xs
xsm
sm
md
lg

“หุ่นเชิดหมัก” อยู่ไม่เป็นสุขขู่ใช้ พ.ร.บ.มั่นคงสลายพันธมิตรฯ อีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมัคร สุนทรเวช
“หุ่นเชิด” พล่านหนัก หลังพันธมิตรฯ ประกาศชุมนุมยืดเยื้อไล่รัฐบาล ขู่ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ให้ผู้บัญชาการทหารบกเป็นคนสั่งการ พร้อมทั้งโหมเรื่องปัญหาจราจรสร้างความเกลียดชังในหมู่ประชาชน

วันนี้ (2 มิ.ย.) ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้ง 4 คน ประกอบด้วย พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ นางสาววิรินทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกฯ ร่วมแถลงข่าวถึงท่าทีของรัฐบาลต่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ทำการชุมนุมยืดเยื้อเพื่อขับไล่รัฐบาล

พล.ต.ท.วิเชียรโชติ อ้างว่า รัฐบาลจำเป็นจะต้องปิดศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือประสบภัยพายุไซโคลนนาร์กีส ประเทศพม่า และศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติในประเทศจีน ของสำนักนายกรัฐมนตรี ภายในทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากการปิดถนนราชดำเนินของพันธมิตรฯ โดยหลังจากที่ได้รับบริจาคมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคมนั้นโดยเป็นเงินช่วยเหลือจีนประมาณ 6 หมื่นบาท และช่วยเหลือพม่าประมาณ 1 ล้านบาท

“รัฐบาลจำเป็นต้องปิดศูนย์ฯ เนื่องจากพันธมิตรฯ ปิดถนนราชดำเนิน ทำให้ไม่สามารถเข้ามาบริจาคในทำเนียบรัฐบาลได้ แต่หากกลุ่มพันธมิตรฯ เปิดการจราจรก็จะเปิดให้ประชาชนมาร่วมบริจาคอีกครั้ง” โฆษกกล่าวอ้าง และว่าหากพันธมิตรฯ ย้ายออกไป รัฐบาลพร้อมที่จะเข้าไปอำนวยความสะดวกช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายให้ด้วย

นางสาวศุภรัตน์ อ้างเช่นกันว่า มีโอกาสได้พบปะประชาชนในต่างจังหวัด และประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยว่า การชุมนุมที่ยืดเยื้อเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และเกรงว่าจะเกิดความรุนแรง ขณะที่คนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะนักเรียน ข้าราชการ พนักงานเอกชน ก็เดินทางไปทำงานไม่สะดวกทำให้เกิดความเดือดร้อน

“ประชาชนส่วนใหญ่ยังเห็นว่าพันธมิตรฯ ประสบชัยชนะไปแล้ว โดยเฉพาะการลาออกของนายจักรภพ เพ็ญแข และส.ส.ก็ถอนชื่อกระทั่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ยุติลง ซึ่งรัฐบาลก็ยืนยันว่าจะไม่มีการใช้กำลังสลายการชุมนุม โดยประชาชนเห็นว่า พันธมิตรฯควรจะสลายการชุมนุมไปเอง พันธมิตรฯจะต้องประกาศยุติการชุมนุมและกลับบ้านไปเอง” รองโฆษกระบุ

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกฯ ระบุว่า รัฐบาลจะไม่มีความต้องการที่จะใช้กำลัง ความรุนแรงอย่างหนึ่งอย่างใดกับผู้ชุมนุม เพราะการกระทบระหว่างประชาชนกับประชาชนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย หรือการกระทบระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐนั้น ไม่อยู่ในความคิดของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แต่การชุมนุมที่สร้างผลกระทบกับนักเรียน นักศึกษาที่เดินทาง หรือความไม่มั่นใจในการนักลงทุนเป็นเรื่องที่รัฐบาลคิดมากกว่า ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือมายังพันธมิตรฯ ให้เปิดถนนราชดำเนินเพื่อไปชุมนุมที่อื่น

