สภาเดือด ปชป.จับโกหก “เป็ดเหลิม” หน้าด้าน คืนยศให้ลูกบังเกิดเกล้า แฉขบวนการวิ่งเต้นบีบเมียดาบยิ้มถอนอุทธรณ์กลางคัน พร้อมทำลายหลักฐานถอดยศ ด้าน “เหลิม” ควันออกหู ป้อง “ลูกดวง” ไม่เคยหนีทหาร แต่หนีตำรวจ ปากดีท้าแน่จริงยื่นซักฟอก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง การตอบกระทู้ถามสดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
ชมวิดีโอคลิป การตอบกระทู้ถามสดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ( 56 k ) | ( 256 K )
วันนี้ (24 เม.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจารณากระทู้ถามสด โดย นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามสดเรื่องการคืนยศทหารให้ นายดวง อยู่บำรุง ถาม นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ตั้งแต่ รมว.กลาโหม ได้บริหารแผ่นดินได้กล่าวอย่างทระนงองอาจว่ามีเลือดสีน้ำเงิน ซึ่งตนพอใจที่นายกฯได้พูดตอนรับตำแหน่งนายกฯว่าจะไม่รีบแก้รธน.แต่ 2 สิ่งที่ประกาศกลับไม่ได้ปฏิบัติหรือทำเลย ตนอยากเห็นเลือดสีน้ำเงินของนายสมัคร
ทันที ที่ นายนิพิฏฐ์ เริ่มกระทู้ถาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้ลุกขึ้นประท้วง ว่า ตนไม่อยากให้บรรทัดฐานของสภาแปรเปลี่ยน เพราะที่เรื่องถามไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่จะมีการคืนยศให้ นายดวง อยู่บำรุง มาพูดเรื่องรัฐธรรมนูญมันไม่ได้เกี่ยวกัน วันนี้นายกฯไม่อยู่มันคนละเรื่อง ไม่พูดก็จะเสียหาย เพราะนายกฯไม่อยู่ หาก ส.ส.พัทลุงฟิตหรือพร้อมก็ขอให้ถามในอาทิตย์หน้า แต่วันนี้ขอให้พูดแต่เรื่องของนายดวง
จากนั้น นายนิพิฏฐ์ ได้ถามต่อว่า รมว.มหาดไทย ต้องสงบสติอารมณ์ให้มากกว่านี้ การที่เรียนว่า ตนเสียดายที่นายกฯซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกมีเลือดสีน้ำเงิน เป็นผู้บังคับบัญชาการทหาร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทหารของราชาและพระราชินี แต่ 3-4 เดือนที่ผ่านมานายกฯไม่ได้ทำให้ประจักษ์ว่ามีเลือดสีน้ำเงิน แต่มีเลือดสีม่วงมากกว่า ซึ่งตามที่ รมว.กลาโหมได้ลงนามในคำสั่งคืนยศให้ นายดวง ทำให้เรื่องดังกล่าวถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ว่า กลาโหมขาดแคลนกำลังคนหรือว่าต้องการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ ซึ่งกระทบภาพลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง ขอถามว่า ธรรมเนียมของกองทัพไม่เคยมีมาก่อนที่การเมืองใช้กองทัพเป็นเครื่องมือ และกองทัพก็ยอมตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งทำให้กองทัพเสียหาย ซึ่งการปฏิบัติของ รมว.กลาโหม คิดว่า การกระทำอย่างนี้ทำให้ผู้คนมีความไม่เชื่อมั่นต่อกองทัพ ซึ่งเป็นความเสียหายต่อประเทศ จึงอยากถามว่า ร.ต.ดวงเฉลิม ถูกถอดด้วยข้อหาใด และการกลับเข้าสู่ตำแหน่งเป็นเพราะกองทัพต้องการคนลักษณะพิเศษหรือว่าที ร.ต.ดวงเฉลิม เป็นคนขอเข้ากองทัพเอง
