“พล.อ.สนธิ” ปัดร่วม “เนวิน” ตั้งพรรคการเมือง รับงงมีข่าวนี้ออกมา ทั้งที่ไม่เคยคุยกันมาก่อน เชื่อ “อภิสิทธิ์” บริหารประเทศได้ ด้าน “เพื่อนเนวิน” เปิดตัวเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทยวันนี้ พร้อมกลุ่ม “สรอรรถ กลิ่นประทุม” ชู “ชวรัตน์” หัวหน้าพรรค ปฏิเสธหวังดัน “เนวิน” นั่งนายกฯ ในอีก 2 ปี ปูด ส.ส.เพื่อไทยต่อสายขอซบ ด้าน “เพื่อแม้ว” บ้อท่าดัน “เฉลิม” เป็นผู้นำฝ่ายค้านนอกกฎหมาย พร้อมหอบดอกกุหลาบแดงทาบ “เชษฐา” นั่งที่ปรึกษา เจ้าตัวรับทันที ไม่เชื่อ “เสนาะ” เปลี่ยนขั้วร่วมรัฐบาล
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ.และอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)ปฏิเสธกระแสข่าวตั้งพรรคการเมืองว่า ไม่รู้ข่าวออกมาได้อย่างไร เพราะขณะนี้ตนยังไม่มีแนวความคิดที่จะจัดตั้งพรรคการเมือง คงจะเป็นการปล่อยข่าวมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าเป็นการจับมือกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน เพื่อจัดตั้งพรรคการเมือง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่รู้เรื่อง และก็ไม่เคยพูดคุยกับนายเนวิน แล้วจะมาจัดตั้งพรรคได้อย่างไร การจะตั้งพรรคการเมืองต้องพูดคุยหารือกัน ที่สำคัญ ต้องมีความคิดเห็นตรงกันเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
“ผมรู้สึกแปลกใจเหมือนกันที่มีกระแสข่าวว่าผมไปจับมือกับนายเนวิน และดึง ส.ส.จากกลุ่มเพื่อนเนวินมาสนับสนุนจัดตั้งพรรคการเมือง ทั้งที่ผมไม่เคยได้พูดคุยกับ นายเนวิน เลย ตอนนี้ผมก็อยู่ที่ต่างประเทศด้วย ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับเพื่อนเตรียมทหารรุ่นที่ 6 ทั้ง พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ายังไม่คิดตั้งพรรคการเมือง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ตนอยากให้ปล่อยไปตามธรรมชาติอย่ารีบร้อน ส่วนการบริหารประเทศของพรรคประชาธิปัตย์นั้น คิดว่าทางพรรคประชาธิปัตย์น่าจะสามารถบริหารประเทศไปได้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกัน
“วินัย” ยันไม่เล่นการเมืองแน่นอน
พล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตเลขาธิการ คมช.กล่าวว่า ไม่รู้เรื่องที่ พล.อ.สนธิ ตั้งพรรคการเมือง ส่วนตัวยืนยัน 100% ว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว และไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตรองประธาน คมช. คิดว่าคงไม่คิดที่จะทำพรรคการเมือง ส่วน พล.อ.สนธิ ไม่เคยได้เจอกันเลย หลังจากที่ได้เกษียณอายุราชการไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
“ข่าวที่เกิดขึ้นคงเป็นการคาดคะเนไปเอง คิดว่า พล.อ.อ.ชลิต คงไม่เล่น การเมืองอย่างแน่นอน แต่ พล.อ.สนธิ ไม่แน่ใจ แต่จะเปลี่ยนใจหรือไม่นั้น ไม่ทราบ ส่วนที่มีข่าวว่า อดีต คมช. เตรียมจัดตั้งพรรคการเมืองนั้น เขาคงรู้สึกแปลกว่า ทำไม คมช.ถึงได้เงียบและหายไปในช่วงนี้ แต่ความจริงก็เป็นเช่นนั้น คิดว่าหาก คมช. อยากมีอำนาจทางการเมือง คงมีไปแล้วไม่ต้องรอให้ถึงวันนี้ ส่วนคนไม่ค่อยชอบ คมช. ก็เลยพยายามออกข่าวตีกัน” พล.อ.วินัย กล่าว
