อดีตซาก 111 ทรท.เปิดตัวมูลนิธิ เงียบเหงาไร้เงา “ทักษิณ” - “พงศ์เทพ” อ้างติดภารกิจต้อนรับนักลงทุน ตปท.เผยเตรียมจับมืออดีตผู้นำการเมืองที่วางมือทั่วโลกตั้งชมรม ขณะเดียวกันยังนั่งเป็นที่ปรึกษามูลนิธิตามเดิม พร้อมจัดงานระดมทุนหาเงินออกวารสาร ย้ำเปิดมูลนิธิฯ ไม่เกี่ยวการเมือง
วันนี้ (2 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ห้องวิภาวดี บอลรูม โรงแรมเซ็นทารา ลาดพร้าว มีการแถลงข่าวเปิดตัว “มูลนิธิ 111 ไทยรักไทย” อย่างเป็นทางการ โดยมีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยคนสำคัญมาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายวราเทพ รัตนากร นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายสุธรรม แสงประทุม นายพิมล ศรีวิกรม์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายประยุทธ มหากิจศิริ นายประจวบ ไชยสาสน์ นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทั้งนี้บรรยากาศภายในงานเงียบเหงาเล็กน้อยเนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานที่ปรึกษามูลนิธิ ไม่ได้มาร่วมงานตามกำหนดการเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการจัดตั้งมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย มีทั้งหมด 6 ข้อ 1.เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมตามรอยพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ทุกพระองค์ 2.ดำเนินกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ การกุศล และสนับสนุนด้านกีฬา การศึกษา สาธารณสุข 3.ศึกษาค้นคว้าเสนอยุทธศาสตร์และกำหนดเเผนปฏิบัติการเพื่อการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจสังคม และด้านการศึกษา 4.ให้ความร่วมมือส่วนราชการองค์กรการกุศลอื่นๆ ให้เกิดการบูรณาการสร้างสังคมให้เข้มแข็ง พัฒนาชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน 5.สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพัฒนากฎหมายให้สอดคล้องกับหลักนิติรัฐ นิติธรรม 6.ไม่ดำเนินการเเกี่ยวข้องกับการเมือง
อย่างไรก็ดี พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะที่ปรึกษามูลนิธิได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการเปิดมูลนิธิ ที่จัดพิมพ์ในเอกสารแผ่นพับว่า “วันนี้เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมคนไทยที่เป็นกำลังสำคัญของชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตให้มีความรู้ความสามารถและเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะการเป็นสังคมฐานความรู้ซึ่งแข่งขันกันด้วยสมองมนุษย์ กุญแจสำคัญที่จะสามารถสร้างประเทศไทยให้มั่นคงแข็งเเกร่งได้อย่างยั่งยืนคือการสร้างทุนทางปัญญา”
นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ในฐานะเลขาธิการมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย กล่าวว่า มูลนิธิได้ส่งบัตรเชิญให้กับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทุกคน ไม่มีแบ่งพรรคเพราะเป็นองค์กรสาธารณะกุศล อย่างไรก็ตามอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยหลายคนตอบรับแต่ไม่สามารถมาร่วมงานได้ เนื่องจากติดภารกิจในต่างประเทศ เช่น นายอดิศัย โพธารามิก นายสมชาย สุนทรวัฒน์ นายพินิจ จารุสมบัติ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง ขณะที่นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ไม่ได้ตอบรับกลับมาแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
นายวิชิต กล่าวว่า กล่าวว่าในประมาณปลายเดือน พ.ค.จะมีการมีการจัดงานระดมทุน ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ โดยจะจำหน่ายบัตรเพื่อระดมทุนด้วย พร้อมจำหน่ายวารสารบ้านเลขที่ 111 ฉบับปฐมฤกษ์ โดยจะรวบรวมความคิดเห็นของอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และเปิดโอกาสให้ผู้มีความรู้ความสามารถร่วมส่งบทความที่เป็นประโยชน์สาธารณะมาร่วมด้วย
นายภูมิธรรม เวชชยชัย อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากนี้มูลนิธิฯคงจะหารือถึงแนวทางการทำงานของมูลนิธิาสิ่งใดทำประโยชน์ให้สังคมก็จะทำ โดยที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญนั้น ที่ผ่านมาไม่มีรัฐธรรมนูญใดสมบูรณ์ ในทางปฏิบัติหากรัฐธรรมนูญมีปัญหาก็สามารถปรับปรุงให้มีประโยชน์ได้ ส่วนที่ถามว่าแนวทางของมูลนิธิจะเกี่ยวข้องกับการรณรงค์เรื่องแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น คงจะไม่ทำเพราะเรามีข้อจำกัดทางการเมืองอยู่
เมื่อถามว่าถึงการเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเข้ามาแก้ไขปัญหา ตามที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาฯ ระบุ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ทราบเลยว่าเป็นผู้ใหญ่คนไหน แต่ทั้งนี้ใครที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ด้วยดีก็ดีอยู่แล้ว
ถามว่าสมาชิก 111 จะสามารถไปแก้ปัญหาไม่ให้มีการเผชิญหน้าได้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้เราไม่เกี่ยวอยู่แล้ว ซึ่งที่ทำได้คือขอความร่วมมือเพราะที่ผ่านมาประเทศเราบอบช้ำมาเยอะแล้ว ซึ่งควรดูว่าจะแก้ปัญหาหาทางออกได้อย่างไร แต่อย่าทำเพราะความรังเกียจเดียดฉันท์
จากนั้น พงศ์เทพ เทพกาญจนา ในฐานะประธานมูลนิธิ 111 ไทยรักไทย ได้กล่าวเปิดงานว่า คติในการทำงานคือเราไม่ต้องไปจดจำบุญคุณที่คนอื่นทำให้ แต่ต้องไม่ลืมบุญคุณของคนอื่น ซึ่งเชื่อว่าทุกคนคงจำเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 30 พ.ค.50 ว่าเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าเป็นวันที่วงการกฎหมายไทย คงไม่ภูมิใจ ในการที่จะบอกกับสังคมโลกว่าเกิดอะไรขึ้น ที่มีการจำกัดบทบาทให้กฎหมายมีผลย้อนหลังซึ่งพวกเราต้องเปลี่ยนบทบาทที่ต้องทำ แต่อย่างหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนคือ หัวใจคือประชาชน จึงมาร่วมกันทำงานเพื่อประชาชนต่อไป
ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าการรวมตัวเพื่อที่จะเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ขอยืนยันว่าหากพวกเราจะเคลื่อนไหวในทางการเมืองคงไม่มาทำมูลนิธิ แต่คงไปทำรูปแบบอื่นเช่นชมรมหรือกลุ่ม ซึ่งการทำมูลนิธิต้องไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่เป็นการทำเพื่อตอบแทนบุญคุณของประชาชนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ซึ่งตนขอให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงใจของพวกเรา
พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ กล่าวว่า วันที่ทราบข่าวเรื่องคำตัดสินยุบพรรค ตนอยู่ต่างประเทศก็รู้สึกผิดหวังนอนไม่หลับก็ลงมาเดินจงกรม ซึ่งตนเชื่อว่าทั้ง 111 คนมีความรู้สึกร่วมกัน พยายามจะอดทนแต่สิ่งที่เราเคยทำก็ยังอยู่เพราะไปไหนประชาชนก็ยังมาทักทายแม้แต่ในต่างประเทศยังมีคนชวนไปทานข้าว ให้ไปพักด้วย ตนแม้จะถูกตัดสิทธิ์แต่ก็ยังทำหน้าที่พลเมืองที่ดีของประเทศได้
นายวราเทพ รัตนากร กล่าวว่า ขอขอบคุณคนก่อตั้งมูลนิธิ ทำให้คนตั้งใจทำงานทางการเมือง สามารถทำได้อย่างเปิดเผยไม่ต้องทำอย่างลับๆ หรือต้องทำอยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตามเมื่อถูกตัดสิทธิ์จะ 5 ปี หรือกี่ปีตนสามารถรอได้
นายสรอรรถ กลิ่นประทุม กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมาถูกกระแนะกระแหน ทำให้เป็นพลเมืองชั้น 2 ไปลงคะแนนเลือกตั้งท้องถิ่นก็ยังไม่ได้ ทำอะไรก็ถูกกระแนะกระแหน แต่ก็ยังดีใจเวลาไปเดินชุมชนยังมีคนมาทัก
นายพงศ์เทพ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดงานว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เดินทางมาร่วมงานเปิดตัวนั้นเนื่องจากติดภารกิจต่างประเทศ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาเรื่องธงชาติ ซึ่งก่อนหน้านที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกเพียงว่าถ้าอยู่ในไทยก็จะมาร่วมงานด้วย แต่ปรากฎว่าไม่ได้อยู่ในประเทศไทย และคาดว่าในสัปดาห์หน้าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อให้การต้อนรับ มาริโอ เกอริโน นักธุรกิจชาวบราซิล ที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้เชิญมาเยื่อนประเทศไทยเพื่อดูงานด้านการลงทุนเกี่ยวกับการลงทุนดานพลังงานทดแทน หลังจากนั้นประมาณ 7-8 พค. จะต้องเดินทางไปร่วมแข่งขันกอล์ฟในฐานะที่เป็นนายกสมาคมกอล์ฟอาชีพ
นอกจากนั้นยังทราบว่าระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในต่างประเทศได้พบปะกับอดีตผู้นำประเทศหลายคนซึ่งได้มีการหารือและประสานงานกันว่าจะ ตั้งชมรมผู้นำประเทศที่วางมือทางการเมือง เนื่องจากคนเหล่านั้นเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มีความรู้สามารมองปัญหาหรือให้ข้อเสนอแนะในภาพรวมของประเทศได้ และยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เดินทางไปต่างประเทศได้รับการอนุญาตจากศาลทุกครั้งและการเดินทางของอดีตนายกรัฐมนตรีจะไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณาดีคใดๆ ทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีข่าวว่านักฟุตบอลสโมสรแมนฯ ซิตี จะบอยคอตด้วยการไม่เดินทางมาโชว์ตัวในประเทศไทย เนื่องจากไม่พอใจที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะปลด สเวน โกรัน อีริกส์สัน ผู้จัดการทีมฯ นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ตนได้สอบถามกับทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับทราบว่ายังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้อย่างที่เป็นข่าว และปกติแล้วการพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมจะพิจารณาก็ต่อเมื่อเสร็จสิ้นฤดูกาล และเท่าที่ทราบยังเหลือการแข่งขันอีก 2 นัด