“พิภพ” เรียกร้องประชาชนร่วมกันปกป้อง “คตส.-สตง.” ที่กำลังจะถูก “ตำรวจระบอบทักษิณ” ไล่เช็กบิล หลัง “สุนัย” เพิ่งถูกสมุนแม้วออกหมายจับฐานหมิ่นพ่อแม้วไปหมาดๆ ย้ำภารกิจพันธมิตรฯ ไม่ใช่แค่ยับยั้งแก้ รธน. แต่ต้องสกัดระบอบทักษิณไม่ให้ครอบงำนิติรัฐ เพื่อให้ประชาธิปไตยขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วันนี้ (5 มิ.ย.) เมื่อเวลา 21.15 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า ในอดีตเวลามีเรื่องทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาล เมื่อรัฐสภาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ตุลาการไม่สามารถจัดการโดยเฉพาะนักการเมืองได้ ทหารมักจะเอาเป็นข้ออ้างทำรัฐประหารเสมอ ฉะนั้น ถ้าวันนี้ระบบกลไกของเราสามารถทำให้ระบบตุลาการทำงานได้ ก่อให้เกิดระบบนิติรัฐ กฎหมายเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยจะเคลื่อนไปข้างหน้า นักการเมืองขี้โกงจะถูกกันออกไป จะใช้ระบบเลือกตั้งเลือกเข้ามากันไม่ได้ นักการเมืองกว่าครึ่งส่อไปทางทุจริตคอรับชั่น ถ้าเราจัดการได้ นี่จะเป็นการปฏิรูปการเมืองขนานใหญ่
นายพิภพ กล่าวว่า สองวันมานี้ต้องไปพบปะคนต่างๆ เพื่ออธิบายว่าเรากำลังทำอะไร เราเล่นไม่เลิกหรือเปล่า เราได้ยับยั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้แค่ยับยั้งเท่านั้น แต่กระบวนการแก้ไขยังมีอยู่ สิ่งที่เรายันไว้ยังไม่ได้รับชัยชนะ อย่างไรก็ตาม เราจะยืนยันตรงนี้ว่าเป้าหมายของเราก็คือทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เป้าหมายใหญ่กว่านั้นคือให้ประเทศไทยเป็นระบบนิติรัฐ
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ปัญหาของเราก็คือ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะนำไปสู่การให้กฎหมายเป็นใหญ่กำลังถูกแทรกแซง เราเตือนคนอื่นไม่เชื่อ ว่าทักษิณไม่ได้หยุดแค่แก้มาตรา 309 เขาพยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่เพียงแค่ศาลเท่านั้น แต่ทุกองค์กรยุติธรรม
นายพิภพ กล่าวอีกว่า วันนี้ก็จัดการกับอดีตอธิบดีดีเอสไอ (นายสุนัย มโนมัยอุดม) แล้วที่ถูกแจ้งจับข้อหาหมิ่นประมาท มีการแจ้งความ คตส. เมื่อยังแก้มาตรา 309 ไม่ได้ก็ใช้อำนาจของรัฐบาลนอมินี ใช้ตำรวจ อัยการเข้าไปจัดการ หน่วยงานที่กำลังทำหน้าที่ในเรื่องกระบวนการยุติธรรม ทำหน้าที่การหาข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อส่งสาร
“ขณะที่ คตส.ไปแจ้งกับตำรวจไม่ทำเลย แต่ที่คนอื่นแจ้งกับ คตส. นี่รีบทำเลย อย่างนี้ต้องโห่ลูกเดียว เพราะคุณเป็นต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม แต่คุณกำลังรับใช้ระบอบทักษิณ เขากำลังจะจัดการกับ สตง. ก็ถูกดีเอสไอจับผิดเรื่องการว่าจ้าง โยงไปถึงของเก่าเลย จริงไม่จริงยังไม่รู้รีบทำเลย เพราะคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าฯ สตง. เป็นตัวตั้งตัวตีให้ คตส. ฉะนั้น คตส.ทุกคนและคนที่เกี่ยวข้องกับคดีจะเริ่มถูกคุณทักษิณจัดการ สิ่งที่จะคุ้มครองป้องกันเขาได้ก็คือพวกเราพ่อแม่พี่น้อง” นายพิภพ กล่าว
