xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.จับเท็จเหลิมกลางสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - ปชป.จับโกหก"เป็ดเหลิม" กลางสภา จากกระทู้ถามสดเรื่องคืนยศให้ลูกบังเกิดเกล้า แฉขบวนการวิ่งเต้นบีบ "เมียดาบยิ้ม" ถอนอุทธรณ์กลางคัน พร้อมทำลายหลักฐานถอดยศ ด้าน"เหลิม"ป้อง"ลูกดวง"ไม่เคยหนีทหาร แค่หนีตำรวจ ปากดีท้าแน่จริงให้ยื่นซักฟอกเลย

เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ (24 เม.ย.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจารณากระทู้ถามสด โดยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งกระทู้ถามเรื่องการคืนยศทหารให้นายดวง อยู่บำรุง โดยถามนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม ว่าตั้งแต่ รมว.กลาโหม ได้บริหารแผ่นดิน ได้กล่าวอย่างทระนงองอาจว่ามีเลือดสีน้ำเงิน และบอกว่าจะไม่รีบแก้ รธน. แต่ทั้ง 2 สิ่งที่ประกาศ กลับไม่ได้ปฏิบัติเลย ตนอยากเห็นเลือดสีน้ำเงินของนายสมัคร

ปชป.จับโกหกเหลิมปกป้องลูก

ทันทีที่นายนิพิฏฐ์ เริ่มกระทู้ถาม ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงโดยระบุว่า ที่เรื่องถามไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่จะมีการคืนยศให้นายดวง อยู่บำรุง มาพูดเรื่องรัฐธรรมนูญ มันไม่ได้เกี่ยวกัน และนายกฯก็ไม่อยู่ วันนี้ขอให้พูดแต่เรื่องของนายดวง

จากนั้นนายนิพิฏฐ์ ได้กล่าวว่า รมว.มหาดไทย ต้องสงบสติอารมณ์ให้มากกว่านี้ การที่เรียนว่า ตนเสียดายที่นายกฯ ซึ่งเป็นรมว.กลาโหม บอกมีเลือดสีน้ำเงิน เป็นผู้บัญชาการทหาร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นทหารของราชา และพระราชินี แต่ 3-4 เดือนที่ผ่านมา นายกฯไม่ได้ทำให้ประจักษ์ว่า มีเลือดสีน้ำเงิน แต่มีเลือดสีม่วงมากกว่า การที่ รมว.กลาโหม ลงนามในคำสั่งคืนยศให้นายดวง ทำให้เรื่องดังกล่าวถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า กลาโหมขาดแคลนกำลังคน หรือว่าต้องการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ ขอถามว่า ธรรมเนียมของกองทัพไม่เคยมีมาก่อนที่การเมือง ใช้กองทัพเป็นเครื่องมือ และกองทัพ ก็ยอมตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งทำให้กองทัพเสียหาย ซึ่งการปฏิบัติของ รมว.กลาโหมอย่างนี้ ทำให้ผู้คนมีความไม่เชื่อมั่นต่อกองทัพ ซึ่งเป็นความเสียหายต่อประเทศ จึงอยากถามว่า ร.ต.ดวงเฉลิม ถูกถอดด้วยข้อหาใด และการกลับเข้าสู่ตำแหน่ง เป็นเพราะกองทัพต้องการคนลักษณะพิเศษ หรือว่าที ร.ต.ดวงเฉลิมเป็นคนขอเข้ากองทัพเอง

ร.ต.อ.เฉลิม ชี้แจงว่า ตนไม่ได้มาตอบในฐานะที่เป็นพ่อของลูก แต่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ

"ขอเรียนว่า นายดวงเฉลิม เข้ารับราชการครั้งแรกเป็นว่าที่ ร.ต.เมื่อปี 2544 วันที่ 10 เม.ย. ด้วยวุฒินิติศาสตร์บัณฑิต และเมื่อ 29 ต.ค.44 ณ ผับทวินตี้ รัชดา ได้เกิดเรื่องขึ้นซึ่งขณะนั้น ว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม ได้ถูกกล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กระทรวงกลาโหม ในขณะนั้นพล.อ. สัมพันธ์ บุญยานันท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ออกหนังสือเลขที่ 834/2544 ลงวันที่ 2 พ.ย.44 พักราชการ หมายความว่า เธอไม่ต้องมาทำงานแล้ว จะไปไหนก็ไป นอกจากราชการจะเรียกมาสอบข้อเท็จจริง ซึ่งว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม ก็พักราชการ ที่ สรพ.เขาจะไม่มีการลงโทษทางวินัยก่อน แต่ฟังผลคดีอาญาว่าเป็นอย่างไร หากมีการพิจารณาคดีผิด ก็เอาสำนวนคดีอาญามาดำเนินการผิดทางวินัย

แต่เรื่องนี้ กลาโหมไม่เคยบอกให้พักราชการ เพราะคดียังไม่เสร็จ ว่าที่ร.ต.ดวงเฉลิมไม่ได้หนีทหาร แต่เขาหนีตำรวจ เพราะทหารให้พักราชการแล้ว หลังจากพักราชการแล้ว กระทรวงกลาโหม ออกคำสั่งซ้ำ เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 44 ได้มีคำสั่ง 881/2544 คำสั่งปลดให้ออกจากราชการโดยไม่มีการสอบสวนแต่อย่างใด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลกมาก ซึ่งหลังจากปลดเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 44 พล.อ ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ในช่วงนั้นได้ออกคำสั่งให้ถอดยศ ว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม จึงเรียนว่าที่ออกเพราะถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนตาย ซึ่งไม่ได้หนีทหาร แต่หนีตำรวจ เพื่อมาต่อสู้คดี ขณะที่ พ.ต. เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ ถูกพิพากษาประหารชีวิต แต่ไม่ถูกถอดยศ"

ช่วงนี้ นายนิพิษฎ์ ถามต่อว่า หากสิ่ง รมว.มหาดไทย ตอบเป็นเรื่องจริง พล.อ.ท.วีรวิทย์ คงศักดิ์ เจ้ากรมกำลังพลทหาร ก็ทำรายงานเท็จ ถ้าของเจ้ากรมกำลังทหารเป็นเรื่องจริง รมว.มหาดไทย ก็กำลังกล่าวเท็จในสภาฯ เพื่อช่วยเหลือลูกชาย

หลังเกิดเหตุ ว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม ได้หนีไป ซึ่งตามระเบียบของกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยผู้ซึ่งไม่ควรอยู่ในยศทหาร ตาม พ.ศ. 2507 ซึ่งตามระเบียบข้อ 2.7 ผู้ไม่ควรดำรงอยู่ในยศทหาร คือต้องหาคดีอาญาแล้วหนีไป 2.8 หนีราชการทหาร อันนี้ก็ถูก 2.9 ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง อันนี้ก็ตรง เขาถึงถอดยศ เพราะเขาหนีราชการทหารเกิน 15 วัน ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา และตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา

"วันนี้เขาลือว่า หลักฐานการปลด การถอดยศของ ว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม ถูกเก็บไป และอาจถูกทำลายหลักฐานไปแล้ว วันนี้กระทรวงกลาโหมทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ปกปิด เป็นคดีอาญา ทำหลักฐานเท็จ แบบนี้ติดคุก จึงขอถามว่าตั้งแต่ปี 2544-2550 มีทหาร ตำรวจ ที่ปฎิบัติที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เสียชีวิตอย่างมากเนื่องจากปกป้องประเทศชาติ ซึ่งบรรดาทหารที่ปกป้องอธิปไตยชาติมีญาติขอยืนคำขอให้ญาติเข้ามายื่นขอกลับเข้ารับราชการ มีหรือไม่ กี่นาย"

”เหลิม”หลังพิงฝาเพื่อ”ลูกดวง”

