เสธ.หนั่น เซ็ง “หมัก” เรียกแขก เบรกเจรจาพันธมิตรฯ

รองนายกฯ รู้สันดานนายกฯสั่งเย็บปาก งดเจรจาพันธมิตรฯเกรงลุกลาม แนะหาคนกลางช่วยเคลียร์ ปฏิเสธแนวคิดจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ชี้ สถานการณ์ยังไม่วิกฤต เผยทางออกยุบสภาเลือกตั้งใหม่

วันนี้ (4 มิ.ย.) พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมดูแลสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อดูแลสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวลดจำนวนน้อยลง ฉะนั้น นายสมัคร คิดว่า น่าจะมีการประชุมที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งต้องมีการประชุมร่วมกับท้องถิ่นด้วย ทั้งในส่วนกลาง ภูมิถาค ว่าจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นและหาแนวทางแก้ไข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีด้วยใช่หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า คงไม่ใช่เอาเรื่องของคณะรัฐมนตรีไป แต่ไปดูเพียงเรื่องท่องเที่ยวอย่างเดียว เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝากอะไรถึงหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกรณีที่ 5 พรรคร่วมรัฐบาลนัดรับประทานอาหารเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมาหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ก่อนที่จะตัดสินใจไป เพราะต้องเร่งดำเนินการและได้ปรึกษาหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคแล้ว และฝากขอโทษหัวหน้าพรรคร่วมทุกพรรคด้วย เพราะมันฉุกเฉิน

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า จะนัดเคลียร์กันเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่เคลียร์แล้วจบกันแล้ว คงไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า หลังจากนี้ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลจะมีการหารือกันอีกหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า คงต้องหารือกันคงไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสทางการมองเรื่องการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า จะมีทางออกอย่างไร ที่ฝั่งรัฐบาลและกลุ่มพันธมิตรฯ จะสามารถตกลงกันได้ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถ้าเจรจากันไม่ได้ก็อยู่กันอย่างนี้ ตนคิดว่าในระยะหนึ่งคงเจรจากันได้ ถ้าเจรจากันไม่ได้ก็ต่างคนต่างอยู่แบบนี้ไม่เกิดประโยชน์อะไร

เมื่อถามต่อว่า เพื่อให้เกิดการรอมชอมไปสู่จุดที่สลายความไม่สงบ คิดว่า นายกรัฐมนตรีควรจะเจรจาด้วยตัวเองหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคงไม่ต้องเจรจาด้วยตัวเอง ต่างฝ่ายต่างร้อนต่อร้อน เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ส่งผู้ที่มีความนุ่มนวลไปคุยกัน ตนก็ไม่ทราบว่าจะสำเร็จหรือไม่ แต่อย่ารุนแรงก็ใช้ได้แล้ว เมื่อถามว่า ควรจะมีตัวกลางเป็นผู้ประสานงานในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบให้ตำรวจไปดูแลและเจรจา เมื่อถามว่า นายโคทม อารียา ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เสนอตัวจะเข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็ดี หาก นายโคทม จะเข้ามาเจรจา

ถามต่อว่า แนวความคิดที่จะมีการตั้งรัฐบาลแห่งชาติเป็นอย่างไร พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถ้าไม่มีอะไรที่เกิดภาวะฉุกเฉินคงทำไม่ได้ เพราะรัฐบาลอยู่ในระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลอยู่ได้ก็อยู่ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถ้าอยู่ไม่ได้ก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ตามขั้นตอน เพราะรัฐบาลแห่งชาติต้องเป็นภาวะฉุกเฉินจริงๆ และจำเป็น ตนยังไม่เห็นว่าจะถึงขั้นนั้น เมื่อถามว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่มี

เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลแยกวงคุยแบบนี้ ถือว่าแปลกหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นกำหนดการแบบเร่งด่วน เมื่อถามว่า 5 พรรคร่วมหารือกันเรื่องใดบ้าง พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ทุกเรื่องเมื่อร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล เมื่อถามว่า การยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญตามธรรมเนียมพรรคร่วมรัฐบาลต้องหารือกันใช่หรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เขาทำพรรคเดียวทำ โดย ส.ส.ไม่ได้ทำโดยรัฐบาลถึงจะมีโครงสร้างเดียวแต่มีการตัดตอนให้เป็นตอนๆแบบนี้ เมื่อถามว่า เมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาลจะมีการตัดตอนแบบนี้ได้อย่างไร พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่รู้ ซึ่งเรื่องนี้ ส.ส.ไปร่วมลงชื่อเองไม่มีรัฐมนตรีไปร่วมลงชื่อด้วย

เมื่อถามว่า จะมีการยื่นญัตติแกรัฐธรรมนูญใหม่ในนามของ ส.ส.พรรคพลังประชาชน พล.ต.สนั่น อย่าไปก้าวก่ายกับพรรคพลังประชาชนต้องควบคุมกันได้ ถ้าเป็นเรื่องของรัฐบาลหัวหน้ารัฐบาลต้องชี้แจงว่าเป็นอย่างไร อย่างเช่น เรื่องแก้รัฐธรรมนูญว่าจะแก้มาตราไหนอย่างไรต้องคุยกัน เมื่อถามว่า เพื่อให้ทุกอย่างญัตติทุกฝ่ายควรจะยุติก่อนหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนก็อยากจะยุติ แต่ดีแล้วที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เสนอให้มีการตั้ง กมธ.ศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกลุ่มพันธมิตรฯ ต้องยอมรับได้ เพราะมีการตั้ง กมธ.ศึกษาฯ แล้ว

เมื่อถามว่า หากพรรคพลังประชาชน ยืนยันจะยื่นญัตติต่อไปจะทำให้สถานการณ์การเมืองตรึงเครียดมากขึ้นหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า มันก็ตึงเครียดแน่หากยืนยันจะเสนอญัตติแก้รัฐธรรมนูญต่อไป และอยากให้พรรคร่วมรัฐบาลมีมติที่ชัดเจน เมื่อถามว่า หากสถานการณ์ตึงเครียด และมีผลกระทบกับการทำงานของรัฐบาลทางพรรคชาติไทยจะทำอย่างไร พล.ต.สนั่น กล่าวว่า พรรคชาติไทยคงอยู่ยากสถานการณ์ใครก็ทำนายไม่ถูก ตนอยู่มานานยังทำนายไม่ได้ เพราะการเมืองไม่มีอะไรแน่นอนถึงเวลาจะไปก็ไป ถึงเวลามาก็มา เราเคยมีบทเรียนมาแล้วสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ยังไม่รู้ตัวและรัฐบาลอย่าไปยั่งยุให้เกิดความรุนแรงมากกว่านี้