“มท.1” อัด แพทย์อาวุโส มัวแต่ห่วงรัฐบาลแก้ รธน.เกินเหตุ สับสนรับข่าวสารด้านเดียว ปากเก่งยังสร้างสมานฉันท์ เป็นเรื่องเร่งด่วน เชื่อ “ลุงหมัก” ไม่คิดยุบสภา ปัดข้อเสนอ ส.ส.ร.ชุด 3 ระบุไม่จำเป็น
วันนี้ (7 พ.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มูลนิธิแพทย์อาวุโส ออกมาเตือนรัฐบาลควรดูแลเรื่องเศรษฐกิจมากกว่า การมุ่งแก้รัฐธรรมนูญอย่างเดียว เพราะจะทำให้สถานการณ์กลับไปเหมือนก่อนเหตุการณ์ 19 กันยา 49 ว่า ถือเป็นเจตนาดีที่ต่อบ้านเมือง คงไม่มีปัญหา เป็นสิทธิตามระบอบประชาธิปไตยที่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ ทั้งนี้ คิดว่า แพทย์อาวุโส คงไม่ได้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด เพราะ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พูดชัดเจนแล้วว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภา ไม่ใช่รัฐบาลที่จะต้องรับเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นขอให้สบายใจได้ อีกทั้งรัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สร้างความสมานฉันท์ เป็นเรื่องเร่งด่วน
ส่วนการหารือกันระหว่าง 6 พรรคร่วมรัฐบาลนั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะเรามาจากประชาธิปไตย อาจจะมีการคุยกันเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพ อย่าไปคิดว่า ถ้าพรรคการเมืองทำต้องเป็นรัฐบาล แต่ที่สำคัญที่สุดเรามาจากการเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ไม่เหมือนรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติที่ไม่ต้องสนใจสภา ทางนายกฯสมัคร ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้เป็นเจ้าภาพในการแก้รัฐธรรมนูญ ดังนั้น ให้สบายใจได้ ไม่มีพรรคการเมืองพรรคไหนที่ทำลายเครดิตตัวเอง ซึ่งการที่ทุกฝ่ายห่วงใยการแก้รัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องที่ดี แต่รู้สึกว่าจะเป็นหาห่วงมากไปหน่อย
“พรรคพลังประชาชนบอกมานานตั้งแต่ตอนหาเสียงแล้วว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 มาจากเผด็จการ ไม่ใช่ในระหว่างหาเสียงไปบอกว่า จะไม่แก้รัฐธรรมนูญแล้วกลับมาแก้ภายหลัง หากทำอย่างเช่นนี้เหมือนไปหลอกประชาชน อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ถือว่า เป็นวิถีทางของประชาธิปไตย ทุกฝ่ายก็น่าจะรับได้ ถือว่ายุติธรรมที่สุดที่แล้ว” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่า ประชาชนอาจกังวล หากมีการแก้รัฐธรรมนูญแล้วอาจทำให้มีการยุบสภา จึงไม่ต้องการให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ใครเป็นคนคิดเรื่องนี้ เอาตำราที่ไหนมาพูด ไม่มีหรอก ไม่แก้รัฐธรรมนูญก็ยุบสภาได้ หากในสภามีความขัดแย้ง เพราะเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ถ้าสภาไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีใครคิดยุบสภาหรอก เป็นรัฐบาลดีๆ แล้วจะมายุบสภาทำไม ก็ไอ้พวกที่แสดงความคิดเห็นมันคิดกันแปลกๆ
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เมื่อแก้รัฐธรรมนูญแล้วจะต้องมีการยุบสภา ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เป็นมุมมองของท่าน สุดท้ายท่านก็ออกมาพูดว่า ท่านไม่ได้บอกว่ายุบสภาฯ ซึ่งเป็นอุปมาอุปมัยว่า แก้รัฐธรรมนูญเพื่อวันข้างหน้า เรื่องนี้ฟันธงได้เลยว่า ไม่ยุบสภาฯแน่
เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาเท่าใด รมว.มหาดไทย กล่าวว่า คิดว่าใช้เวลานานมาก ซึ่งเรื่องนี้ไม่ง่าย เพราะต้องหาเหตุผลในการนำเสนอ ต้องอธิปรายประกอบให้คนคัดค้านหรือเห็นด้วย
เมื่อถามว่า การที่เชิญ 6 พรรคร่วมรัฐบาลมาหารือ ถือเป็นการล็อบบี้ให้พรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องไปล็อบบี้ เพราะนักการเมืองแต่ละคนก็มีลักษณะประจำตัวของเขา บางคนเงียบไป ก็อยากเป็นข่าว ถ้าเห็นด้วยมันไม่โก้ก็ค้านไว้นิดหนึ่ง แล้วก็กั๊กไว้หน่อยหนึ่ง สุดท้ายก็จบ อย่างบางคนในพรรคเพื่อแผ่นดินที่ค้าน ก็ไม่ได้เป็น ส.ส.แต่คนที่เป็น ส.ส.ในพรรคเพื่อแผ่นดินส่วนใหญ่เห็นด้วย ส่วนพรรคชาติไทย บางคนก็ไม่ใช่ผู้บริหารที่แท้จริง หาก นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และ นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เห็นด้วยฟันธงได้ว่าจบ
ต่อกรณีการเสนอให้มีสมาชิกสภาร่างหรือ ส.ส.ร.3เข้าร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ก็เป็นความคิดของพรรคร่วม ซึ่งสุดท้ายจะได้ข้อยุติ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าไม่จำเป็นต้องมี สสร. อย่างไรก็ตามการเมืองเป็นเรื่องปกติที่มีคนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หนทางประชาธิปไตยก็เป็นแบบนี้