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวชี้แจงว่า คำถามเรื่องนี้ตนไม่ได้เตรียมมาตอบ เพราะถามเรื่องการติดยศ ว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม และเรื่องนี้ตนไม่มีความจำเป็นเอาความเท็จมาตอบ ไม่มีความจำเป็นเอาหลักฐานเท็จ มาตอบในสภา เขารู้ว่าพรรคการเมืองไหนเอาหลักฐานเท็จมาอภิปรายในสภา ประชาชนเขารู้ดี หากไม่รู้ให้ไปถามนายบรรหาร ศิลปอาชา ว่าเป็นพรรคไหน และไม่ต้องกลัวว่าจะเอาเอกสารไปทำลาย ตนจะเอาไปแจกสื่อมวลชน

"วันนี้ผมไม่ได้ตอบในฐานะเป็นพ่อของลูก แต่ตอบในฐานะได้รับมอบหมาย ส่วน พล.อ.ท.อะไร ที่สอบผมไม่รู้ ที่บอกให้ผมไปอ่านเอกสาร จะได้เพิ่มพูนความรู้ ไม่จำเป็น ผมจบ ดร.ด้านกฎหมาย อ่านรู้เรื่อง ผมไม่ฟังคุณนิพิษฏ์ แต่ประชาชนบอกผมฟังขอย้ำว่า เอกสารในมือเป็นเอกสารที่กระทรวงกลาโหมออก และเมื่อพักราชการ ก็หนีไป ผมไม่รู้จริงๆว่า หนีไปที่ไหน เขารู้นิติภาวะ ถูกล่าวหาฆ่าคนตายให้ถอดยศ คนมันก็กลัว เขาหนีไป พอหนีไปเห็นว่า พล.อ.ท. ที่ท่านเอ่ยถึง จะมีหรือไม่ก็ไม่ทราบ ผมไม่รู้ เขาหนีทหารไป ผมก็ไม่รู้ เขาหลบหนีออกราชอาณาจักร กลับมาก็เปรียบเทียบค่าปรับไปแล้ว เมื่อมาต่อสู้คดีความ ศาลยกฟ้อง บอกว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิด อัยการต้องอุทธรณ์ ก็ไม่อุทธรณ์ ภรรยาก็ไม่อุทธรณ์ คดีจึงจบในกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งกลับมาก็ได้ถูกจำคุก ตีตรวน เข้าห้องขังก็ดำเนินตามคดี ไม่ได้รับอภิสิทธิ์อะไร เมื่อไม่ผิดเขาอยากกลับมารับราชการ ผมก็บอกให้ชะลอไว้ก่อน ซึ่งเขาเป็นคนไทยคนหนึ่งมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ"

นายนิพิษฏ์ ถามต่อว่า คำสั่งการบรรจุผู้เข้ารับราชการหลังจากถูกปลดออกจากราชการนั้น ต้องไม่มีมลทินให้มัวหมอง หรือผิดศีลธรรมอันดี ซึ่งถ้าสิ่งที่นายทหารคนหนึ่ง หลบหนีคดีแบบนี้ ถือเป็นการบกพร่องทางศีลธรรม รวมถึงคนที่แต่งตั้งด้วย ซึ่งก็แปลก ที่บ้านเมืองนี้หย่อนศีลธรรมอันดี ส่วนที่พูดว่าโจทก์ร่วมไม่อุทรณ์นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะภรรยาดาบยิ้ม ได้อุทธรณ์ แต่วันหนึ่งก็ถอนคำอุทธรณ์ จึงขอพูดว่า รมว.หมาดไทย โกหกในสภาแห่งนี้

