ผู้นำฝ่ายค้านติง “หมัก” ทบทวนท่าที งดสัมภาษณ์สื่อ ชี้ ส่งผลเสียกับรัฐบาลเอง ระบุ ครบรอบ 3 เดือน เสียโอกาสแก้ปัญหาเศรษฐกิจ มัวแต่มุ่งแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง และผลประโยชน์ของ “แม้ว”
วันนี้ (6 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี งดให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ว่า อยากให้นายกรัฐมนตรีทบทวน เพราะการทำงานกับสื่อ เพราะเป็นเรื่องที่จำเป็น หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะการทำงานบริหารราชการแผ่นดินในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสื่อสารกับประชาชน และต้องเป็นการสื่อสาร 2 ทาง ไม่ใช่ว่าผู้บริหารประเทศอยากจะพูดอะไร จะสามารถยัดเยียดให้ประชาชนฟัง และเชื่อ แต่การมีคำถาม การท้วงติง วิพากษ์วิจารณ์ไปมา ถือเป็นเรื่องปกติของยุคปัจจุบัน ดังนั้น ถ้านายกรัฐมนตรีปรับท่าที ลดการเผชิญหน้ากับสื่อ คิดว่าจะเป็นประโยชน์มากในการทำงาน
“ไม่ใช่เรื่องจริงใจ หรือสร้างภาพ แต่เมื่อมาดำรงตำแหน่งนี้ อยากให้งานสำเร็จและเป็นประโยชน์กับประเทศ ก็จำเป็นต้องปรับท่าที ต้องแลกเอาว่า อยากให้งานสำเร็จและยอมปรับท่าทีบางอย่าง หรือจะยึดตัวเองเป็นใหญ่ และปล่อยให้บรรยากาศของบ้านเมืองเสียไป จะอ้างหลายเหตุผลก็อ้างได้ แต่ก็มีขอบเขตของมัน เช่น ความเป็นส่วนตัว ซึ่งการทำความตกลงกับสื่อก็สามารถทำกันได้ว่า การรายงานข่าวได้แค่ไหน อย่างไร การขอเวลาเป็นส่วนตัว ก็คงไม่มีปัญหา ส่วนการที่บอกว่าตัวตนของท่านพูดจาตรงไปตรงมา ก็สามารถทำได้ แต่ที่สังคมไม่สบายใจ คือ บางถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม หรือการจะตอบหรือไม่ตอบคำถามก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นสิทธิ เพียงแต่ถ้าประชาชนรู้สึกว่าคำถามที่อยู่ในใจประชาชน และสื่อมาถามแทน ไม่ได้รับคำตอบก็เป็นผลเสียกับรัฐบาลเอง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่รัฐบาลบริหารประเทศครบ 3 เดือน ว่า ปัญหาในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คือ รัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาของตัวเองมากกว่าปัญหาของประเทศ ดังนั้น แทนที่จะมีโอกาสเห็นรัฐบาลมุ่งหน้าทำงาน และรายงานให้ประชาชนทราบถึงการแก้ไขปัญหาที่อยู่ในใจของประชาชนโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ของแพง หรือการบริหารจัดการ แต่กลับมาเสียเวลาอยู่กับเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ คดียุบพรรคหรือสร้างประเด็นความขัดแย้งรายวันตอบโต้มากกว่า จึงถือว่าเป็น 3 เดือนที่น่าเสียดายโอกาส
เมื่อถามว่า รัฐบาลชุดนี้สอบผ่านหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่อยากบอกว่า 3 เดือน สอบได้ หรือสอบตก แต่เชื่อว่าสังคมยังให้โอกาสรัฐบาลในการทำงาน ไม่ใช่เอาโอกาสที่ประชาชนหยิบยื่นให้มาแก้ปัญหาการเมืองของตัวเอง หรือของอดีตนายกรัฐมนตรี จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีไปทบทวนดูว่าจะมีวิธีการปรับท่าทีอย่างไร โดยเฉพาะผลการสำรวจความเห็นประชาชน ที่คะแนนของรัฐมนตรีที่ดีที่สุดก็ยังต่ำ ขณะที่คะแนนของนายกรัฐมนตรีเกือบต่ำสุด ตรงนี้เป็นตัวสะท้อนให้รัฐบาลเร่งกลับไปดูปัญหาของประชาชนจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ และภาระของประชาชนในด้านต่างๆ ว่า ถ้าลดภาระของประชาชนไม่ได้ ก็ต้องมีความจริงจังที่จะเพิ่มรายได้มากกว่านี้