xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิ” ปลุกพลังมวลชนไล่รัฐบาลโจรอำมหิต คิดแต่ปล้นชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สนธิ” ปลุกพลังมวลชนร่วมกันขับไล่รัฐบาลโจรอำมหิต คิดแต่ปล้นชาติ ฉ้อราษฎร์ฯ มีเจตนาล้มล้างสถาบันพระมหากษัตย์ ไม่เคยใส่ใจแค่ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ น้ำมันแพง ย้ำกรณี “เพ็ญ” แค่เศษเสี้ยว เพราะมีการกระทำกันเป็น “ขบวนการ” มาตั้งแต่ต้น

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย 

วันนี้ (28 พ.ค.) ที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ เวลา 22.45 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีได้ย้ำว่าจะชุมนุมต่อไปจนกว่าจะได้ชัยชนะ

นายสนธิ กล่าวว่า วันนี้เป็นความไร้ความรับผิดชอบของรัฐบาล มีการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีเจตนาทำร้ายประเทศชาติ แต่พอถูกจับได้ อุปมาเหมือนกับว่าโจรกำลังจะปล้น แต่พอถูกจับได้โจรก็บอกว่าจะไม่ปล้นแล้ว ดังนั้นเราต้องปราบโจร ถามว่าเราพร้อมจะปราบโจรหรือไม่

นายสนธิ กล่าวว่า รับรู้กันไปแล้วว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่เผด็จการในรูปแบบเก่า แต่ปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง ฉ้อราษฎร์บังหลวง มีเจตนาล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะที่รัฐมนตรีกลับไร้วุฒิภาวะ มีเจตนาปล้นชาติ ทำลายหลักนิติธรรม

นายสนธิ เรียกร้องให้รวมพลังกันมาแสดงเจตนารมณ์ขับไล่รัฐบาลโจร ที่มีความอำมหิต โดยได้ยกตัวอย่างกรณีการขึ้นราคาน้ำตาล นำเงินจำนวน 6 พันล้านบาทนำไปแบ่งให้กับโรงงานน้ำตาลจำนวน 3 พันล้าน ที่เหลือ 3 พันล้านแบ่งให้กับนักการเมือง ส่วนเรื่องราคาน้ำมันซึ่งเคยค้านเรื่องการแปรรูปปตท.ที่ให้นอมินีสิงคโปร์มาถือหุ้นใน ปตท.ซึ่งเป็นพวกเดียวกับระบอบทักษิณ ซึ่งปีที่แล้วกำไร 1.2 แสนล้านบาท และในปีนี้ยังได้ประกาศว่าในไตรมาสแรกจะมีกำไร 3 แสนล้านบาท ดังนั้นคาดว่าทั้งปีจะมีกำไรกว่า 2 แสนล้านบาท แต่ประชาชนต้องเดือดร้อนจากปัญหาน้ำมันแพงอย่างแสนสาหัส

นายสนธิ กล่าวว่า ถ้าเป็นรัฐบาลจะต้องใช้ความเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ปตท.จะประกาศไม่ปันผลไป 5 ปี แล้วจะเอากำไรจำนวนมหาศาลมาลดราคาน้ำมันทั่วประเทศ

“ถ้าทำแบบนี้แล้วจะตกก็ให้มันตกไป ก็ให้ไปซื้อหุ้นมาเก็บไว้อย่าไปแคร์มัน และที่บอกว่าจะให้ลดค่ากลั่นอีกลิตรละ 1 บาท ซึ่งหมายความว่ามันต้องลดได้มาตั้งนานแล้ว แต่ทำไมเพิ่งมาทำ ถือว่าอำมหิตที่สุด” นายสนธิระบุ

นายสนธิ กล่าวถึงเรื่องปัญหาข้าว ซึ่งตามปกติถ้าข้าวแพงน่าจะเป็นผลดีต่อชาวนา แต่กลับกลายเป็นว่าตรงกันข้าม มีแค่ผู้ส่งออก โรงสีเท่านั้นที่ร่ำรวย

จากนั้นได้ตำหนิความพยายามของรัฐบาลที่จะทำโครงการรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ มูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท ว่าเจตนาที่แท้จริงก้เพื่อต้องการค่าส่วนแบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์จำนวน 4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น เพราะถ้าให้ได้ประโยชน์สูงสุดน่าจะเริ่มทำในระยะ 100 กิโลเมตรในเขตปริมณฑล เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจ กระจายความเจริญ แต่กลับไม่ทำ เพราะต้องการเงินค่าคอมฯจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์จำนวน 4 หมื่นล้านยบาทนั่นเอง

จากนั้น นายสนธิได้หยิบยกกรณีวารสารของกรมประชสัมพันธ์ประจำเดือนเมษายน 2551 ที่ขึ้นปกรูปของ นายจักรภพ เพ็ญแข ทั้งที่ตามธรรมเนียมแล้ววารสารฉบับนี้จะนำพระบรมฉายาลักษณ์ ฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัว และพระราชวงศ์ชั้นสูงมาขึ้นปก หรือมีการนำรูปสถานที่สำคัญมาขึ้นปก ไม่เคยนำรูปคนสามัญมาขึ้นปกแม้แต่ครั้งเดียว

นอกจากนี้ นายสนธิยังชี้ให้เห็นว่า ในเดือนเมษายนซึ่งเป็นวโรกาสสำคัญคือเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพฯ แต่กลับนำรูปของนายจักภพมาขึ้นปก แล้วพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเทพขนาดเล็กมาไว้ในปกด้านใน

“สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการเจตนาและทำมานานแล้ว แต่นายสมัคร เฉลิม หรือพรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาฯ มัวไปทำอะไรกันอยู่ เพราะมันเป็นขบวนการ ไม่ได้มีเจตนาหมิ่น แต่จงใจล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์กันเลยทีเดียว” นายสนธิ ระบุ และว่าเรื่องนี้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ไม่ต้องมาแก้ตัวว่าไม่รู้ เพราะรู้อยู่แล้วว่าธรรมเนียมของการทำวารสารมีความเป็นมาอย่างไร กี่ฉบับต้องทำอย่างไร รู้ดีอยู่แล้ว

“สมัยแค่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก็มีการตบเท้าหรือทุบโต๊ะกันไปแล้ว แต่สมัยนี้มันเกิดอะไรขึ้น หรือแค่สะกดคำว่าจงรักภักดีเป็นเท่านั้น” นายสนธิ กล่าว และว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกรณีคำพูดของนายจักรภพไม่ใช่เรื่องของการแปลปิดแปลถูก เพราะมีการพูดที่นครลอสแองเจลิส มีการพูดภาษาไทยมีการจาบจ้วงอย่างชัดเจน แต่ปัญหาจักรภพแค่เสี้ยวหนึ่ง เพราะมันเป็นขบวนการ
กำลังโหลดความคิดเห็น