ร.ต.อ.เฉลิม ชี้แจงว่า ตนไม่ได้มาตอบในฐานะที่เป็นพ่อของลูก แต่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ซึ่งข้าราชการทุกหมู่เหล่ามีเกียรติยศเกียรติศักดิ์ ไม่ใช่แต่ทหารที่เป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้น อย่าเข้าใจผิดหรือทึกทักเอาเอง ตนรับข้าราชการตำรวจก็ได้รับพระราชทานยศมาตลอด เรียนว่าเวลาถามกระทู้สดต้องเตรียมการไม่ใช่อ่านหนังสือพิมพ์ 2-3 ฉบับแล้วมาถาม นายดวง เป็นว่าที่ ร.ต.คำว่าว่าที่แตกต่างสิ้นเชิงกับคำว่าไม่มีว่าที่ ดังนั้น อย่าถามผิดๆ แบบนี้เสียเหลี่ยม
ขอเรียนว่า นายดวงเฉลิม เข้ารับราชการครั้งแรกเป็นว่าที่ ร.ต.เมื่อปี 2544 วันที่ 10 เม.ย.ด้วยวุฒินิติศาสตร์บัณฑิต และเมื่อ 29 ต.ค.2544 ณ ผับทวินตี้ รัชดา ได้เกิดเรื่องขึ้น ซึ่งขณะนั้นว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม ได้ถูกกล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กระทรวงกลาโหมในขณะนั้น พล.อ. สัมพันธ์ บุญยานันท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ออกหนังสือเลขที่ 834/2544 ลงวันที่ 2 พ.ย.2544 พักราชการ หมายความว่า เธอไม่ต้องมาทำงานแล้วจะไปไหนก็ไป นอกจากราชการจะเรียกมาสอบข้อเท็จจริง ซึ่งว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม ก็พักราชการ ที่ สรพ.เขาจะไม่มีการลงโทษทางวินัยก่อน แต่ฟังผลคดีอาญาว่าเป็นอย่างไร หากมีการพิจารณาคดีผิดก็เอาสำนวนคดีอาญามาดำเนินการผิดทางวินัย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า แต่เรื่องนี้กลาโหมไม่เคยบอกให้พักราชการ เพราะคดียังไม่เสร็จ ว่าที่ร.ต.เฉลิม ไม่ได้หนีทหาร แต่เขาหนีตำรวจ เพราะทหารให้พักราชการแล้ว หลังจากพักราชการแล้วกระทรวงกลาโหมออกคำสั่งซ้ำเมื่อวันที่ 15 พ.ย.2544 ได้มีคำสั่ง 881/2544 ได้มีคำสั่งปลดให้ออกจากราชการโดยไม่มีการสอบสวนแต่อย่างใด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลกมาก ซึ่งหลังจากปลดเมื่อวันที่ 16 พ.ย.2544 พล.อ ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ในช่วงนั้นได้ออกคำสั่งให้ถอดยศว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม จึงเรียนว่าที่ออกเพราะถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตาย ซึ่งไม่ได้หนีทหารแต่หนีตำรวจเพื่อมาต่อสู้คดี ขณะที่ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ ถูกพิพากษาประหารชีวิตแต่ไม่ถูกถอดยศ
นายนิพิฏฐ์ ถามต่อว่า หาก รมว.มหาดไทย ตอบเป็นเรื่องจริง พล.อ.ท.วีรวิทย์ คงศักดิ์ เจ้ากรมกำลังพลทหาร ก็ทำรายงานเท็จ ถ้าของเจ้ากรมกำลังทหารเป็นเรื่องจริง รมว.มหาดไทย ก็กำลังกล่าวเท็จในสภา เพื่อช่วยเหลือลูกชาย หลังเกิดเหตุว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม ได้หนีไป ซึ่งตามระเบียบของกระทรวงกลาโหมว่าด้วยผู้ซึ่งไม่ควรอยู่ในยศทหารตาม พ.