"ผมไม่อยากพูดว่า หน้าด้าน แต่พูดว่าท่านโกหก ท่านยอมรับหรือไม่ขอให้บันทึกไว้ว่า ผมจับโกหกในสภาได้ เพราะภรรยาดาบยิ้มถอนคำอุทธรณ์ ซึ่งมันมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง มีคนไปทำให้เขาถอนคำอุทธรณ์ ผมเห็นใจเขา เบื้องหลังถอนคำอุทธรณ์ท่านรู้ดีอยู่แก่ใจ เป็นผมโกหกแบบนี้ ผมฆ่าตัวตายไปแล้ว ท่านไม่มีข้อมูลเรื่องที่ผมถามไม่เป็นไร เพราะท่านมีแต่ข้อมูลคนในครอบครัวของท่าน แบบนี้บ้านเมืองอยู่ได้อย่างไร แบบนี้ถ้ามีลูกหลานตำรวจที่เสียชีวิตใน 3 จังหวัดภาคใต้ ขอเข้ารับราชการจะให้ความเป็นธรรมแค่ไหน" นายนิพิฏฐ์กล่าว

”เหลิม”ท้าฝ่ายค้านยื่นซักฟอก

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวชี้แจงว่า ไม่คิดว่าคนที่เรียนจบกฎหมายและคนเป็นทนายความจะกล้าแสดงความเห็นแบบนี้ในสภา เมื่อศาลยกฟ้องไม่มีการอุทธรณ์หรือมีการอุทธรณ์แล้วถอน มันไม่ได้เกี่ยวกับตน จำเลยก็มีหน้าที่ของจำเลย โจทก์ก็มีหน้าที่ของโจทก์ แล้วตนมีหน้าที่ต้องรู้หรือไม่ ถ้ามีการอุทธรณ์ คือต้องมีการพิจารณาคดีในศาลอุทธรณ์ ตนไม่ได้เป็นเทวดา จึงไม่รู้ว่าจะมีการอุทธรณ์หรือไม่มี ที่บอกว่ามีศีลธรรมหรือไม่นั้นไม่มีหรอก เขามีกฎหมายล้างมลทินในปี 2550 กรณี ว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม ไม่มีความผิด คดีจบแล้ว การกลับเขารับราชการก็มีคนเซ็น ต้องมีหิริโอตัปปะ อย่ามาพูดคาบลูกคาบดอก สรพ.บอกว่า จบแล้วเขาถามกรมพระธรรมนูญว่า กรณีแบบนี้กลับเข้ารับราชการได้หรือไม่ เขาก็บอกกลับได้ เพราะคดีที่ถูกกล่าวหายุติที่ศาล ไม่ได้หนีคดีความ

"เมื่อว่าที่ ร.ต.ดวงเฉลิม เข้าตามตรอกออกตามประตูที่พูดแบบนี้ต้องอยู่บนเหตุผลหลักการที่ชอบธรรม ประเทศมีกฎกติกา ถ้าศาลตัดสินแล้วไม่เชื่อถือก็ทะเลาะกันไม่มีจุดไม่สิ้นสุด กรุณาหน่อย สภาจะปิดแล้วช่วยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจหน่อยว่าประพฤติไม่ชอบ ช่วยเหลือลูก ขอเชิญเลย อย่ามาพูดครึ่งๆกลางๆ แบบนี้ไม่ชอบ" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการตั้งกระทู้ถามสด เรื่องนี้บรรยากาศในที่ประชุมได้มีการประท้วงอยู่ตลอด โดยเฉพาะ ส.ส.จากซีกพรรคพลังประชาชน พร้อมทั้งขอให้ประธานในที่ประชุมได้ยุติการอภิปราย โดยเห็นว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้กระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน จนทำให้ ส.ส.ในซีกพรรคประชาธิปัตย์ ได้โห่อยู่ตลอดเมื่อมีการลุกขึ้นประท้วง นอกจากนี้ในการอภิปรายของของ ร.ต.อ.เฉลิม ยังมีการพูดจาเสียดสี พรรคประชาธิปัตย์ อยู่ตลอดเวลาว่า เชื่อไม่ได้ ทำให้บรรดา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ต่างลุกขึ้นประท้วงเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น