พล.อ.วินัย กล่าวว่า ขณะนี้การเมืองต้องดำเนินการไปเอง เพราะสถานการณ์บ้านเมืองทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยหมดแล้ว อีกทั้งกองทัพสามารถดูแล สถานการณ์ต่างๆ ได้เรียบร้อยดี รวมถึงการเมืองที่มีการเปลี่ยนขั้วมาเป็นพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องทำงานแก้ปัญหาของประเทศชาติไป การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ที่ผ่านมา พรรคร่วมรัฐบาลก็ชนะการเลือกตั้งเข้ามาหลายคน เชื่อว่าจะมีเสถียรภาพในการบริหารประเทศต่อไปได้
“เพื่อนเนวิน” ไม่ดึง ส.ส.สอบซ่อมซบ
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ส.ส.สังกัดพรรคประชาราช และพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งเป็นคนของ กลุ่มเพื่อนเนวินที่ไปฝากไว้ ชนะการเลือกตั้งซ่อมใอาจย้ายมารวมกับกลุ่มเพื่อนเนวิน ว่า เรื่องการช่วยเหลือสนับสนุนจากกลุ่มเพื่อนเนวินในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ก็มีบ้าง เพราะถือเป็นรู้จักสนิทกัน แต่จะไม่มีการดึงมาอยู่ร่วมกับพรรคภูมิใจไทยอย่างแน่นอน และ ส.ส.เหล่านั้น คงไม่มีการย้ายเข้ามารวมกับกลุ่มเพื่อนเนวิน เพราะสุดท้าย เขาก็ต้องสังกัดพรรคของเขาต่อไป
สำหรับกลุ่มเพื่อนเนวินนั้น ขณะนี้ มี 23 คน และชัดเจน 100% ว่าจะสังกัดพรรคภูมิใจไทย เพียงแต่การเลือกหัวหน้าพรรคนั้น จะต้องรอจนจบกระบวนการประชุมกรรมการบริหารพรรคชุดเดิม รับสมาชิกพรรค และแจ้งต่อ กกต. หลังจากนั้นก็จะประชุมเพื่อเลือกกรรมการชุดใหม่ ต่อจากนั้นจึงจะเลือกหัวหน้าพรรคขึ้นาใหม่
นายบุญจง กล่าวว่า การที่กลุ่มฯ เข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย ไม่มีการต่อรอง ตำแหน่งทางการเมืองใดๆ เป็นเพียงแค่การที่ทางกลุ่ม ต้องหาพรรคสังกัดให้ทัน 60 วันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด มิฉะนั้นจะขาดคุณสมบัติความเป็น ส.ส. ซึ่งพรรคภูมิใจไทย มีสมาชิกแล้ว ก็จับรวมกัน ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการต่อรองอะไรเพียงแค่ทำตามสิทธิ์ ที่มีเท่านั้น อย่างไรก็ตามขณะนี้เรา มีแต่เวลาที่ต้องทำงาน
ปัดปูทางเชิด “เนวิน” นั่งนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าจะมีส.ส.จากพรรคเพื่อไทยประมาณ 5-6 คน เข้าร่วมพรรคภูมิใจไทยด้วย นายบุญจง กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ การที่ ส.ส.จะเข้าสังกัดพรรคไหนก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละบุคคล และถ้าส.ส.คนใดจะมาเข้าร่วมเราก็ยินดีต้อนรับ
ส่วนข่าวที่ว่าการเข้าร่วมพรรคภูมิใจไทยครั้งนี้เพื่อจะเป็นการปูทางให้นาย เนวิน ชิดชอบกลับ มาเป็นนายกรัฐมนตรีในอีก 2 ปีข้างหรือไม่นั้น นายบุญจง กล่าวว่า ไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ ท่านเป็นคนที่คนในพรรคเคารพและขณะนี้ท่านถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองอยู่คงไม่มีความเกี่ยวข้อง
“เพื่อนเนวิน” ชู “ชวรัตน์” หัวหน้าพรรค
นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่าที่ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย เพราะมีแนวทางการทำงานการเมือง ที่สามารถเดินไปด้วยกันได้ ซึ่งในวันนี้ (14 ม.ค.) จะแถลงข่าวในเวลา 10.00 น.ที่โรงแรมสยามซิตี้ เพื่อแสดงความชัดเจนของกลุ่มในย้ายเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยจะมีแกนนำพรรคภูมิใจไทยมาคอยต้อนรับและเข้าร่วมประชุมด้วย เพื่อกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญเลือกหัวหน้าและเลขาธิการพรรคต่อไป
ทั้งนี้ บุคลคนที่คาดว่าจะได้รับการพิจารณาให้เป็นหัวหน้าพรรคนั้น คิดว่า คงเป็นไปตามที่สื่อคาดการณ์ว่าจะเป็นนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม อยู่ในแวดงวงการเมืองมานาน มีประสบการณ์การทำงานในหลายตำแหน่ง ทั้งรองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ส่วนนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยนั้น ตนทราบว่านายชัยต้องการทำหน้าที่ประธานสภาฯมากกว่า
สำหรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคนั้นคงจะมาจากกลุ่มนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งในเบื้องต้นที่มีการวางกันไว้ คือ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พานิชย์ปัด รวมตัวหวังต่อรอง
ปูด “เพื่อไทย” ต่อสายขอซบภูมิใจไทย
ส่วนเมื่อ ส.ส.มารวมตัวกันที่พรรคภูมิใจไทยจนมี ส.ส.อยู่ในมือมากขึ้นจะทำให้มีอำนาจต่อรองทางการเมืองเพิ่มมากขึ้นนั้น นายศุภชัย กล่าวว่า เหตุผลหลักที่สมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวิน กลุ่มของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และกลุ่มของนายสรอรรถ กลิ่นประทุม มารวมตัวกัน เพราะต้องการทำกิจกรรมทางการเมืองร่วมกัน ไม่ใช่รวมตัวเพื่อหวังต่อรองอำนาจทางการเมือง เนื่องจากรัฐมนตรีที่มาจากกลุ่มเพื่อนเนวินและพรรคร่วมนั้นได้ทำงานตามความถนัดในกระทรวงต่างๆอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็น ต้องไปเรียกร้องตำแหน่งเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้จำนวนเสียงของส.ส.เมื่อรวมกันแล้วมีประมาณ 35 เสียง
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีสมาชิกของพรรคเพื่อไทยจำนวนมากโทรศัพท์มายังแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวินว่า ต้องการย้ายมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยเพราะไม่อยากเป็นฝ่ายค้านยาว อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากผลการเลือกตั้งซ่อมที่ พรรคเพื่อไทย ต้องแพ้การเลือกตั้งในหลายพื้นที่ รวมทั้งการบริหารภายในของพรรคเพื่อไทยที่มักจะมีปัญหาอยู่ตลอดเวลา เหมือนการบริหารแบบงูเก็งกอง ไม่รู้ว่าจะมีทิศทางทำงาน การเมืองอย่างไรให้มีชีวิตชีวา หรืออาจเปรียบส.ส.เหมือนตุ๊กตาไขลาน ที่เดินหน้าแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง
“เฉลิม” ผู้นำฝ่ายค้านนอกกฎหมาย
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการสรรหาตัวผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรว่า รัฐธรรมนูญกำหนดให้ผู้นำฝ่ายค้านฯ ต้องเป็น ส.ส.และเป็นหัวหน้าพรรค แต่ที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็น ส.ส. พรรคจึงมีมติให้ตนเป็นประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่หัวหน้าทีมอภิปราย ในสภาผู้แทนฯ เพราะตนไม่เหมาะสมในการที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เนื่องจาก เป็นพรรคใหญ่ การจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้นำ ส.ส. 187 เสียง ถือเป็นเรื่องใหญ่