ศ.2507 ซึ่งตามระเบียบ 2.7 ผู้ไม่ควรดำรงอยู่ในยศทหาร คือ ต้องหาคดีอาญาแล้วหนีไป 2.8 หนีราชการทหารอันนี้ก็ถูก 2.9 ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง อันนี้ก็ตรง เขาถึงถอนยศ เพราะเขาหนีราชการทหารเกิน 15 วัน ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา และตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา วันนี้เขาลือว่าหลักฐานการปลดการถอดยศของว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม ถูกเก็บไปและอาจถูกทำลายหลักฐานไปแล้ว วันนี้กระทรวงกลาโหมทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ปกปิด เป็นคดีอาญาทำหลักฐานเท็จ แบบนี้ติดคุก จึงขอถามว่า ตั้งแต่ปี 2544-2550 มีทหาร ตำรวจที่ปฏิบัติที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เสียชีวิตอย่างมาก เนื่องจากปกป้องประเทศชาติ ซึ่งบรรดาทหารที่ปกป้องอธิปไตยชาติมีญาติขอยืนคำขอให้ญาติเข้ามายื่นขอกลับเข้ารับราชการมีหรือไม่กี่นาย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวชี้แจงว่า คำถามเรื่องนี้ตนไม่ได้เตรียมมาตอบ เพราะถามเรื่องการติดยศว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม และเรื่องนี้ตนไม่มีความจำเป็นเอาความเท็จมาตอบ ไม่มีความจำเป็นเอาหลักฐานเท็จมาตอบในสภา เขารู้ว่าพรรคการเมืองไหนเอาหลักฐานเท็จมาอภิปรายในสภา ประชาชนเขารู้ดีว่าพรรคการเมืองพรรคไหนมีพฤติกรรม พฤติการณ์มาอภิปรายในสภา หากไม่รู้ให้ไปถาม นายบรรหาร ศิลปอาชา ว่าเป็นพรรคไหน และไม่ต้องกลัวว่าจะเอาเอกสารไปทำลาย ตนจะเอาไปแจกสื่อมวลชน
“วันนี้ผมไม่ได้ตอบในฐานะเป็นพ่อของลูก แต่ตอบในฐานะได้รับมอบหมาย ส่วน พล.อ.ท.อะไรที่สอบผมไม่รู้ ที่บอกให้ตนไปอ่านเอกสารจะได้เพิ่มพูนความรู้ไม่จำเป็น ตนจบ ดร.ด้านกฎหมายตนอ่านรู้เรื่อง ผมไม่ฟังคุณนิพิฏฐ์ แต่ประชาชนบอกผมฟังขอย้ำว่าเอกสารในมือเป็นเอกสารที่กระทรวงกลาโหมออก และเมื่อพักราชการก็หนีไป ผมไม่รู้จริงๆ ว่า หนีไปที่ไหนเขารู้นิติภาวะถูกล่าวหาฆ่าคนตายให้ถอดยศคนมันก็กลัว เขาหนีไป พอหนีไปเห็นว่า พล.อ.ท.ที่ท่านเอ่ยถึงจะมีหรือไม่ก็ไม่ทราบ ผมไม่รู้ เขาหนีทหารไปตนก็ไม่รู้ เขาหลบหนีออกราชอาณาจักรกลับมาก็เปรียบเทียบค่าปรับไปแล้ว เมื่อมาต่อสู้คดีความศาลยกฟ้อง บอกว่า จำเลยไม่ได้กระทำความผิด อัยการต้องอุทรณ์ ก็ไม่อุทรณ์ ภรรยาก็ไม่อุทรณ์คดีจึงจบในกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งกลับมาก็ได้ถูกจำคุก ตีตรวน เข้าห้องขังก็ดำเนินตามคดี ไม่ได้รับอภิสิทธิ์อะไร เมื่อไม่ผิดเขาอยากกลับมารับราชการตนก็บอกให้ชะลอไว้ก่อน ซึ่งเขาเป็นคนไทยคนหนึ่งมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ”
ด้าน นายนิพิฏฐ์ ถามต่อว่า คำสั่งการบรรจุผู้เข้ารับราชการหลังจากถูกปลดออกจากราชการนั้นต้องไม่มีมลทินให้มัวหมอง หรือผิดศีลธรรมอันดี ซึ่งถ้าสิ่งที่นายทหารคนหนึ่งหลบหนีคดี แบบนี้ถือเป็นการบกพร่องทางศีลธรรมรวมถึงคนที่แต่งตั้งด้วย ซึ่งก็แปลกที่บ้านเมืองนี้หย่อนศีลธรรมอันดี ส่วนที่พูดว่าโจทก์ร่วมไม่อุทรณ์นั้นไม่เป็นความจริง เพราะภรรยาดาบยิ้มได้อุทรณ์ แต่วันหนึ่งก็ถอนคำอุทธรณ์ จึงขอพูดว่า รมว.มหาดไทย โกหกในสภาแห่งนี้
