“เจิมศักดิ์” แฉไอ้โม่งขอเอกสารซีทีเอ็กซ์จากอธิบดีกรมสนธิสัญญฯ ก่อนโดนเด้ง คือ “นพดล ปัทมะ” เอง โดยผ่าน หน.สำนักงานรัฐมนตรี เผย “วีระชัย” ไม่ขัดข้อง แต่ต้องทำหนังสือขอมาก่อน หรือขอทำบันทึกเอง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการรู้ทันประเทศไทย
กรณีการย้าย นายวีระชัย พลาดิศัย จากตำแหน่งอธิบดีกรมสินธิสัญญาและกฎหมาย ไปเป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง โดยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา ว่า สาเหตุการโยกย้ายน่าจะเนื่องมาจากมีคนบางฝ่ายขอเอกสารผลการสอบสวนการทุจริตเครื่องตรวจระเบิดซีทีเอ็กซ์ของสหรัฐอเมริกา ที่ คตส.ส่งให้กระทรวงการต่างประเทศ แปลเป็นภาษาไทย แต่ นายวีระชัย ขอให้ทำหนังสือขอเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ขอเอกสารดังกล่าว
ต่อเรื่องนี้ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ผู้ดำเนินรายการ “รู้ทันประเทศไทย” ทางเอเอสทีวี กล่าวผ่านรายการ วันนี้ (12 พ.ค.) ว่า บุคคลที่ขอเอกสารจากนายวีระชัยดังกล่าว คือ นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นั่นเอง โดย นายนพดล ไม่ได้ขอโดยตรง แต่ให้หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นคนขอให้
นายเจิมศักดิ์ กล่าวต่อว่า หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีคนที่ขอเอกสารดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ถูกย้ายไปแล้ว ได้บอกกับ นายวีระชัย ว่า รัฐมนตรีอยากได้เอกสารผลการสอบสวนคดีซีทีเอ็กซ์ แต่นายวีระชัย ได้ตอบกลับว่า เอกสารดังกล่าวถือเป็นความลับ อย่างไรก็ตาม ถ้าต้องการก็จะมอบให้ แต่ให้ทำเอกสารขอมาเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน เพื่อให้เป็นระบบ และมีที่มาที่ไปของเอกสาร หรือถ้าไม่ทำหนังสือขอมา อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ จะขอทำบันทึกเองว่าได้ส่งเอกสารให้หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี เพื่อส่งให้รัฐมนตรีตามลำดับ
นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า หาก นายนพดล ต้องการเอกสารเพื่อเอาไปให้จำเลย นายนพดล ก็ควรจะรอให้คดีไปถึงศาล และขอคัดสำเนาจากศาล เพื่อนำไปเป็นข้อมูลสู้คดีได้ ทำไมจะต้องมาขอไปดูก่อน
นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า ตนเห็นใจ นพดล ที่เคยเป็นที่ปรึกษากฎหมาย และเป็นโฆษกส่วนตัวให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งคดีนี้คนที่จะตกเป็นจำเลย คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายศรีสุข จันทรางศุ และอีกหลายๆ คน จึงน่าเห็นใจคนที่เคยเป็นที่ปรึกษากฎหมาย เป็นทนายความกรายๆ คอยแก้ต่างให้ตลอด ซึ่งตอนนี้ได้มีโอกาสมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีอำนาจคุมกระทรวงนี้อยู่ สามารถเรียกเอกสารมาดูได้ ใครจะไม่เอา
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีอำนาจในฐานะรัฐมนตรีว่าการ แต่ นายนพดล ก็ต้องรู้ว่าอะไรควรยุ่ง อะไรไม่ควรจะยุ่ง เรื่องนี้คนที่จะเป็นพยานได้ที่สุด คือ หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี แต่คนๆ นั้นก็ถูกย้ายไปแล้ว