“หัวหน้าพรรคอย่างท่านยงยุทธก็มีความเหมาะสม ตอนนี้ก็เพิ่งเปลี่ยนหัวหน้าพรรคใหม่ และกกต.ก็ยังไม่รับรองจึงไม่เหมาะสมที่จะเปลี่ยนหัวหน้าตอนนี้ และที่สำคัญการให้ผมเป็นหัวหน้าคณะทำงานก็ไม่มีปัญหาในการทำงานของฝ่ายค้าน”
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีมติของพรรคให้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะยังต้องรอข้อมูล บางอย่างอยู่ ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องทุจริต แต่เรื่องของการบริหารราชการผิดพลาด ก็สามารถนำมาเป็นประเด็นอภิปรายได้เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รอหลักฐานอีกชิ้นเดียวเท่านั้น ถ้าได้มารับรองไปทั้งแผงเย้ย “ศิริโชค” วอลเปเปอร์ “มาร์ค”
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ขอฝากไปถึงนายศิริโชค โสภา ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ฝ่ายค้านด้วยว่า ขอให้ทำหน้าที่ของตัวเองไป ตนไม่รู้จักหรอกว่านายศิริโชคเป็นใคร แต่เมื่อเป็นรัฐบาลก็ทำหน้าที่ให้ดี หรือจะเป็นวอลเปเปอร์ก็เป็นไป อย่ามายุ่งกับฝ่ายค้าน
“เชษฐา” หันไปตายรังเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วานนี้ (13 ม.ค.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมนายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน และแกนนำพรรคได้นำกระเช้าดอกกุหลาบสีแดง เดินทางไปยังบ้านพักของ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่ย่านเมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อเชิญให้เป็นที่ปรึกษาพรรค
พล.อ.เชษฐา ให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมรับตำแหน่งที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ด้วยเหตุผลเพราะ เริ่มต้นชีวิตทางการเมืองที่พรรคไทยรักไทย จึงรู้สึกผูกพัน เมื่อพรรคต้องการให้ตนเข้ามาช่วยงานก็พร้อมยอมรับ เหมือนกับการได้กลับมาที่เดิม เชื่อว่าประสบการณ์ที่มีน่าจะช่วยงานพรรคได้ในระดับหนึ่ง แต่ยืนยันว่าจะไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคในอนาคตอย่างแน่นอน
ด้าน นายยงยุทธ กล่าวว่า ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านนั้นพรรคได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้าน อย่างไม่เป็นทางการไปก่อน
ไม่เชื่อ “เสนาะ” เปลี่ยนขั้วร่วมรัฐบาล
ขณะที่ นายวิทยา กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช อาจจะเปลี่ยนใจหันไปร่วมกับรัฐบาลว่า เชื่อว่านายเสนาะและส.ส.พรรคประชาราชจะไม่ไปร่วมรัฐบาลตามที่เป็นข่าว เพราะนายเสนาะรู้ดีว่าประชาชนเลือก ส.ส.พรรคประชาราชเข้ามาเพื่ออะไร เชื่อว่านายเสนาะจะรักษาน้ำใจประชาชนไว้ และพรรครัฐบาลก็ยังพยายามที่จะดึงส.ส.ฝ่ายค้านไป ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อยากให้ ส.ส.ทุกคนเข้าใจในหน้าที่ว่าต้องทำหน้าที่อย่างไร อย่าไปเกรงกลัวว่าไม่เป็น ส.ส.รัฐบาลแล้วจะทำงานไม่ได้