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ถึงอยากอธิบายเรื่องพวกนี้กับนักวิชาการ ว่าการชุมนุมครั้งนี้ของพันธมิตรฯ สำคัญมาก เป็นการขชุมนุมเพื่อคานอำนาจชั่วๆ ของรัฐ รัฐที่บริหารโดยพรรคพลังประชาชน เมื่อคานแล้วก็ต้องตรวจสอบให้เขาออกจากการบริหารประเทศ
แกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อเราเริ่มต้นเดินขบวนเมื่อวันที่ 25 พ.ค.51 จนถึงวันนี้ เราสามารถยึดที่มั่นนี้ได้ องค์กรเครือข่ายต่างๆ กำลังสงสัยเราว่าทำอะไรอยู่ วันนี้เขาหายสงสัยแล้วขึ้นมาบอกบนเวทีว่าจะร่วมตรวจสอบรัฐบาลและทักษิณ และเอาปัญหาของเขามาพูดให้เราฟัง เครือข่ายต่างๆ เริ่มเข้ามาแล้วเวทีนี้กลายเป็นเวทีตรวจสอบรัฐบาล
นายพิภพ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้สื่อมวลชนเริ่มจับผิดเราและหาว่าเราดื้อด้านนั้น นายพิภพ กล่าวว่า เราจึงต้องบอกกับสื่อมวลชนว่าเรากำลังทำอะไร การบอกบนเวทีอภิปรายยังไม่พอ ต้องไปแสดงออกในเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการยุติธรรม
“คุณทักษิณใช้ 2-3 วิธี คือ แก้หักดิบแก้มาตรา 309 เมื่อแก้ไม่ได้เพราะถูกเรายันไว้ ก็ใช้วิธีแทรกแซงให้กระบวนการยุติธรรมถ่วงเวลา แล้วใช้วิธีจ่ายเงินใต้โต๊ะ นี่คือระบอบทักษิณ แล้วถามว่าสมัครหลับหูหลับตาหรือเปล่าในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องไปอัยการสูงสุดว่าคุณทำอะไรอยู่ ถ้าคุณถ่วงคดีคุณก็จะถูกกล่าวหาว่าคุณถ่วงคดีหรือเปล่า คุณช่วยทักษิณหรือเปล่า อัยกาต้องตอบ กระทรวงมหาดไทยก็เช่นกัน คุณเฉลิมต้องตอบมาว่าที่มาข่มขู่เราเนี่ยเหมาะจะเป็น รมว.มหาดไทยหรือเปล่า พรุ่งนี้จะไป ก.ล.ต. และดีเอสไอ ไปถามว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ จะไปตั้งคำถามแล้วก็ขอคำตอบ” นายพิภพ กล่าวทิ้งท้าย
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วันนี้ (5 มิ.ย.) เมื่อเวลา 21.15 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า ในอดีตเวลามีเรื่องทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาล เมื่อรัฐสภาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ตุลาการไม่สามารถจัดการโดยเฉพาะนักการเมืองได้ ทหารมักจะเอาเป็นข้ออ้างทำรัฐประหารเสมอ ฉะนั้น ถ้าวันนี้ระบบกลไกของเราสามารถทำให้ระบบตุลาการทำงานได้ ก่อให้เกิดระบบนิติรัฐ กฎหมายเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยจะเคลื่อนไปข้างหน้า นักการเมืองขี้โกงจะถูกกันออกไป จะใช้ระบบเลือกตั้งเลือกเข้ามากันไม่ได้ นักการเมืองกว่าครึ่งส่อไปทางทุจริตคอรับชั่น ถ้าเราจัดการได้ นี่จะเป็นการปฏิรูปการเมืองขนานใหญ่
นายพิภพ กล่าวว่า สองวันมานี้ต้องไปพบปะคนต่างๆ เพื่ออธิบายว่าเรากำลังทำอะไร เราเล่นไม่เลิกหรือเปล่า เราได้ยับยั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้แค่ยับยั้งเท่านั้น แต่กระบวนการแก้ไขยังมีอยู่ สิ่งที่เรายันไว้ยังไม่ได้รับชัยชนะ อย่างไรก็ตาม เราจะยืนยันตรงนี้ว่าเป้าหมายของเราก็คือทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เป้าหมายใหญ่กว่านั้นคือให้ประเทศไทยเป็นระบบนิติรัฐ
