“ปู่ชัย” จำใจบรรจุญัตติแก้ รธน.เข้าสู่สภา โวยสื่อตัวเร่งเผชิญหน้า

ปธ.สภา ทำมึนจำใจบรรจุญัตติแก้ไขร่าง รธน.เข้าสู่สภา เพราะสมาชิกเสนอชื่อตามขั้นตอน ตะแบงอ้าง ปชช.ส่วนใหญ่เห็นชอบ โวยสื่อจุดชนวนให้เกิดการเผชิญหน้า เมินพันธมิตรฯนัดชุมนุมเคลื่อนไหวแล้ว

วันนี้ (21 พ.ค.) นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังสมาชิกรัฐสภา 164 คน เข้ายื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ว่า หลังจากนี้ จะต้องมีการตรวจสอบรายชื่อของสมาชิกรัฐสภาที่เข้าชื่อ พร้อมทั้งความถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ โดยตามกฎหมายกำหนดให้สมาชิกรัฐสภา 1 ใน 5 สามารถเข้าชื่อกันยื่นญัตติแก้ไขกฎหมายได้ โดยจะต้องมีการบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันเปิดสมัยประชุมวิสามัญในวันที่ 9 พ.ค.นี้ โดยการพิจารแก้ไขกฎหมายสามารถพิจารณาได้ในสมัยประชุมสามัญทั่วไปและสมัยประชุมวิสามัญ

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ ประธานสภาผู้แทนราษฏรไม่เห็นด้วยที่จะมีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญในช่วงนี้ นายชัย กล่าวยอมรับว่า เป็นความสัตย์จริง เรื่องจริง แต่เมื่อตนเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อมีสมาชิกเข้าชื่อตามกฎหมายตนก็ต้องดำเนินการตามนั้น

เมื่อถามว่า การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชนไม่เห็นด้วย เพราะยังไม่เป็นมติของพรรคพลังประชาชน นายชัย กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เรื่องนี้สามารถที่จะทำความเข้าใจกันภายในพรรคได้ เพราะตามกฎหมายระบุชัดเจนว่า รัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะยื่นญัติติแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ เพราะฉะนั้นเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ที่ใครก็สามารถเสนอแก้ไขได้ ดังนั้น จึงสามารถที่จะทำความเข้าใจกันภายในพรรคได้

เมื่อถามว่า การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการเผชิญหน้าหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่มีหรอก จะเกิดการเผชิญหน้าได้อย่างไร เพราะประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยที่จะให้มีการแก้ไข หากสื่อไม่ทำให้เกิดการเผชิญหน้าก็ไม่เกิดการเผชิญหน้า ดังนั้น จึงอยากให้สื่อได้เสนอความจริง เมื่อถามว่า หลายฝ่ายต้องการให้มีการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายชัย กล่าวว่า โดยส่วนตัวเห็นด้วยที่จะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ แต่ขณะนี้ตนเข้ามาเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่เกี่ยวกับการดำเนินการของ ส.ส.ดังนั้น เป็นหน้าที่ของประธานสภาที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อซักถามว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมออกมาเคลื่อนไหวต่อการการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ครั้งนี้ ประธานสภา กล่าวว่า ไม่ทราบว่า พันธมิตรฯเป็นใคร ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยไปมาหาสู่ และขณะนี้ยังไม่เห็นประชาชนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน มีคนออกมาให้มีการแก้ไขเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย

ด้าน นายพิฑูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสำนักงานสภาผู้แทนราษฏร กล่าวว่า ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของสมาชิกรัฐสภา 164 คน เนื่องจากสังคมไทยขณะนี้มีปัญหาจากความขัดแย้งของประชาชนสองฝ่าย คือ ฝ่ายเห็นด้วย กับ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีการแพร่ภาพและเสียง จนอาจจะเกิดความรุนแรง นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญฉบับปี 50 ยกร่างโดยบุคคลที่มาจากการยึดอำนาจ จนทำให้เนื้อหามีคติต่อพรรคการเมืองและนักการเมือง การสรรหาวุฒิสภาไม่สอดคล้องกับหลักอำนาจอธิปไตย

นายพิฑูร กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะบทเฉพาะการที่ให้องค์กรอิสระตามรัฐธรรนูญ ซึ่งได้รับแต่งตั้งโดย คปค.ที่มาจากการยึดอำนาจ และล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีอำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ให้เป็นการชอบด้วยรัฐธรรมนูญนี้และกฎหมายทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตนั้น เป็นการยกเว้นการใช้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญให้แก่กลุ่มบุคลคนหนึ่งบุคคลใด เป็นการเฉพาะ ทำให้ผู้ถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพโดยผลของการยึดอำนาจไม่อาจยกบทบัญญัติแห่งรัฐรรมนูญขึ้นปกป้องคุ้มครองสิทธิเสริภาพตนเองได้ ทำให้การใช้รัฐธรรมนูญไม่เป็นไปโดยเสมอภาค เป็นการทำลานหลักนิติรัฐอย่างรุนแรง และเปิดช่องให้มีการใช้กำลังรัฐประหารได้ในอนาคต

"สุนัย"โวย ส.ส.โดนลักไก่ยัดไส้ยื่นญัตติ

ด้านนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประชาสัมพันธ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรค กล่าวว่า ในการยื่นญัตติยื่นญัตติเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ามีรายชื่อของ ส.ส.หลายคนที่ไม่รู้เรื่องว่าจะถูกนำรายชื่อมาบรรจุในญัตตินี้ เพราะก่อนหน้านี้ได้เซ็นชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของคณะอนุกรรมการศึกษาแก้ไขยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ซึ่งเรื่องนี้อยากให้นาย ชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาได้หารือกับพรรคถึงปัญหาที่เกิดขึ้น