“ผมไม่อยากพูดว่าหน้าด้าน แต่พูดว่าท่านโกหก ท่านยอมรับหรือไม่ ขอให้บันทึกไว้ว่าผมจับโกหกในสภาได้ เพราะภรรยาดาบยิ้มถอนคำอุทธรณ์ ซึ่งมันมีเบื้องหน้าเบื้องหลังมีคนไปทำให้เขาถอนคำอุทรณ์ ผมเห็นใจเขา เบื้องหลังถอนคำอุทธรณ์ท่านรู้ดีอยู่แก่ใจ เป็นผมโกหกแบบนี้ผมฆ่าตัวตายไปแล้ว ท่านไม่มีข้อมูลเรื่องที่ผมถามไม่เป็นไร เพราะท่านมีแต่ข้อมูลคนในครอบครัวของท่านแบบนี้บ้านเมืองอยู่ได้อย่างไร แบบนี้ถ้ามีลูกหลานตำรวจที่เสียชีวิตใน 3 จังหวัดภาคใต้ขอเข้ารับราชการจะให้ความเป็นธรรมแค่ไหน” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวชี้แจงว่า ไม่คิดว่าคนที่เรียนจบกฎหมายและคนเป็นทนายความจะกล้าแสดงความเห็นแบบนี้ในสภา เมื่อศาลยกฟ้อง ไม่มีการอุทธรณ์หรือมีการอุทธรณ์แล้วถอน มันไม่ได้เกี่ยวกับตน จำเลยก็มีหน้าที่ของจำเลย โจทก์ก็มีหน้าที่ของโจทก์แล้วตนมีหน้าที่ต้องรู้หรือไม่ ถ้ามีการอุทรณ์คือต้องมีการพิจารณาคดีในศาลอุทธรณ์ ตนไม่ได้เป็นเทวดาจึงไม่รู้ว่าจะมีการอุทธรณ์หรือไม่มี ที่บอกว่ามีศีลธรรมหรือไม่นั้นไม่มีหรอก เขามีกฎหมายล้างมลทินในปี 2550 กรณี ว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม ไม่มีความผิด คดีจบแล้ว การกลับเขารับราชการก็มีคนเซ็น ต้องมีหิริโอตัปปะ อย่ามาพูดคาบลูกคาบดอก สรพ.บอกว่า จบแล้วเขาถามกรมพระธรรมนูญว่ากรณีแบบนี้กลับเข้ารับราชการได้หรือไม่ เขาก็บอกกลับได้เพราะคดีที่ถูกกล่าวหายุติที่ศาลไม่ได้หนีคดีความ
“เมื่อว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม เข้าตามตรอกออกตามประตู ที่พูดแบบนี้ต้องอยู่บนเหตุผลหลักการที่ชอบธรรม ประเทศมีกฎกติกา ถ้าศาลตัดสินแล้วไม่เชื่อถือก็ทะเลาะกันไม่มีจุดไม่สิ้นสุด กรุณาหน่อยสภาจะปิดแล้วช่วยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจหน่อยว่าประพฤติไม่ชอบ ช่วยเหลือลูก ขอเชิญเลยอย่ามาพูดครึ่งๆกลางๆแบบนี้ไม่ชอบ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการตั้งกระทู้ถามสดเรื่องการคืนยศให้ นายดวง บรรยากาศในที่ประชุมได้มีการประท้วงอยู่ตลอด โดยเฉพาะ ส.ส.จากซีกพรรคพลังประชาชน พร้อมทั้งขอให้ประธานในที่ประชุมได้ยุติการอภิปราย โดยเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน จนทำให้ ส.ส.ในซีกพรรคประชาธิปัตย์ได้โห่อยู่ตลอดเมื่อมีการลุกขึ้นประท้วง นอกจากนี้ในการอภิปรายของของ ร.ต.อ.เฉลิมยังมีการพูดจาเสียดสีพรรคประชาธิปัตย์อยู่ตลอดเวลาว่าเชื่อไม่ได้ ทำให้บรรดา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ต่างลุกขึ้นประท้วงเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ภายหลังจากที่มีการตอบกระทู้สดจบ ร.ต.อ.เฉลิมได้ให้เจ้าหน้าที่รัฐสภานำสำเนาเอกสารคำสั่งกระทรวงมหาไทยเรื่องการถอดยศทหารสัญญาบัตรเลขที่ 882/2544 ลงนามโดยพล.ท.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมทำหน้าที่แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ลงคำสั่งถอดตำแหน่งว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม อยู่บำรุง และคำสั่งที่ 881/2544 เรื่องให้ปลดนายทหารสัญญาบัตรออกจากราชการเนื่องจากกระทำผิดฐานต้องหาในคดีและหลบหนีไป ลงนามโดย พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม