มีความเป็นกลางเช่นเดิมหรือไม่? หรือมีการคุกคามกดขี่ โดยผู้มีอำนาจรัฐหรือไม่?
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ก.ล.ต.จะแจ้งคำตอบให้กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยเร็ว และเรียกร้องและให้กำลังใจต่อสำนักงาน ก.ล.ต. อย่าได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการลงโทษต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกด้วยประการทั้งปวง
ขอแสดงความนับถือ
นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์
ผู้แทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.) นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ พร้อมคณะประมาณ 200 คน เป็นตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางตามแผนดาวกระจาย ไปยื่นหนังสือต่อเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสอบถามความคืบหน้า ยืนยันข้อเท็จจริง และดำเนินการลงโทษต่อกรณีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซี-แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดังนี้
วันที่ 6 มิถุนายน 2551
เรื่อง สอบถามความคืบหน้า ยืนยันข้อเท็จจริง และดำเนินการลงโทษต่อกรณีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น บริษัท เอสซี-แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
เรียน ท่านเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ตามที่ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดชุมนุมใหญ่ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2551 ดังที่ทราบแล้วนั้น
ต่อมาผู้เข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เห็นชอบให้ส่งตัวแทนเดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อสนับสนุนให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อกรณีคดีของผู้มีอำนาจอย่างตรงไปตรงมา และสอบถามความคืบหน้าในคดีความการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น ตลอดจนให้ยื่นเรียกร้องดังต่อไปนี้
1.จากการที่สำนักงาน ก.ล.ต.ได้ตรวจสอบคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปกปิดโครงสร้างการถือหุ้นเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จนถึงขั้นกล่าวโทษแล้วนั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอสอบถามความชัดเจนว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชได้เข้าสู่อำนาจรัฐและปรากฏเป็นข่าวตามสื่อสารมวลชนว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันมีพฤติกรรมเป็นเสมือนหุ่นเชิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวก ดังนั้น สำนักงาน ก.ล.ต.จะยังคงทำงานเป็นอิสระเช่นเดิมต่อไปได้หรือไม่? หรือถูกอิทธิพลของรัฐบาลทำให้ ก.ล.ต.ใช้อำนาจอันมิชอบปกปิดหรือบิดเบือนเพื่อช่วยกันปกป้องความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและพวกหรือไม่?
จากประเด็นดังกล่าวข้างต้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงเรียนมาเพื่อขอให้สำนักงาน ก.ล.ต.ได้โปรดพิจารณาตอบคำถามว่า สำนักงาน ก.ล.ต.จะยังคงยืนยันข้อเท็จจริงตามที่เคยได้พิสูจน์พบมาแล้วหรือไม่? ตามประเด็นที่สรุปได้ดังต่อไปนี้
1.1 วินมาร์ค และกองทุนมาเลเซีย มีพฤติกรรมเป็นตัวแทนหุ่นเชิดในการถือหุ้น บริษัท เอสซี-แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และมีความเกี่ยวโยงถึงตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยมิได้เปิดเผยข้อมูลแก่ประชาชนทั่วไปตามความจริง
1.2 วินมาร์ค มีบัญชีที่ธนาคารยูบีเอส มีเลขบัญชี 121751 ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นชินคอร์ป
1.3 การปกปิดดังกล่าว เป็นการผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ โดยการจงใจปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นในหนังสือชี้ชวนและรายงานประจำปีต่อประชาชนทั่วไป อีกทั้งทำให้การรายงานการซื้อขายหุ้นไม่เป็นไปตามกฎหมาย
2.หากสำนักงาน ก.ล.ต. ยืนยันข้อเท็จจริงตามข้อ 1. ว่ายังมิได้ถูกบิดเบือนไป สำนักงาน ก.ล.ต.มีแผนในการปรับโทษต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรผู้ถูกกล่าวหา เป็นขั้นตอนอย่างใด? และเมื่อใด?
ทั้งนี้ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีข้อสังเกตว่า กรณีก่อนหน้านี้ นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้จัดทำและแก้ไขข้อมูลย้อนหลังไป 6 ปีเพื่อให้เห็นว่าตนเป็นเจ้าของแอมเพิลริชที่แท้จริงนั้น สำนักงาน ก.ล.ต.ได้พิจารณาโทษและปรับด้วยตนเองในเวลาไม่ช้า เพียง 2-3 เดือนเท่านั้น ในกรณีนี้ก็มีหลักฐานความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่คล้ายคลึงกัน เหตุใด สำนักงาน ก.ล.ต.จึงไม่รีบดำเนินการตัดสินโทษไปเหมือนกับกรณีของนายพานทองแท้ ชินวัตร แต่กลับต้องรอมาจนเป็นเวลากว่า 2-3 ปี สำนักงาน ก.ล.ต. มีมาตรฐานอย่างไร? และมีการคุกคามจากผู้มีอำนาจหรือไม่ ?
เพื่อป้องกันมิให้เกิดข้อสงสัยว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้โปรดแจ้งแผนปฏิบัติการในเรื่องนี้ ภายใน 7 วัน
3.การที่วินมาร์ค ถือหุ้นชินคอร์ปฯ ในบัญชีซึ่งดูแลโดย ธนาคาร ยูบีเอส เลขที่บัญชี 121751 นั้น ยังพบอีกว่า ในการโอนหุ้นชินคอร์ปให้นายพานทองแท้ ในวันที่ 1 กันยายน 2543 มูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท นั้น นายพานทองแท้ กลับต้องทำตั๋วสัญญาใช้เงินสั่งจ่าย คุณหญิงพจมาน ชินวัตรเพิ่มอีกประมาณ 4,500 ล้านบาท ซึ่งได้นำไปสู่การเป็นช่องทางการถ่ายเทผลประโยชน์จากหุ้นชินคอร์ปที่ถือโดยบุคคลใกล้ชิดกลับมาสู่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและคู่สมรสอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวได้แสดงถึงพฤติกรรมของบุคคลใกล้ชิดกัน ทั้ง นายพานทองแท้ ชินวัตร, น.ส.พิณทองทา ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตลอดจน นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ต่างก็มีพฤติกรรมที่ส่อไปเป็นหุ่นเชิด สำนักงาน ก.ล.ต.จะได้มีโอกาสที่จะดำเนินการตรวจสอบในกรณีดังกล่าวได้อย่างไร? มีความเป็นกลางเช่นเดิมหรือไม่? หรือมีการคุกคามกดขี่ โดยผู้มีอำนาจรัฐหรือไม่?
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ก.ล.ต.จะแจ้งคำตอบให้กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยเร็ว และเรียกร้องและให้กำลังใจต่อสำนักงาน ก.ล.ต. อย่าได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการลงโทษต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกด้วยประการทั้งปวง
นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์
ผู้แทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย