วานนี้ (24 เม.ย.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวว่า ได้ลงนามในหนังสือถึงอัยการสูงสุด เสนอความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณีที่ประชุม กกต.มีมติให้อัยการสูงสุดดำเนินการเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยสั่งยุพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย แล้ว โดยส่งหนังสือดังกล่าวพร้อมด้วยเอกสารหลักฐานไปยังอัยการสูงสุดแล้ว ( 24 เม.ย.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจากหนังสือของนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว จะมีการส่งเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาไปยังอัยการสูงสุดประมาณ 10 รายการ อาทิ มติสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายมณเฑียร สงฆ์ประชา ผู้สมัครส.ส.พรรคชาติไทย และนายสุนทร วิลาวัลย์ ผู้สมัครส.ส.พรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งขณะกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งบุคคลทั้ง 2 เป็นกรรมการบริหารพรรค จึงเป็นเหตุให้นายทะเบียนพรรคการเมืองต้องพิจารณาเสนอยุบพรรคในเวลาต่อมา , รายงานผลการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการชุดนายบุญทัน ดอกไธสง เป็นประธาน ,บันทึกถ้อยคำพยานที่เข้าให้การกับคณะกรรมการสืบสวนชุดดังกล่าวนี้ , รายงานผลการวินิจฉัยข้อกฎหมายของคณะที่ปรึกษากฎหมายที่มีนายสุพล ยุติธาดา เป็นประธาน, บันทึกการให้ถ้อยคำของผู้แทนพรรคการเมืองทั้ง 2 พรรค ต่อกกต. , มติ กกต.ที่ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอให้มีการยุบ 2 พรรคการเมือง , ความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมือง และ ประกาศตอบรับการจดแจ้ง การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค ของทั้ง 2 พรรค เป็นต้น
นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ก็เป็นไปตามหลักการขั้นตอนอยู่แล้ว หลังจากที่มีการยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุด ขั้นตอนต่อไปทางพรรคชาติไทย ก็จะทำหนังสือเพื่อขอโอกาสชี้แจงต่อมูลเหตุในคดีการยุบพรรคว่า ยังมีความคลุมเครือไม่ชัดเจนอยู่ ทั้งในเรื่องข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกับอัยการสูงสุดต่อไป โดยในส่วนของช่วงเวลาการพิจารณานั้น ตนไม่ทราบ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางอัยการสูงสุด ส่วนจะมีโอกาสที่จะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาคดีร่วมกันระหว่างอัยการสูงสุดกับกกต.หรือไม่ หรือไม่นั้น ตนไม่อาจคาดคะเนได้ ต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของทางอัยการสูงสุดเท่านั้น
**เลขาฯกกต.วอนม็อบเห็นใจกกต.
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีที่จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมออกมากดดันการทำงานของ กกต.ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่าเป็นผู้สมัครส.ส.ที่สอบตก และกลุ่มอื่นๆ เช่นนักศึกษาจาก ม.รามคำแหง ที่จะเดินทางมาสบทบเป็นจำนวนมาก และจะมีการปักหลักชุมนุมยืดเยื้อไปถึงวันที่ 25 เม.ย. ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่า การทำงานของกกต.เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้ง ย่อมกระทบกับกลุ่มการเมืองต่างๆ จนทำให้มีการออกมาเรียกร้องเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีเจตนาสงสัยในการทำงานของกกต. ทาง กกต.ก็พร้อมชี้แจง และคิดว่าไม่ยากอะไร พร้อมขอให้สังคมจับตากลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวว่า มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองอย่างไร และเรียกร้องขอให้ทุกฝ่าย อย่านำกกต.หรือมวลชนมาเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ เพราะไม่อยากให้ประเทศเกิดความขัดแย้งรุนแรง จนไม่มีประชาธิปไตย
เลขาธิการกกต. กล่าวด้วยว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณสำนักงาน กกต. อาคารศรีจุลทรัพย์ ขณะนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่แล้ว พร้อมขอร้องให้ผู้ชุมนุมเห็นใจคนอื่นที่ไม่ใช่ กกต.แต่ต้องทำงานที่อาคารศรีจุลทรัพย์ ด้วย ที่อาจจะได้รับเดือดร้อน และไม่สะดวกจากกลุ่มผู้ชุมนุม
