ผู้นำฝ่ายค้าน จวก “หมัก” ชอบอ้างตัวเป็นคนพูดตรง แต่กับเรื่องแก้ รธน. กลับไม่เคยทำ ตรงกับสิ่งที่พูดไว้ ย้ำชัด ปัญหาบ้านเมือง-รธน. ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้เป็นผลมาจาก การละเมิดกฎหมาย และปิดกั้นการตรวจสอบ ของ รัฐบาล “ทักษิณ”
คลิกที่นี่เพื่อฟัง รายการถามจริง-ตอบตรง
วานนี้(9 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ในรายการถามจริง ตอบตรง ทางสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ดำเนินรายการโดย นายจอม เพชรประดับ โดยเป็นการสัมภาษณ์ต่อเนื่องจากวานนี้ที่พูดคุยถึงเรื่องผลงาน 3 เดือนของรัฐบาล โดยการสัมภาษณ์ในวันนี้ เป็นการพูดคุยถึงเรื่องของการแก้ รธน. ว่าทางพรรคประชาธิปัตย์มีความคิดเห็นอย่างไรต่อการแก้ รธน.ของรัฐบาล
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้คัดค้านเรื่องการแก้ไข รธน. แต่ต้องการให้ รธน.มีบทบัญญัติที่สมบูรณ์เป็นประชาธิปไตย มีกระบวนการและเป้าหมายการแก้อย่างชัดเจนโปร่งใส และต้องการทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง แต่ปัญหาที่เกิดความขัดแย้งขึ้นในตอนนี้ก็เพราะ ตอนนี้การคิดจะแก้ รธน. ของรัฐบาลไม่ได้มาจากเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนเลย แต่มาจากที่รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาของตัวเอง ซึ่งเห็นได้จากแนวคิดริเริ่มในการแก้ ที่ต้องการจะแก้ มาตรา 327 และ 309 เพื่อเอื้อประโยชน์เรื่องยุบพรรค และการดำเนินคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
“วันนี้เราต้องตั้งโจทย์ก่อนว่าวันนี้เราแก้ รธน. เพื่ออะไร ถ้าวันนี้หากรัฐบาลตอบกับประชาชนว่าที่ต้องแก้ รธน.เพราะหากไม่แก้จะไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาน้ำ ปัญหาค่าครองชีพ หรือแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย หากเป็นอย่างนั้นประชาชนคงให้แก้เลย ถ้าแก้ รธน.วันนี้ แล้วพรุ่งนี้แก้ปัญหาของแพง ค่าแรงได้ ผมว่าคนคงให้แก้เลย แต่มันไม่ใช่ เพราะเรื่องการแก้ รธน.มันเริ่มมาจากปัญหาการเมืองของรัฐบาลเอง เป็นคดียุบพรรคบ้าง ปัญหาคุณทักษิณบ้างเอาตรงนี้มาเป็นตัวตั้ง ซึ่งตรงนี้แหละมันเป็นการให้เกิดปัญหาทางการเมือง”
ต่อกรณีที่ตอนนี้ รัฐบาลบอกจะแก้ทั้งฉบับโดยการตัดแปะ รธน.ปี 40 เข้าไป และเขียนบทเฉพาะกาลโดยมีเป้าหมายให้มีการสรรหาคณะกรรมการองค์กรอิสระเช่น ปปช. กกต. ใหม่โดยอ้างว่าต้องการจะล้มอำนาจแฝงที่มาจากเผด็จการ ตนก็อยากจะถามว่า อำนาจแฝงนี้ก็แปลก เพราะเมื่อวันที่พรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งก็ชื่นชม กกต. ว่า กกต.ชุดนี้ทำงานดี ทำงานเป็นกลาง แต่พอวันนี้ กกต. ให้ใบแดงคนของพรรคตัวเอง เลยบอกต้องเปลี่ยน กกต. อย่างนี้ก็ดูแปลกเกินไป
ต่อคำถามว่า ทราบมาว่าหากพรรคพลังประชาชนนำร่าง รธน. เข้าสู่สภา ทางพรรคประชาธิปัตย์จะเสนอร่าง รธน.ของพรรคเข้าสู่สภาด้วย แล้วเนื้อหาในร่างดังกล่าวจะต่างไปจากร่างของรัฐบาลอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า หากพรรคประชาธิปัตย์จะเสนอร่าง รธน. ของพรรคเข้าสู่สภาก็จะเสนอให้การแก้ รธน. เป็นการเปิดกระบวนการออกไปให้กว้างกว่าแนวทางของรัฐบาล เช่นการตั้ง สสร. ขึ้นมาร่วมแก้ไข เพราะการมี สสร.จะเกิดผลดีกับประชาชนมากกว่า เพราะหากมี สสร. ตัวแทนจากหน่วยต่าง ๆ ก็จะทำให้สังคมจะได้ร่วมกันแก้ รธน. มากขึ้นอีกทั้ง ตัวของ สส.