จากกรณีที่นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เสนอแนวทางการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองขณะนี้ โดยให้ พรรคพลังประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคการเมืองอื่นๆ ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังเผชิญหน้ากันในขณะนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ข้อเสนอของนพ.ประเวศ เป็นการสะท้อนความห่วงใยว่า ความขัดแย้ง หรือความแตกแยกมีอยู่มาก แต่ขณะนี้ปัญหาคงไม่ได้อยู่ที่ว่า รัฐบาลมีเสียงไม่พอ หรือพรรคฝ่ายค้านไปสร้างปัญหาอะไร แต่ปมขัดแย้งน่าจะมาจากเรื่องรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ถ้าอยากจะให้เรื่องคลี่คลายหวังว่า พรรคพลังประชาชน จะได้มีการประชุมและมีมติชัดเจนที่จะสนับสนุนสิ่งที่ได้ตกลงกับฝ่ายค้าน ประธานสภาฯ และวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน ทั้ง 2 ฝ่ายว่า จะตั้งคณะกรรมาธิการ ขึ้นมาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเรื่องอื่นก็ควรที่จะพักไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นด้วยหรือไม่กับแนวทางของนพ.ประเวศ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นปัญหาที่หากจะไปบอกว่าเห็นด้วย ก็คงจะไม่ได้ เพราะเท่ากับเป็นการเรียกร้องให้ไปร่วมรัฐบาล เพราะตนไม่มีข้อเรียกร้องเรื่องนี้ ยกเว้นเรื่องหยุดเรื่องรัฐธรรมนูญที่เป็นความขัดแย้ง แล้วมาทำงานใน กมธ.ร่วมกัน ส่วนรัฐบาลก็คงต้องชี้แจงในส่วนของรัฐบาลเอง
**พปช.ไม่สนข้อเสนอหมอประเวศ
ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ไปถึงจุดวิกฤติ หรือรุนแรงแบบนั้น จนไม่ต้องมีฝ่ายค้าน เพราะวันนี้มันต้องมีฝ่ายค้านในระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้มีการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เรื่องนี้มันต้องชั่งน้ำหนักให้ได้ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ไปถึงจุดวิกฤตนั้นเลย แม้ตอนนี้ภาวะเศรษฐกิจจะมาเร็วกว่าที่ประเมินไว้ อาทิ ราคาน้ำมันที่มองไว้ว่า ในไตรมาสที่ 4 จะมีราคาบาร์เรลละ130 เหรียญ แต่วันนี้ได้เจอกับราคาน้ำมันนี้แล้ว ฉะนั้นสิ่งใดที่ไม่เรียบร้อยรัฐบาลก็เร่งทำงาน เรื่องใดที่ผิดปกติ เช่น ราคาข้าวที่ตอนนี้กลไกตลาดมันผิดไปนั้นก็เร่งแก้ไข
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่กล้าแสดงความเห็นคัดค้าน เดี๋ยวกลายเป็นคนชั่วในพริบตา ถ้าเป็นเช่นนี้เอารัฐธรรมนูญไปไว้ไหน สังคมเชื่อถือ นพ.ประเวศ เพราะว่ามีเครดิตในสังคม ซึ่งตนไม่มี แนวคิดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ถามว่าจะเอารัฐธรรมนูญไปไว้ที่ไหน เก็บไว้ใต้ตุ่มหรือ มันไม่ใช่ มันต้องอยู่ในพื้นฐานของความเป็นจริง กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ บทบัญญัติใดขัดแย้งรธน.ไม่ได้ ผู้ใดล้มล้างรธน. ผู้นั้นเป็นกบฏในราชอาณาจักร แล้วจู่ๆมาตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ทางพันธมิตรฯ บอกว่ารธน. 50 ดี แล้วนพ.ประเวศ มาทำอย่างนี้จะใช้สูตรไหน และจะเอารัฐธรรมนูญไปไว้ไหน ต้องใช้เสียงข้างมาก จัดตั้งรัฐบาลอย่าไปยุ่งกันนักเลย ให้เป็นไปตามครรลองทีมีอยู่เถอะ แค่นี้บ้านเมืองก็วุ่นวายพออยู่แล้ว
**"เสธ.หนั่น"ชี้อยู่ไม่ได้ก็ยุบสภา
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคชาติไทย กล่าวถึงเรื่องการตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่า ถ้าไม่มีอะไรที่เกิดภาวะฉุกเฉินคงทำไม่ได้ เพราะรัฐบาลอยู่ในระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลอยู่ได้ก็อยู่ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถ้าอยู่ไม่ได้ก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ตามขั้นตอน เพราะรัฐบาลแห่งชาติต้องเป็นภาวะฉุกเฉินจริงๆ และจำเป็น ตนยังไม่เห็นว่าจะถึงขั้นนั้น เมื่อถามว่าได้มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่าไม่มี
