รมว.ยุติธรรม เผยเบื้องหลังเคลียร์ใจ “ป๋าเหนาะ” ชื่นมื่น เหตุผู้เฒ่าน้อยใจลูกกรอกข้ามหัวไม่เคยปรึกษา ตีปี๊บลดแรงกระเพื่อมภายหลังพรรค ขึงขังจากนี้ไปต้องมีเอกภาพ
วันนี้ (3 มิ.ย.) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการไปพบนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เพื่อเคลียร์ปัญหากรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลทำอะไรไม่ค่อยมีการหารือในพรรคร่วมรัฐบาลก่อน โดยเฉพาะเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการที่นายกรัฐมนตรีออกคำสั่งให้สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยไม่มีการหารือในพรรคร่วมรัฐบาลก่อนว่า ไปคุยกับท่านเพื่อให้กำลังใจในฐานะคนคุ้นเคยกัน ก็ไม่มีอะไรท่านเสนาะก็แค่บ่นๆ หน่อยเท่านั้นเอง และท่านก็บอกว่า สิ่งที่ท่านทำไม่ได้ทำในฐานะหัวหน้าพรรค ท่านทำในฐานะส.ส.ผู้เฒ่าคนหนึ่งก็คุยกันสนุกสนาน
นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า สื่อมวลชนก็ได้ถามว่าในพรรคพลังประชาชนมีปัญหาอะไร อย่างที่ตนไปให้สัมภาษณ์ว่าในพรรคไม่ได้มีมติให้มีการรวบรวม หรือเร่งรัดในการเอารายชื่อเพื่อเสนอให้มีการปรับแต่งเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญใหม่ เรียนด้วยความเคารพเลยว่า ในวันนั้นในช่วงที่ประชุมพรรคทุกคนก็ทราบว่าญัตติอาจจะตกเพราะมีคนไปถอน โดยเฉพาะทางด้านวุฒิสมาชิก เราก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร ซึ่งเหตุการณ์ในบ้านเมืองในขณะนี้ ก็อยากเรียนว่า อยากให้เป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าใครเห็นว่าไม่เหมาะจะถอนก็ถอนไป ไม่มีการเอาชนะคะคานกันในเรื่องนั้น
ข้อเท็จจริงมันออกไปคนทางละทาง ผมก็เลยเรียนไปทางสื่อมวลชนว่า เรื่องนี้จะนำไปปรึกษาหารือกับนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เพราะเราจะต้องทำพรรคให้เป็นเอกภาพ และได้โทรศัพท์คุยกับนายกฯแล้ว ท่านก็เห็นด้วยในการประชุมพรรคคราวหน้าให้มีการพูดกันในเรื่องนี้ ให้มันเป็นเอกภาพซักที ว่าใครทำอะไร สั่งอะไรต้องสั่งมาจากแนวเดียวกัน ไม่ใช่คนนี้คิดยังไงก็สั่งมาอย่าง คนนั้นคิดยังไงก็สั่งมาอย่าง พรรคมันต้องเป็นพรรค ต้องเป็นเอกภาพ ถ้าไม่เป็นเอกภาพมันไปไม่รอด ไม่ถูกเรื่องนี้” นายสมพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า บ่อยครั้งที่ลูกพรรคมันจะแตกแถว ในนโยบายของพรรคมีแนวทางเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายสมพงษ์ กล่าวว่า กำลังจะทำอยู่ ความจริงแล้วเคยภาวนาว่าหัวหน้าพรรคก็ไม่สะดวกมีงานเยอะ เลขาธิการพรรคก็มีงานมาก สั่งมาเลยตนจะนั่งที่พรรคเองสัปดาห์ละ 1-2 วัน เพื่อจะมีอะไรได้แก้ไข เรื่องของมติหากมีมติแล้วไปขวางก็เป็นเรื่องที่ต้องมาพิจารณา ซึ่งทุกคนหวังดีกับชาติบ้านเมืองด้วยกันทั้งนั้น