รองโฆษกฯ ผู้นี้ อ้างว่า กลุ่มพันธมิตรฯ นำคำพูดของนายสมัครที่พูดในรายการโทรทัศน์เมื่อวันเสาร์ที่ 31 พ.ค.นี้มาบิดเบือนประเด็น ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ได้ต้องการที่จะใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมแต่นายกฯต้องการให้พันธมิตรฯไปชุมนุมที่อื่นเพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนกับประชาชน รวมทั้งเป็นถนนที่พระบรมวงศานุวงศ์ใช้พระราชดำเนิน

“ต้องถามว่ามีหัวใจที่เป็นคนไทยที่ควรพึงกระทำหรือไม่ เพราะไม่มีคนไทยคนไหน ที่ไปล่วงละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น” นายณัฐวุฒิ ระบุ และว่า “อยากให้พันธมิตรฯ ย้ายไประชุมที่อื่นไม่ว่า จะเป็นสวนจตุจักร หรือสวนลุมพินีมากกว่า ซึ่งเชื่อว่ารัฐจะไม่เข้าไปกดดันการชุมนุมหากมีการย้ายไป จะชุมนุมไปนาน 4 ปี ตลอดอายุรัฐบาลก็ได้ เพราะหากมาตั้งเวทีถาวรจะสร้างปัญหามากขึ้นจึงขอให้พันธมิตรฯทำการทบทวน โดยเฉพาะพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำฯที่ควรจะทบทวนสถานการณ์ที่ผ่านมา เนื่องจากการพูดที่จะตั้ง “อาณาจักร หรือดินแดนพิเศษ” เป็นการเกินเลย เพราะหากจะไปตั้ง “เมืองจำลอง” ก็ควรไปสวนลุมพินี หรือสวนจตุจักรมากกว่า”

นายณัฐวุฒิ ยังเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงภาวะผู้นำโดยการยุติบทบาทลูกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ เพื่อขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะนายสมเกียรติ (พงษ์ไพบูลย์) และเชื่อว่าจะมีอีกหลายคนที่จะขึ้นเวทีพันธมิตรฯ

“อยากถามคุณอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ว่ายังมีหัวใจที่เชื่อมั่นใจระบบรัฐสภาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ไม่ควรตีสองหน้าปล่อยลูกพรรคมาโจมตีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะหากเป็นผู้นำจริงต้องแสดงจุดยืน ความเป็นตัวตน ขณะที่ภาพของนายอภิสิทธิ์กลับมีความสนิทสนามกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ จึงเรียกร้องว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรมีจุดยืนกับพันธมิตรฯ หากไม่ต้องการจะเป็นพันธมิตรเพื่อประชาธิปัตย์” นายณัฐวุฒิกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้าพบนายกรัฐมนตรีของพล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร. และคุณพรทิพย์ จาละ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กว่า 15 นาที เป็นการเตรียมการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือกฎอัยการศึก เพื่อมาสลายการชุมนุมหรือไม่ พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวว่า นายกฯ ขอให้ ผบ.ทบ.และ ผบ.ตร.ไปเจรจากับพันธมิตรฯ ในเบื้องต้นรัฐบาลคงจะใช้กฎหมายจราจร และกฎหมายอาญาเอาผิดกับพันธมิตรฯ เพราะรัฐบาลยืนยันจะไม่ใช้ความรุนแรง

ทั้งนี้ แม้การออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายกฯ จะเป็นผู้ประกาศใช้ แต่ผบ.ทบ.ก็มีอำนาจที่จะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ปี 2550 ที่ สนช.และรัฐบาลชุดที่มาจาก คมช.เป็นผู้ผลักดัน เนื่องจากขณะนี้มีผู้เดือดร้อนจำนวนมากไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว

“รัฐบาลเชื่อว่าเมื่อมีการไปคุยกันดีๆ ก็จะรู้เรื่อง มากกว่าที่จะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือกฎอัยการศึก” โฆษกฯ กล่าวด้วยว่า เขายังยินดีที่จะเป็นตัวแทนของรัฐบาลไปเจรจากับพันธมิตรฯ ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น