“ชูศักดิ์” แย้มสเปกประธานสภา “ประสบการณ์-อาวุโส” ฟุ้งไม่แปลกหากพ่อเนวินได้รับการเสนอชื่อ เมินกลุ่มแพทย์อาวุโสติงแก้ รธน.ชี้ ข้อสรุปอยู่ที่หัวหน้าพรรคร่วมค่ำนี้ เค้าลางยุบสภาหลังแก้รธน.ส่อเป็นจริงโยนเป็นอำนาจ “หมัก”
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เพื่อหาผู้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาแทนที่ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ประกาศลาออกไปก่อนหน้านี้ ว่า จะมีการนัดประชุมกันช่วงบ่ายวันนี้ที่รัฐสภา และแม้ได้ข้อสรุปก็คงจะนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาไม่ทันในวันพฤหัสบดีที่ 8 พ.ค.นี้ ดังนั้น คาดว่า น่าจะเข้าสู่ที่ประชุมสภาในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ เพราะต้องส่งระเบียบวาระให้ทางสภาทราบล่วงหน้าก่อน 3 วัน
เมื่อถามว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานวิปรัฐบาล ได้รับเลือก มีการประเมินคดีความที่มีอยู่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มีการพูดถึงประเด็นนั้น เพียงแต่กรรมการบริหารจะเห็นอย่างไรก็ว่ากันไป แต่เชื่อว่า คงจะพิจารณาอย่างรอบด้าน หากมอบให้กรรมการบริหารดูก็ถือว่า สิ้นสุดตามระบบของพรรคการเมือง ส่วนการวิจารณ์ตัวบุคคลนั้นมีหลายคนวิจารณ์กันไป อย่างไรก็ตาม หากกรรมการบริหารพรรคตัดสินเลือกนายชัยเป็นประธานสภา ตนก็ไม่ทราบว่า จะมีการพิจารณาใครมาทำหน้าที่ ประธานวิปรัฐบาลแทน เพราะยังไม่ได้คุยกันในประเด็นนี้ ส่วนการที่แต่ละกลุ่มเสนอคนที่ตนสนับสนุนจะมีปัญหาหรือไม่ ตนคิดว่า เป็นเรื่องที่หากกรรมการบริหารพรรค เป็นองค์กรที่อยู่สูงที่สุดของพรรค เมื่อออกมาชี้ว่าควรจะเป็นอย่างไรน่าจะจบ
“ส่วนการที่หลายฝ่ายห่วงว่า หากเสนอ นายชัย จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคนั้น ผมว่าเราอย่าไปพูดเรื่องบุคคล ควรจะพูดเรื่องทั่วๆ ไป บุคลากรทางการเมืองขณะนี้ร่อยหรอลงไป บุคลากรส่วนใหญ่ติดอยู่บ้านเลขที่ 111 เพียงแต่ว่าการพิจารณาต้องดูความเหมาะสมรอบด้าน ดูความอาวุโส ประสบการณ์ ความสามารถประธานสภาจะเลือกคนที่เป็นมือใหม่หัดขับ มาทำหน้าที่ ซึ่งตัวบุคคลคุณสมบัติต่างๆ สื่อจะวิจารณ์ก็แล้วแต่ดุลพินิจของสื่อ แต่ผมคิดว่าท้ายที่สุดคนเราไม่ว่าใครก็มีทั้งข้อดีและไม่ดี มีด้านบวก ด้านลบ เป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่ข้อสำคัญเขาทำหน้าที่ได้ไหม” นายชูศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีความยึดโยงไปถึงเรื่องของการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เมื่อ นายยงยุทธ ลาออกก็ต้องสรรหาประธานคนใหม่ ไม่เกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า กลุ่มแพทย์อาวุโสก็กังวลและเป็นห่วง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ทุกคนมีเจตนาดีต่อบ้านเมือง เท่าที่อ่านก็รับฟังเอาไว้ แต่ข้อสรุปคิดว่าให้หัวหน้าพรรคการเมืองไปคุยกัน ซึ่งเขาก็นัดกันแล้ว และเชื่อว่า คงจะนำเอาข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะไปประมวลและนำมาเป็นข้อยุติว่าจะสรุปอย่างไร
“ก็สุดแต่ความเข้าใจในแง่กฎหมายของแต่ละคน นักกฎหมายยังมีความเห็นแตกต่างกันในแต่ละมาตราก็ต้องไปประชุม ซึ่งการที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ไม่เห็นด้วยที่จะตั้ง ส.ส.ร.3 หรือแก้ไขมาตราใดมาตราหนึ่งเป็นเรื่องนายบรรหารที่จะต้องไปคุยในการประชุมหัวหน้าพรรค โดยคำนึงถึงประโยชน์ได้เสีย รวมทั้งฟังความเห็นของสังคมด้วย” รมต.สำนักนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่า หากแก้รัฐธรรมนูญเสร็จจะมีการยุบสภาทันที นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีใครคุยกัน ไม่มี ซึ่งก็ได้ยินจากสื่อว่าจะยุบสภา พูดกันอย่างตรงไปตรงมายังไม่มีการคุยกันในเรื่องนี้ และไม่ทราบรายละเอียดว่าจะมีหรือไม่ แต่หากให้พูดคือการยุบสภาเป็นหนทางสุดท้ายและเป็นอำนาจการตัดสินใจของหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งพรรคไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้