“วีระ สมความคิด” แจงผ่าน NBT พันธมิตรฯ ชุมนุมโดยสงบ ไม่ได้คิดก่อเงื่อนไขรัฐประหาร แฉ นปก. คือพวกเดียวกับกลุ่มป่วนที่ก่อความรุนแรง-ย้ำชัด พันธมิตรฯ ชุมนุมด้วยความสงบ หากมีเหตุรุนแรงต้องโทษตำรวจที่ปล่อยให้ “ม็อบถ่อย” มาทำร้ายก่อน
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ถามจริง-ตอบตรง
วันนี้ (29 พ.ค.) นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) และหนึ่งในแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ในรายการ ถามจริง-ตอบตรง ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ดำเนินรายการโดย นายจอม เพชรประดับ เกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ จนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 5 วันแล้วที่พันธมิตรฯ ปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งจุดยืนที่เราออกมาชุมนุมก็ยังเป็นจุดยืนเดิมนั่นคือคัดค้านการแก้ไข รธน. ซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของชาวบ้านตอนนี้มีมากมาย รัฐบาลกับไม่รีบแก้ไข มัวแต่จะไปแก้ไข รธน.ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องตัวเอง ดังนั้นเรายืนยันว่า หากมีการถอนญัตติการแก้ไข รธน.ออกจากสภาฯ ทางพันธมิตรฯ ก็พร้อมยุติการชุมนุมในทันที
ต่อคำถามว่า เมื่อยืนยันว่าชุมนุมเพื่อคัดค้านการแก้ไข รธน. แต่เหตุใดการปราศรัยบนเวทีของพันธมิตรฯ จึงออกมาในรูปแบบของการขับไล่รัฐบาล นายวีระ กล่าวว่าต้องดูที่สาเหตุแท้จริงว่าทุกวันนี้รัฐบาลไม่ได้สนใจดูแลปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนอย่างแท้จริงเลย เมื่อปัญหาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจมีเพิ่มมากขึ้น ความไม่พอใจของประชาชนก็มีมากขึ้นตามไปด้วย จะเห็นได้จาก คนที่เข้ามาร่วมชุมนุมจำนวนมากต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่พอใจในการแก้ปัญหาของรัฐบาลจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บทเวทีของพันธมิตรฯ จะแสดงออกถึงความไม่พอใจที่มีต่อคณะรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้
ผู้ดำเนินรายการถามต่อไปว่า เหตุใดพันธมิตรฯ จึงมีการประกาศว่าการชุมนุมครั้งนี้ เป็นสงครามครั้งสุดท้าย นายวีระ กล่าวว่า การที่พันธมิตรฯ กล่าวเช่นนั้น มีหมายความว่าเราไม่อยากเห็นความขัดแย้งทางการเมืองเช่นนี้เกิดขึ้นอีก และการที่การเมืองจะพัฒนาไปข้างหน้าเราได้ เราจะต้องปล่อยให้กระบวนการต่าง ๆ เป็นไปตามครรลองในระบอบประชาธิปไตย เช่น กระบวนการตัดสินเรื่องยุบพรรคก็ควรปล่อยให้ศาลเป็นผู้ตัดสินไม่ใช่ไปแก้ รธน. เพื่อตัดตอนไม่ให้ไปถึงกระบวนการทางศาล
ต่อคำถามว่า มีคนตั้งข้อสังเกตว่าพันธมิตรฯ จะเป็นผู้เปิดประตูไปสู่การรัฐประหารจากการชุมนุมในครั้งนี้ นายวีระกล่าวว่า พันธมิตรฯไม่ได้เป็นคนไขประตูให้ใครทั้งนั้น รัฐบาลต่างหากที่เป็นผู้สร้างเงื่อนไขขึ้นมาเอง เพราะหากรัฐบาลไม่หยิบประเด็นเรื่องการแก้ไข รธน. เพื่อตัวเองขึ้นมาเป็นชนวนป่านนี้พันธมิตรฯ ก็คงไม่ต้องออกมาชุมนุมอย่างทุกวันนี้ และตนก็คิดว่าหากจะเกิดรัฐประหารขึ้นก็คงเป็นเพราะ ตำรวจไม่ควบคุมปล่อยให้กลุ่มต่อต้านมาทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ จนเกิดเป็นความรุนแรงซึ่งเมื่อนั้นทหารคงจำเป็นต้องออกมาควบคุมสถานการณ์
นายวีระ กล่าวด้วยว่า อยากจะบอกกับประชาชนว่าไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะเกิดความรุนแรง เพราะพันธมิตรฯ เราชุมนุมอย่างสงบโดยไม่มีอาวุธ ดังนั้นเหตุความรุนแรงจะไม่เกิดจากทางฝ่ายพันธมิตรฯ แน่นอน
ผู้ดำเนินรายการถามต่อว่า การชุมนุมอาจมองได้ว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่ต้องสัญจรทางถนน นายวีระกล่าวว่า หากบอกว่าเราสร้างความเดือดร้อนอยากให้มองว่าเมื่อครั้ง นปก. เคยชุมนุมก็ปิดถนนเช่นเดียวกัน แถมยังมีการบุกไปด่าและทำลายข้าวของหน้าบ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ถึงบ้านสี่เสาเทเวศร์ เลยด้วยซ้ำ อันนั้นน่าจะเป็นการสร้างความเดือดร้อนมากกว่าพันธมิตรฯ ไม่รู้เท่าไหร่ ส่วนสาเหตุที่พันธมิตรฯ ต้องชุมนุมที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ซึ่งเป็นถนนใหญ่ก็เพราะทางตำรวจไม่ยอมปล่อยให้เราไปถึงถนนเล็กๆ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลตามที่เราร้องขอเอง เพราะในครั้งแรกพันธมิตรฯ คิดเอาไว้แล้วว่าหากไปชุมนุมบริเวณนั้น คงไม่ส่งผลกระทบมากนักเพราะตรงนั้นไม่ใช่ถนนหลักที่ใช้สัญจร
อีกทั้งยังอยากให้ทุกฝ่ายลองตั้งข้อสังเกตดูว่าแท้จริงแล้วสาเหตุความรุนแรงนั้น เกิดขึ้นจากกลุ่มต่อต้านที่ใช้ความป่าเถื่อนเข้ามาทำร้ายฝ่ายพันธมิตรฯ ก่อนตั้งแต่ครั้งงานสัมมนาของพันธมิตรฯ ที่ ม.ธรรมศาสตร์แล้ว และก็เป็นที่น่าสังเกตว่าเหตุใดตำรวจจึงปล่อยให้คนเหล่านั้นเข้ามาทำร้ายผู้คนที่ชุมนุมโดยสงบได้ ไม่เหมือนกับตอนที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ชุมนุม ตอนนั้นไม่เห็นมีกลุ่มพันธมิตรฯ หรือกลุ่มต่อต้านใดๆ ไปทำร้ายกลุ่ม นปก.เลย และตนก็เชื่อด้วยว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเหล่านั้นไม่ใช่กลุ่มมือที่ 3 แต่เป็นคนของกลุ่ม อดีต นปก. และ ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลแน่นอน เพราะตนเห็นกับตาว่ามีกลุ่มคนดังกล่าวเข้าไปอยู่ให้กำลังใจในกุล่มต่อต้านพันธมิตรฯ
สำหรับกรณีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ทางรายการถามจริง-ตอบตรงจะมีการนำเสนอทั้งหมด 2 ตอนโดยในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) จะมีการเชิญ นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ มาให้สัมภาษณ์ในเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 20.30 น.