“ท่านจันทร์” แห่งสันติอโศก ขึ้นเทศนาบนเวทีพันธมิตรฯ โดยชี้ทางธรรมให้ทุกคนส่งเสริมคนที่เราเห็นดี แม้บางครั้งเราจะไม่เห็นด้วยบ้างก็ตาม เพื่อช่วยผลักดันให้ความดีแผ่กระจายไปทั่ว พร้อมแสดงทัศนะ เห็นดี รัฐธรรมนูญปี 50 ที่เพิ่มอำนาจ ปชช.แต่ลดอำนาจรัฐบาล เชื่อ หากรัฐบาลที่ดีไม่มีบาดแผล ย่อมต้องไม่กลับกับรัฐธรรมนูญหรือทิงเจอร์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ท่านจันทร์ แห่งสันติอโศก เทศนา
วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 19.29 น.ท่านจันทร์ แห่งสันติอโศก ขึ้นเทศนาบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า อาตมาเองเห็นดีกับสิ่งที่แกนนำพันธมิตรฯ ทำอยู่ ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจคำว่าเห็นดี กับเห็นด้วย อยากให้ทัศนะว่า การที่เรามีส่วนร่วมในสิ่งหนึ่ง มีอยู่สองประการ คือ เราร่วมเพราะเห็นด้วยหรือเราร่วมเพราะเห็นดี หลายครั้ง เราร่วมภารกิจต่างๆนานา เพราะเราเห็นดี แม้บางสิ่งบางอย่างเราจะไม่เห็นด้วย การที่เราจะมีส่วนร่วมในการแสดงพลังแห่งความดี บางทีเราจะเอาคามคิดความเห็นของเราเป็นที่ตั้งว่าเราต้องเห็นด้วยในทุกเรื่อง เราถึงจะร่วมคงจะเป็นเรื่องยากที่จะทำคุณงามความดี
อาตมามีประสบการณ์จริงกับท่านผู้หนึ่งในห้าของกลุ่มแกนนำ เราสนิทสนมคุ้นเคย และเห็นดีในความดีของท่าน แต่ปรากฏว่าในบางสิ่งบางอย่าง ในความคิดเห็นแสดงออก เราไม่เห็นด้วย แต่อาตมาจะเสนอทัศนะในเรื่องนี้ไปสู่การปฏิบัติของท่านทั้งหลายตรงที่ว่า การที่เราจะร่วมมือร่วมใจร่วมงานกับใครคนใดคนหนึ่ง กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง โปรดอย่าเอาความเห็นด้วยอย่างฉาบฉวย เป็นที่ตั้ง แต่จงเห็นดี หมายความว่า เห็นความดีเป็นที่ตั้ง ซึ่งแกนนำพันธมิตรฯคนนี้เป็นคนที่มีคุณงามความดีปรากฏชัด แม้บางสิ่งไม่เห็นด้วยแต่เราเห็นดี ต่อมาเรารู้จักกับท่านอื่นในแกนนำ เราเริ่มจะเห็นดี แต่บางครั้งเราก็มีความรู้สึกไม่เห็นด้วยกับการแสดงออกของท่าน
“เรามาเริ่มเปิดมิติทางความคิดจิตใจของเราให้กว้างมากขึ้นเถอะ เราจะอยู่ร่วมกับใครคนใดคนหนึ่ง หรือทำอะไรกับใครคนใดคนหนึ่ง เราเอาความดีเป็นที่ตั้ง เห็นดีแล้วเราก็ร่วมในความดีนั้น ส่วนความรู้สึกเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยบางสิ่งบางอย่างเก็บใส่ลิ้นชักไว้ก่อน ถ้าเป็นเช่นนี้ความดีก็จะแพร่กระจายขยายไปทั่วโลก เราเห็นเขาทำดีแม้บางสิ่งบางอย่างเราไม่เห็นด้วย เราก็ร่วมในความดีนั้นเพื่อผลักดันความดีให้กระจายขยายผลยิ่งๆ ขึ้นต่อไป”
ประการที่สอง ได้คุยกับท่านหนึ่งซึ่งได้รับรางวัลแมกไซไซ และเป็นอดีต ส.ว.ท่านเล่าให้ฟังว่าการที่เราจะต่อต้านคนชั่วหรือคนไม่ดีนั้น บางทีเราอาจจะยังทำไม่ได้ ด้วยความไม่ลงตัวหลายประการ สรุปก็คือ เมื่อไม่สามารถต่อต้านคนชั่วคนเลวได้ สิ่งที่เราควรทำคือสนับสนุนคนดีไปพรางก่อน ตามแบบพระราชดำรัสขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงตรัสแล้วเราได้มีโอกาสฟังอยู่เนืองๆ ว่า เมื่อเราไม่สามารถที่จะทำให้ทุกคนในบ้านเมืองเป็นคนดีได้ เราก็ช่วยกันสนับสนุนให้คนดีมีอำนาจ แล้วช่วยปิดกั้นโอกาสคนชั่วไม่ให้มีอำนาจ คำต่อคำอาตมาจำไม่ได้หมด แต่โดยรวมเป็นไปในทำนองนี้ ผู้ใหญ่ท่านนั้นบอกด้วยว่าเมื่อเราไม่สามารถจัดการกับคนชั่วได้ทันทีทันใด เราก็ช่วยสนับสนุนคนดีแล้วปกป้องคนดีก่อนเป็นไร
ท่านจันทร์ เทศน์ด้วยว่า รัฐธรรมนูญปี 50 มีส่วนเห็นดี คือ เพิ่มอำนาจให้ประชาชนและลดอำนาจของรัฐบาล รัฐบาลที่ดีจะไม่เป็นวัวสันหลังหวะ และไม่กลัวการตรวจสอบโดยพลังประชาชน เพราะฉะนั้นการรักษารัฐธรรมนูญปี 50 ไว้ คือ การแสดงความบริสุทธิ์ใจ ตราบใดที่เราไม่เป็นแผล จะกลัวทำไมกับทิงเจอร์แอลกอฮอล์ ไม่แสบ แต่จะรู้สึกเย็นด้วยซ้ำไป ถ้าเราเป็นรัฐบาลที่ดีเราจะไม่กลัวการตรวจสอบโดย คตส.
