“อภิสิทธิ์” ชี้รัฐบาลไม่มีความจำเป็นประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะเป็นการใช้สิทธิตาม รธน. แนะ ตร.จัดการม็อบป่วนกระทำผิดซึ่งหน้า เชื่อไม่บานปลายเหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลา จี้ “เจ๊เพ็ญ” แสดงสปริตลาออกเพื่อคลายวิกฤต
วันนี้ (26 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงท่าทีของนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นห่วงเรื่องการทำคดีที่มีความล่าช้าก็เห็นใจเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ถ้าเนิ่นนานไปก็จะเกิดเป็นประเด็นความขัดแย้งในสังคม สิ่งที่เราเสนอไปไม่ใช่ทำตัวเป็นศาล แต่เสนอในฐานะที่อยู่ฝ่ายการเมืองและเห็นว่าปัญหานี้ควรจะแก้ที่การเมืองก่อนเพื่อทำให้ชนวนความขัดแย้งในสังคมลดลงไป รู้สึกเสียดายที่นายกฯ ไม่ใช้วิธีการบริหารแก้ปัญหาเพื่อลดความขัดแย้งในสังคม
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายจักรภพจะต้องลาออกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้านายจักรภพออกไปก็จะช่วยให้ความขัดแย้งและความตึงเครียดลดลงไป จากนั้นก็ไปพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าไม่ออกก็มีความเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม นายจักรภพปฏิเสธไม่ได้ว่าพฤติกรรมของตัวเองเมื่อปีที่แล้วทำให้สังคมส่วนใหญ่ไม่สบายใจที่มีคนคิดและพูดอย่างนั้นอยู่ในสังคม และบุคคลนั้นก็มาควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสารของประเทศจึงควรแก้การเมืองเสียก่อน ตนคิดว่านายกฯ อย่าวิตกจนเกินเหตุการพูดว่าเอานายจักรภพออก พรรคประชาธิปัตย์ก็จะเสนอเรื่องมาอีก ซึ่งเราไม่มีความคิดเลยเพราะรัฐมนตรีคนอื่นถึงแม้จะมีข้อสงสัยเราก็ไม่ได้ทำอะไร เราเอาเฉพาะเรื่องด่วนนายกฯควรเปิดใจกว้างซักนิด
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทวงถามสปิริตกับนายจักรภพหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเรามีความจริงใจต่อบ้านเมืองเราต้องเอาบ้านเมืองมาก่อน แต่ถ้าเอาตัวเองเป็นใหญ่แล้วทำให้เกิดปัญหาในบ้านเมืองโดยที่ไม่ได้ช่วยเลย เวลาปัญหาลุกลามออกไปก็ต้องรับผิดชอบและรู้สึกผิดหวังที่นายกฯไม่ได้พิจารณาในสิ่งที่เรานำเสนอ
ส่วนท่าทีของรัฐบาลกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มีกระแสข่าวจะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาน่าจะอยู่ที่ว่าการชุมนุมก็เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราอยากเห็นประสิทธิภาพในการควบคุมเวลามีการยั่วยุเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ ดังนั้น ตอนนี้ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องใช้ พ.ร.ก.
“อยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องรอคำสั่งใคร เพราะเป็นความผิดซึ่งหน้า ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไรก็จะเป็นอันตราย เหตุการณ์ที่ลุกลามจนเกิดวิกฤตเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการ เรารู้ว่าตึงเครียด แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงาน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไปเป็นแกนนำในการชุมนุมด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสมเกียรติเป็นแกนนำพันธมิตรฯ มาตั้งแต่ต้นก็ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญได้และได้บอกแล้วว่าให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะสถานะของนายสมเกียรติก็เป็น ส.ส.ด้วย เมื่อถามว่าจะบานปลายเหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเป็นอย่างนั้น
วันนี้ (26 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงท่าทีของนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นห่วงเรื่องการทำคดีที่มีความล่าช้าก็เห็นใจเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ถ้าเนิ่นนานไปก็จะเกิดเป็นประเด็นความขัดแย้งในสังคม สิ่งที่เราเสนอไปไม่ใช่ทำตัวเป็นศาล แต่เสนอในฐานะที่อยู่ฝ่ายการเมืองและเห็นว่าปัญหานี้ควรจะแก้ที่การเมืองก่อนเพื่อทำให้ชนวนความขัดแย้งในสังคมลดลงไป รู้สึกเสียดายที่นายกฯ ไม่ใช้วิธีการบริหารแก้ปัญหาเพื่อลดความขัดแย้งในสังคม
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายจักรภพจะต้องลาออกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้านายจักรภพออกไปก็จะช่วยให้ความขัดแย้งและความตึงเครียดลดลงไป จากนั้นก็ไปพิสูจน์ตัวเองในกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าไม่ออกก็มีความเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม นายจักรภพปฏิเสธไม่ได้ว่าพฤติกรรมของตัวเองเมื่อปีที่แล้วทำให้สังคมส่วนใหญ่ไม่สบายใจที่มีคนคิดและพูดอย่างนั้นอยู่ในสังคม และบุคคลนั้นก็มาควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสารของประเทศจึงควรแก้การเมืองเสียก่อน ตนคิดว่านายกฯ อย่าวิตกจนเกินเหตุการพูดว่าเอานายจักรภพออก พรรคประชาธิปัตย์ก็จะเสนอเรื่องมาอีก ซึ่งเราไม่มีความคิดเลยเพราะรัฐมนตรีคนอื่นถึงแม้จะมีข้อสงสัยเราก็ไม่ได้ทำอะไร เราเอาเฉพาะเรื่องด่วนนายกฯควรเปิดใจกว้างซักนิด
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทวงถามสปิริตกับนายจักรภพหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเรามีความจริงใจต่อบ้านเมืองเราต้องเอาบ้านเมืองมาก่อน แต่ถ้าเอาตัวเองเป็นใหญ่แล้วทำให้เกิดปัญหาในบ้านเมืองโดยที่ไม่ได้ช่วยเลย เวลาปัญหาลุกลามออกไปก็ต้องรับผิดชอบและรู้สึกผิดหวังที่นายกฯไม่ได้พิจารณาในสิ่งที่เรานำเสนอ
ส่วนท่าทีของรัฐบาลกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มีกระแสข่าวจะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาน่าจะอยู่ที่ว่าการชุมนุมก็เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราอยากเห็นประสิทธิภาพในการควบคุมเวลามีการยั่วยุเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ ดังนั้น ตอนนี้ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องใช้ พ.ร.ก.
“อยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เรื่องอย่างนี้ไม่ต้องรอคำสั่งใคร เพราะเป็นความผิดซึ่งหน้า ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไรก็จะเป็นอันตราย เหตุการณ์ที่ลุกลามจนเกิดวิกฤตเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการ เรารู้ว่าตึงเครียด แต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงาน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไปเป็นแกนนำในการชุมนุมด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสมเกียรติเป็นแกนนำพันธมิตรฯ มาตั้งแต่ต้นก็ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญได้และได้บอกแล้วว่าให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะสถานะของนายสมเกียรติก็เป็น ส.ส.ด้วย เมื่อถามว่าจะบานปลายเหมือนเหตุการณ์ 6 ตุลาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเป็นอย่างนั้น