รัฐบาล สส.ฝ่ายค้านและวุฒิสภาโดยรวม ก็จะได้เอาเวลาไปแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้ดีกว่า และน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อไปว่า อยากให้รัฐบาลตรงไปตรงมา แสดงให้ชัดว่าต้องการจะแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างจริงใจ และกล่าวด้วยว่า “ท่านนายกเองชอบบอกว่า แหม มาต่อว่าท่านว่า ว่าท่านพูดจาไม่สุภาพ แต่ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา แต่ผมว่าท่านไม่ตรงไปตรงมา ขอกล่าวหาเลย เพราะท่านพูดว่า รธน.ต้องแก้ เพราะระบบเลือกตั้งไม่ดี วุฒิสภามีปัญหา แต่ท่านไปดูหรือยังว่า ร่าง รธน.ฉบับแรกที่พรรคของท่านร่างขึ้นมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาเหล่านั้นเลย ไม่ได้แก้สิ่งที่ท่านนายกบอกเลย มีแต่จะแก้ มาตรา 327 และ 309 ต่อมามีแรงต่อต้านจึงบอกว่าจะแก้ทั้งฉบับ”
ต่อคำถามที่ว่า หลายคนมองว่าความขัดแย้งในการแก้ รธน.ในตอนนี้คล้ายกับเหตุการณ์ก่อน 19 ก.ย. คิดหรือไม่ว่าอาจเกิดเหตุการณ์รัฐประหารอีก นายอภิสิทธิ์กล่าว่า ตอนนี้มีหลายเรื่องที่น่าห่วงว่าอาจจะทำให้เกิด แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ป้องกันไม่ให้เกิด ต้องดูแลความสงบเรียบร้อย เงื่อนไขใดที่มีการทักท้วงว่ารัฐบาลกำลังใช้อำนาจแล้วไปกระทบกับความรู้สึกของคนจำนวนมาก ก็ต้องหลีกเลี่ยง แต่หากยังคิดว่าตนมีอำนาจจะทำอะไรก็ได้ วิกฤติมันก็จะเกิด ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับทหารยังเป็นไปด้วยดี แต่ตนเชื่อว่า สิ่งที่กองทัพรู้สึกเหมือนกับประชาชนทั่วไป ก็คือยังมีเหตุการณ์หรือปัญหาบางเรื่องที่กระทบต่อจิตใจของคนที่รักสถาบันหลักของชาติ ซึ่งทุกฝ่ายอยากเห็นรัฐบาลจัดการอย่างเด็ดขาด ถ้ารัฐบาลพิสูจน์จัดการเรื่องนี้ได้ก็คงไม่มีปัญหา
ผู้ดำเนินรายการถามว่า มีคนตั้งข้อสังเกตว่าพรรคประชาธิปัตย์พยายามดำเนินการเคลื่อนไหวนอกสภา โดยการเป็นแกนนำของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่องจริงเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าทางพรรคไม่มีแนวทางในการเคลื่อนไหวนอกสภา เราไม่ปรารถนาที่จะเห็นบ้านเมืองวุ่นวาย มีแต่พยายามเสนอทางออกให้บ้านเมืองไม่เกิดความวุ่นวาย แต่หากหมายถึง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯนั้น ตนคิดว่า สิ่งที่นายสมเกียรติ ทำเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคลที่ไม่ได้ไปทำร้ายใครไม่ได้ละเมิดกฎหมายอะไรเลย
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า “การแก้ไขปัญหา หรือแก้กฎหมายในสภา ไม่ได้หมายความว่า มีเสียงข้างมากในสภาแล้วทำอะไรก็ได้อันนี้คือสิ่งที่ผมอยากจะย้ำ เพราะบางทีท่านนายกพูดว่า จริง ๆ แล้ว รธน.ปี 40 มันดี แต่บังเอิญคุณทักษิณเล่นการเมืองก็เลยเป็นปัญหา ผมก็อยากบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะคุณทักษิณรวย เก่ง หรือไม่เก่ง แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองกับ รธน.ปี40 ก็คือมันมีการใช้อำนาจไปในทางมิชอบ ถ้าไม่มีตรงนั้น ขณะนี้ทุกอย่างก็คงไปได้ด้วยดี ถึงผมจะเป็นฝ่ายค้านคุณทักษิณจะเป็นนายกก็ไม่มีปัญหา ถ้าไม่มีการไปละเมิด รธน. ละเมิดกฏหมาย ปิดกั้นการตรวจสอบและปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของประชาชน”