**ปชป.ยันไม่คิดดึง5พรรคร่วมฯ
นายเทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชน ออกมาเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ เลิกคิดเรื่อง 5 พรรคร่วมรัฐบาล จะเปลี่ยนขั้วหันไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งรัฐบาลว่า ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนขั้ว และแกนนำของพรรค ก็ประกาศชัดเจนว่า เราเป็นฝ่ายค้าน และก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ การเสนอแนวความคิดนี้ไม่ใช่เริ่มต้นจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นจากฝ่ายอื่นเพราะเห็นว่าสภาวะผู้นำของรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว และเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีภาวะผู้นำเหนือกว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มีการเสนอทางออกของการแก้วิกฤตโดยการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาปัญหาการใช้รัฐธรรมนูญ จากทุกภาคส่วน และได้รับการขานรับจากสังคม ขณะที่นายสมัคร กลับใช้ความรุนแรงต้องการจะปราบปรามผู้ชุมนุมเป็นทางออกของการแก้ปัญหา
นายเทพไท กล่าวว่า นอกจากนี้ผลโพลล์ 70 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่า นายสมัครเป็นคนแรกที่สมควรจะถูกปรับออก นั่นก็หมายความว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนนายกฯ จึงเกิดแนวความคิดในการเปลี่ยนขั้ว
"วันนี้นายกฯ ขาดภาวะผู้นำ โมฆียะบุรุษ ซึ่งยังไม่ถึงกับเป็นโมฆะบุรุษ ซึ่งหมายความว่า การเป็นโมฆียะบุรุษ จะต้องมีการให้สัตยาบัน ถึงจะมีผลสำเร็จ ฉะนั้นนายกฯ พูดอะไรออกไป สังคมขาดความเชื่อถือต้องมีการยืนยัน หรือมีผู้ให้สัตยาบัน ถึงจะยอมรับได้ ฉะนั้นอยากเรียกร้องให้พรรคพลังประชาชน มีเอกภาพทางความคิด ไม่ใช่หัวหน้าพรรคคิดอย่างโฆษกพรรค ก็ออกมาตอบโต้ สมาชิกในแก๊งต่างๆ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน ผมคิดว่าวันนี้สังคมก็สับสนพออยู่แล้ว ต่อท่าทีการแก้รัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชาชนควรจะหาข้อสรุปในที่ประชุม และออกแถลงการณ์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ" นายเทพไท กล่าว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ข้อเสนอของนพ.ประเวศ เป็นการสะท้อนความห่วงใยว่า ความขัดแย้ง หรือความแตกแยกมีอยู่มาก แต่ขณะนี้ปัญหาคงไม่ได้อยู่ที่ว่า รัฐบาลมีเสียงไม่พอ หรือพรรคฝ่ายค้านไปสร้างปัญหาอะไร แต่ปมขัดแย้งน่าจะมาจากเรื่องรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ถ้าอยากจะให้เรื่องคลี่คลายหวังว่า พรรคพลังประชาชน จะได้มีการประชุมและมีมติชัดเจนที่จะสนับสนุนสิ่งที่ได้ตกลงกับฝ่ายค้าน ประธานสภาฯ และวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน ทั้ง 2 ฝ่ายว่า จะตั้งคณะกรรมาธิการ ขึ้นมาศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเรื่องอื่นก็ควรที่จะพักไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นด้วยหรือไม่กับแนวทางของนพ.ประเวศ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นปัญหาที่หากจะไปบอกว่าเห็นด้วย ก็คงจะไม่ได้ เพราะเท่ากับเป็นการเรียกร้องให้ไปร่วมรัฐบาล เพราะตนไม่มีข้อเรียกร้องเรื่องนี้ ยกเว้นเรื่องหยุดเรื่องรัฐธรรมนูญที่เป็นความขัดแย้ง แล้วมาทำงานใน กมธ.ร่วมกัน ส่วนรัฐบาลก็คงต้องชี้แจงในส่วนของรัฐบาลเอง
**พปช.ไม่สนข้อเสนอหมอประเวศ
ขณะที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ไปถึงจุดวิกฤติ หรือรุนแรงแบบนั้น จนไม่ต้องมีฝ่ายค้าน เพราะวันนี้มันต้องมีฝ่ายค้านในระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้มีการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เรื่องนี้มันต้องชั่งน้ำหนักให้ได้ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ไปถึงจุดวิกฤตนั้นเลย แม้ตอนนี้ภาวะเศรษฐกิจจะมาเร็วกว่าที่ประเมินไว้ อาทิ ราคาน้ำมันที่มองไว้ว่า ในไตรมาสที่ 4 จะมีราคาบาร์เรลละ130 เหรียญ แต่วันนี้ได้เจอกับราคาน้ำมันนี้แล้ว ฉะนั้นสิ่งใดที่ไม่เรียบร้อยรัฐบาลก็เร่งทำงาน เรื่องใดที่ผิดปกติ เช่น ราคาข้าวที่ตอนนี้กลไกตลาดมันผิดไปนั้นก็เร่งแก้ไข
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่กล้าแสดงความเห็นคัดค้าน เดี๋ยวกลายเป็นคนชั่วในพริบตา ถ้าเป็นเช่นนี้เอารัฐธรรมนูญไปไว้ไหน สังคมเชื่อถือ นพ.ประเวศ เพราะว่ามีเครดิตในสังคม ซึ่งตนไม่มี แนวคิดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ถามว่าจะเอารัฐธรรมนูญไปไว้ที่ไหน เก็บไว้ใต้ตุ่มหรือ มันไม่ใช่ มันต้องอยู่ในพื้นฐานของความเป็นจริง กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ บทบัญญัติใดขัดแย้งรธน.ไม่ได้ ผู้ใดล้มล้างรธน. ผู้นั้นเป็นกบฏในราชอาณาจักร แล้วจู่ๆมาตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ทางพันธมิตรฯ บอกว่ารธน. 50 ดี แล้วนพ.ประเวศ มาทำอย่างนี้จะใช้สูตรไหน และจะเอารัฐธรรมนูญไปไว้ไหน ต้องใช้เสียงข้างมาก จัดตั้งรัฐบาลอย่าไปยุ่งกันนักเลย ให้เป็นไปตามครรลองทีมีอยู่เถอะ แค่นี้บ้านเมืองก็วุ่นวายพออยู่แล้ว
**"เสธ.หนั่น"ชี้อยู่ไม่ได้ก็ยุบสภา
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคชาติไทย กล่าวถึงเรื่องการตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่า ถ้าไม่มีอะไรที่เกิดภาวะฉุกเฉินคงทำไม่ได้ เพราะรัฐบาลอยู่ในระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลอยู่ได้ก็อยู่ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถ้าอยู่ไม่ได้ก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ตามขั้นตอน เพราะรัฐบาลแห่งชาติต้องเป็นภาวะฉุกเฉินจริงๆ และจำเป็น ตนยังไม่เห็นว่าจะถึงขั้นนั้น เมื่อถามว่าได้มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่าไม่มี
**ปชป.ยันไม่คิดดึง5พรรคร่วมฯ
นายเทพไท เสนพงษ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชน ออกมาเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ เลิกคิดเรื่อง 5 พรรคร่วมรัฐบาล จะเปลี่ยนขั้วหันไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งรัฐบาลว่า ว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนขั้ว และแกนนำของพรรค ก็ประกาศชัดเจนว่า เราเป็นฝ่ายค้าน และก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ การเสนอแนวความคิดนี้ไม่ใช่เริ่มต้นจากพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นจากฝ่ายอื่นเพราะเห็นว่าสภาวะผู้นำของรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว และเห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีภาวะผู้นำเหนือกว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้มีการเสนอทางออกของการแก้วิกฤตโดยการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาปัญหาการใช้รัฐธรรมนูญ จากทุกภาคส่วน และได้รับการขานรับจากสังคม ขณะที่นายสมัคร กลับใช้ความรุนแรงต้องการจะปราบปรามผู้ชุมนุมเป็นทางออกของการแก้ปัญหา
นายเทพไท กล่าวว่า นอกจากนี้ผลโพลล์ 70 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่า นายสมัครเป็นคนแรกที่สมควรจะถูกปรับออก นั่นก็หมายความว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้มีการปรับเปลี่ยนนายกฯ จึงเกิดแนวความคิดในการเปลี่ยนขั้ว
"วันนี้นายกฯ ขาดภาวะผู้นำ โมฆียะบุรุษ ซึ่งยังไม่ถึงกับเป็นโมฆะบุรุษ ซึ่งหมายความว่า การเป็นโมฆียะบุรุษ จะต้องมีการให้สัตยาบัน ถึงจะมีผลสำเร็จ ฉะนั้นนายกฯ พูดอะไรออกไป สังคมขาดความเชื่อถือต้องมีการยืนยัน หรือมีผู้ให้สัตยาบัน ถึงจะยอมรับได้ ฉะนั้นอยากเรียกร้องให้พรรคพลังประชาชน มีเอกภาพทางความคิด ไม่ใช่หัวหน้าพรรคคิดอย่างโฆษกพรรค ก็ออกมาตอบโต้ สมาชิกในแก๊งต่างๆ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน ผมคิดว่าวันนี้สังคมก็สับสนพออยู่แล้ว ต่อท่าทีการแก้รัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชาชนควรจะหาข้อสรุปในที่ประชุม และออกแถลงการณ์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ" นายเทพไท กล่าว