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ปัญหาของเราก็คือ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะนำไปสู่การให้กฎหมายเป็นใหญ่กำลังถูกแทรกแซง เราเตือนคนอื่นไม่เชื่อ ว่าทักษิณไม่ได้หยุดแค่แก้มาตรา 309 เขาพยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่เพียงแค่ศาลเท่านั้น แต่ทุกองค์กรยุติธรรม
นายพิภพ กล่าวอีกว่า วันนี้ก็จัดการกับอดีตอธิบดีดีเอสไอ (นายสุนัย มโนมัยอุดม) แล้วที่ถูกแจ้งจับข้อหาหมิ่นประมาท มีการแจ้งความ คตส. เมื่อยังแก้มาตรา 309 ไม่ได้ก็ใช้อำนาจของรัฐบาลนอมินี ใช้ตำรวจ อัยการเข้าไปจัดการ หน่วยงานที่กำลังทำหน้าที่ในเรื่องกระบวนการยุติธรรม ทำหน้าที่การหาข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อส่งสาร
“ขณะที่ คตส.ไปแจ้งกับตำรวจไม่ทำเลย แต่ที่คนอื่นแจ้งกับ คตส. นี่รีบทำเลย อย่างนี้ต้องโห่ลูกเดียว เพราะคุณเป็นต้นน้ำของกระบวนการยุติธรรม แต่คุณกำลังรับใช้ระบอบทักษิณ เขากำลังจะจัดการกับ สตง. ก็ถูกดีเอสไอจับผิดเรื่องการว่าจ้าง โยงไปถึงของเก่าเลย จริงไม่จริงยังไม่รู้รีบทำเลย เพราะคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าฯ สตง. เป็นตัวตั้งตัวตีให้ คตส. ฉะนั้น คตส.ทุกคนและคนที่เกี่ยวข้องกับคดีจะเริ่มถูกคุณทักษิณจัดการ สิ่งที่จะคุ้มครองป้องกันเขาได้ก็คือพวกเราพ่อแม่พี่น้อง” นายพิภพ กล่าว
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ถึงอยากอธิบายเรื่องพวกนี้กับนักวิชาการ ว่าการชุมนุมครั้งนี้ของพันธมิตรฯ สำคัญมาก เป็นการขชุมนุมเพื่อคานอำนาจชั่วๆ ของรัฐ รัฐที่บริหารโดยพรรคพลังประชาชน เมื่อคานแล้วก็ต้องตรวจสอบให้เขาออกจากการบริหารประเทศ
แกนนำพันธมิตรฯ ยังกล่าวด้วยว่า เมื่อเราเริ่มต้นเดินขบวนเมื่อวันที่ 25 พ.ค.51 จนถึงวันนี้ เราสามารถยึดที่มั่นนี้ได้ องค์กรเครือข่ายต่างๆ กำลังสงสัยเราว่าทำอะไรอยู่ วันนี้เขาหายสงสัยแล้วขึ้นมาบอกบนเวทีว่าจะร่วมตรวจสอบรัฐบาลและทักษิณ และเอาปัญหาของเขามาพูดให้เราฟัง เครือข่ายต่างๆ เริ่มเข้ามาแล้วเวทีนี้กลายเป็นเวทีตรวจสอบรัฐบาล
นายพิภพ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้สื่อมวลชนเริ่มจับผิดเราและหาว่าเราดื้อด้านนั้น นายพิภพ กล่าวว่า เราจึงต้องบอกกับสื่อมวลชนว่าเรากำลังทำอะไร การบอกบนเวทีอภิปรายยังไม่พอ ต้องไปแสดงออกในเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการยุติธรรม
“คุณทักษิณใช้ 2-3 วิธี คือ แก้หักดิบแก้มาตรา 309 เมื่อแก้ไม่ได้เพราะถูกเรายันไว้ ก็ใช้วิธีแทรกแซงให้กระบวนการยุติธรรมถ่วงเวลา แล้วใช้วิธีจ่ายเงินใต้โต๊ะ นี่คือระบอบทักษิณ แล้วถามว่าสมัครหลับหูหลับตาหรือเปล่าในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงต้องไปอัยการสูงสุดว่าคุณทำอะไรอยู่ ถ้าคุณถ่วงคดีคุณก็จะถูกกล่าวหาว่าคุณถ่วงคดีหรือเปล่า คุณช่วยทักษิณหรือเปล่า อัยกาต้องตอบ กระทรวงมหาดไทยก็เช่นกัน คุณเฉลิมต้องตอบมาว่าที่มาข่มขู่เราเนี่ยเหมาะจะเป็น รมว.มหาดไทยหรือเปล่า พรุ่งนี้จะไป ก.ล.ต. และดีเอสไอ ไปถามว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ จะไปตั้งคำถามแล้วก็ขอคำตอบ” นายพิภพ กล่าวทิ้งท้าย