แม้เราจะยังไม่สามารถจัดการคนชั่ว เราจะต้องช่วยกันปกป้องรักษาให้กำลังใจคนดี หนึ่งในกลุ่มคนดีที่เห็นชัดเจนคือกลุ่ม คตส.ที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยหนักหนา และมีแรงเสียดทานมากมายขณะนี้ หลายคนแสดงซึ่งความดี เราเห็นดี แม้บางอย่างเราจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม แต่เราก็เห็นว่าเขามีคุณงามความดี แม้แต่ กกต.ถึงเราจะเห็นข้อขัดแย้งต่างๆ แต่ภาพรวมเราเห็นดี แม้บางครั้งจะไม่เห็นด้วย
“ถ้ารัฐธรรมนูญปี 50 ต้องมีอันเป็นไป โดยการกระทำของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เรากำลังทำลายคนดี คนที่ตั้งใจทำดี ไม่ว่าจะเป็น คตส.ก็ตาม หรือกกต.บางส่วนก็ตาม เพราะฉะนั้นอยากจะฝากท่านทั้งหลายว่าเราต้องช่วยกัน ดาวน้อยๆ ร้อยพันดาว ยังโชติช่วงสว่างไสว ใจน้อยๆ ร้อยพันใจ หรือจะไม่มีพลัง”
ขอให้ท่านทั้งหลายจงอย่าเพียงแค่ต่อสู้ เพราะคำว่าต่อสู้นั้นน้อยเกินไป เราจะต้องไม่เพียงแค่ต่อสู้ เราจะต้องสู้ต่อ คำว่าสู้ต่อทีว่านี้ ประการแรก อาตมาในฐานะที่อยู่ในวงธรรมะ ไม่ได้ต้องการให้ท่านทั้งหลายไปตีหรือทำร้ายใคร หรือต้องการให้ท่านทั้งหลายรู้สึกสะใจต่อใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง จริงๆ แม้อาตมาจะไม่เห็นด้วยกับคำด่าคนอื่นด้วยคำหยาบใคร แม้สมาชิกบางท่านที่อยู่บนเวทีนี้ อาตมาไม่เห็นด้วยเรื่องผรุสวาจา แต่เราเห็นถึงความตั้งใจดีของเขา และเราพยายามสนับสนุนในส่วนที่เป็นความจริงปรากฏ แม้เราฟังใครพูด แม้เราจะมีความรู้สึกขัดๆในใจว่าพูดไม่เข้าท่า แต่จงจำคำของพระพุทธเจ้าที่สอนว่า ฟังด้วยดี ย่อมเกิดปัญญา
“พระพุทธเจ้าไม่เคยบอกเราว่าคนพูดดี แล้วเราจะมีปัญญาไม่ใช่ ถ้าคนนั้นพูดดีแต่เราฟังไม่ดี เราก็จะไม่มีปัญญา แต่ถ้าคนนั้นพูดไม่ดี แต่เราฟังดี ก็จะมีปัญญา”
อาตมาแต่ก่อนเวลาช่อง 11 ถ่ายทอดวันอาทิตย์ 08.30-09.30 น.อาตมาจะหลบไปฉันท์ไกลๆ เพื่อความเจริญอาหารของอาตมา แต่อาตมาได้มาทบทวนว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะกับสมณะ อาตมาจะต้องฟังได้ แล้วอาตมาเชื่อว่า ถ้าฟังได้ จะฝึกบำเพ็ญขันติบารมีได้อย่างยิ่งยวด