อย่างไรก็ตามตลอดทั้งวัน วานนี้ ( 23 เม.ย.) ยังไม่ปรากฏว่า มีกลุ่มนักศึกษา หรือประชาชน เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณหน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ ตามที่มีการรายงานมาจากสันติบาลก่อนหน้านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจากหนังสือของนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว จะมีการส่งเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาไปยังอัยการสูงสุดประมาณ 10 รายการ อาทิ มติสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายมณเฑียร สงฆ์ประชา ผู้สมัครส.ส.พรรคชาติไทย และนายสุนทร วิลาวัลย์ ผู้สมัครส.ส.พรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งขณะกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งบุคคลทั้ง 2 เป็นกรรมการบริหารพรรค จึงเป็นเหตุให้นายทะเบียนพรรคการเมืองต้องพิจารณาเสนอยุบพรรคในเวลาต่อมา , รายงานผลการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการชุดนายบุญทัน ดอกไธสง เป็นประธาน ,บันทึกถ้อยคำพยานที่เข้าให้การกับคณะกรรมการสืบสวนชุดดังกล่าวนี้ , รายงานผลการวินิจฉัยข้อกฎหมายของคณะที่ปรึกษากฎหมายที่มีนายสุพล ยุติธาดา เป็นประธาน, บันทึกการให้ถ้อยคำของผู้แทนพรรคการเมืองทั้ง 2 พรรค ต่อกกต. , มติ กกต.ที่ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอให้มีการยุบ 2 พรรคการเมือง , ความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมือง และ ประกาศตอบรับการจดแจ้ง การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค ของทั้ง 2 พรรค เป็นต้น
นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ก็เป็นไปตามหลักการขั้นตอนอยู่แล้ว หลังจากที่มีการยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุด ขั้นตอนต่อไปทางพรรคชาติไทย ก็จะทำหนังสือเพื่อขอโอกาสชี้แจงต่อมูลเหตุในคดีการยุบพรรคว่า ยังมีความคลุมเครือไม่ชัดเจนอยู่ ทั้งในเรื่องข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกับอัยการสูงสุดต่อไป โดยในส่วนของช่วงเวลาการพิจารณานั้น ตนไม่ทราบ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางอัยการสูงสุด ส่วนจะมีโอกาสที่จะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาคดีร่วมกันระหว่างอัยการสูงสุดกับกกต.หรือไม่ หรือไม่นั้น ตนไม่อาจคาดคะเนได้ ต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของทางอัยการสูงสุดเท่านั้น
**เลขาฯกกต.วอนม็อบเห็นใจกกต.
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีที่จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมออกมากดดันการทำงานของ กกต.ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่าเป็นผู้สมัครส.ส.ที่สอบตก และกลุ่มอื่นๆ เช่นนักศึกษาจาก ม.รามคำแหง ที่จะเดินทางมาสบทบเป็นจำนวนมาก และจะมีการปักหลักชุมนุมยืดเยื้อไปถึงวันที่ 25 เม.ย. ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่า การทำงานของกกต.เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้ง ย่อมกระทบกับกลุ่มการเมืองต่างๆ จนทำให้มีการออกมาเรียกร้องเป็นเรื่องปกติ แต่หากมีเจตนาสงสัยในการทำงานของกกต. ทาง กกต.ก็พร้อมชี้แจง และคิดว่าไม่ยากอะไร พร้อมขอให้สังคมจับตากลุ่มต่างๆ ที่ออกมาเคลื่อนไหวว่า มีวัตถุประสงค์ทางการเมืองอย่างไร และเรียกร้องขอให้ทุกฝ่าย อย่านำกกต.หรือมวลชนมาเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ เพราะไม่อยากให้ประเทศเกิดความขัดแย้งรุนแรง จนไม่มีประชาธิปไตย
เลขาธิการกกต. กล่าวด้วยว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณสำนักงาน กกต. อาคารศรีจุลทรัพย์ ขณะนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่แล้ว พร้อมขอร้องให้ผู้ชุมนุมเห็นใจคนอื่นที่ไม่ใช่ กกต.แต่ต้องทำงานที่อาคารศรีจุลทรัพย์ ด้วย ที่อาจจะได้รับเดือดร้อน และไม่สะดวกจากกลุ่มผู้ชุมนุม
อย่างไรก็ตามตลอดทั้งวัน วานนี้ ( 23 เม.ย.) ยังไม่ปรากฏว่า มีกลุ่มนักศึกษา หรือประชาชน เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณหน้าอาคารศรีจุลทรัพย์ ตามที่มีการรายงานมาจากสันติบาลก่อนหน้านี้
