ผู้จัดการออนไลน์ – เปิดจดหมายปี 2550 ก.กลาโหม ปฏิเสธรับ “ดวง” กลับเข้ารับราชการโดยอ้างอิงมติสภากลาโหม ปี 2507 และระเบียบกระทรวงกลาโหม ปี 2507 ชี้ ไม่เข้าข่ายพักราชการ จับผิด “เป็ดเหลิม” โกหกคำโตลูกชายไม่เคย “หนีทหาร” และถูกถอดยศตั้งแต่ 5 วันแรกแล้ว เผยพิรุธ! สมัครเซ็นรับกลับเข้ารับราชการได้อย่างไรทั้งๆ ที่ผิดระเบียบ
จากกรณีที่ กระทรวงกลาโหม โดยการลงนามของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี อนุมัติการขอกลับเข้ารับราชการของ นายดวง อยู่บำรุง บุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในสังกัดสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในช่วงปลายเดือนเมษายน 2551 โดยเมื่อวันพุธที่ 23 เมษายน 2551 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม ได้ใช้บ้านพักติดยศว่าที่ร้อยตรีให้กับนายดวง
ล่าสุด มีการเปิดเผยจดหมายจากกรมกำลังพลทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด เลขที่ กห 0302/2401 ออกเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2550 ส่งถึง นายดวงเฉลิม อยู่บำรุง ลงนามโดย พล.อ.ท.ดนัย นันทะศิริ ปฏิเสธการขอกลับเข้ารับราชการของ นายดวงเฉลิม โดยอ้างอิงมติสภากลาโหมและระเบียบกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้รายละเอียดของจดหมายฉบับดังกล่าวมีดังนี้
เรื่อง แจ้งผลการขอกลับเข้ารับราชการ
เรียน คุณดวงเฉลิม อยู่บำรุง
สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนาคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 881/2544 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 และ
สำเนาคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 882/2544 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2544
1.ตามที่ท่านมีหนังสือเพื่อขอกลับเข้ารับราชการจากกรณีกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งที่ 834/2544 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2544 ให้พักราชการนั้น
2.กรมกำลังพลทหาร ตรวจสอบแล้วเห็นว่า กระทรวงกลาโหม มีคำสั่งให้ปลดท่านออกจากราชการ เนื่องจากกระทำความผิดฐานต้องหาในคดีอาญาแล้วหลบหนีไป และถอดออกจากยศทหารแล้ว รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ทั้งนี้เป็นไปตามมติสภากลาโหม ครั้งที่ 3/07 เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2507 (หนังสือกรมเสมียนตรา ที่ กห 0201/ว.13738 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2507 เรื่องการหมุนเวียนกำลังพล ข้อ 2.7) และตามระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควรจะดำรงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ พุทธศักราช 2507 ข้อ 2.7 ด้วยผลของคำสั่งดังกล่าวถือว่าท่านไม่ได้อยู่ในระหว่างการพักราชการจึงไม่สามารถดำเนินการในเรื่องการขอกลับเข้ารับราชการตาม ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการทหารพักราชการ พุทธศักราช 2528 ได้
จึงเรียนมาเพื่อกรุณาทราบ
ขอแสดงความนับถือ
พลอากาศโท ดนัย นันทะศิริ
เจ้ากรมกำลังพลทหาร
จากจดหมายฉบับดังกล่าวที่ออกโดยเจ้ากรมกำลังพลทหาร กระทรวงกลาโหมได้ก่อให้เกิดข้อสงสัยและพิรุธกับการรับนายดวง กลับเข้ารับราชการโดยสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในช่วงเดือนเมษายน 2551 หลายประการ
ประการแรก การที่ ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎร และอ้างต่อสื่อมวลชนว่านายดวงบุตรชาย สามารถกลับเข้ารับราชการได้เพราะไม่เคยหนีทหาร เนื่องจาก ถูกคำสั่งถอดยศ 5 วัน หลังเกิดเหตุการณ์สังหาร “ดาบยิ้ม” ด.ต.สุวิชัย รอดวิมุต เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2544 นั้น เป็นความจริงหรือไม่? เพราะสำเนาคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 882/2544 เป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นชัดเจนว่า นายดวงถูกปลดออกจากราชการเมื่อวันที่ 15 พ.ย.2544 และ ถูกถอดยศเมื่อวันที่ 16 พ.ย.2544 หลังจากเหตุการณ์สังหาร ด.ต.สุวิชัย 17 วัน และ 18 วัน ตามลำดับ ด้วยสาเหตุ คือ กระทำผิดอาญาและหลบหนีไป ทั้งนี้เทียบกับกรณีของ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ ที่ทำความผิดอาญาเช่นเดียวกัน แต่พ.ต.เฉลิมชัยไม่ได้หลบหนี จึงถูกปลดออกจากราชการและถอดยศเมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว
ประการที่สอง เมื่อคดีของนายดวงจบสิ้นไปตั้งแต่ปี 2547 เนื่องจาก ศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้อง ในวันที่ 26 มีนาคม 2547 โดยไม่มีใครอุทธรณ์คดีของนายดวง เหตุใดในปี 2550 กรมกำลังพลทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด จึงยังคงอ้างอิงมติสภากลาโหม และ ระเบียบกระทรวงกลาโหมปฏิเสธการขอกลับเข้ารับราชการของนายดวง ขณะที่ในปี 2551 นายสมัครในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจึงสามารถลงนามรับนายดวงกลับเข้ารับราชการได้ กรณีเช่นนี้ไม่ถือว่าผิดมติสภากลาโหม และระเบียบกระทรวงกลาโหมที่เคยมีการอ้างอิงถึงหรือ?
ประการที่สาม การกลับเข้ารับราชการในเดือนเมษายน 2551 ของนายดวงในครั้งหลังนั้น เป็นการกลับเข้ารับราชการสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังจากก่อนหน้านี้นายดวงได้ขอกลับเข้ารับราชการในสังกัดเดิมคือ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) กองบัญชาการทหารสูงสุดแต่ถูกปฏิเสธมาแล้ว
