“พันธมิตรฯ” ยืนกรานต้องมีการขอประชามติถาม 14 ล้านเสียงก่อนว่าจะยอมให้แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ เตือนอย่าใช้วิธีเผด็จการรัฐสภาพวกมากลากไปตามอำเภอใจ ลั่นต่อต้านจนถึงที่สุด
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง แกนนำพันธมิตรฯ แถลง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง แกนนำพันธมิตรฯ ตอบคำถาม
คลิก! ชมการแถลงของพันธมิตรฯ ฉบับ 7/2551(56K) |(256K)
กำหนดการสัมมนาประชาชน - ติดอาวุธทางปัญญา “ยามเฝ้าแผ่นดินสัญจร” ครั้งที่ 2
วานนี้ (22 เม.ย.) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อันประกอบด้วย นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ส่วน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ติดภารกิจ นอกจากนี้ ยังตัวแทนเครือข่ายพันธมิตรฯ มาร่วมประชุมด้วย เช่น นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ จากสมัชชาประชาชนภาคอีสาน และนายวีระ สมความคิด จากเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน เข้าร่วมหารือ
จากนั้นเวลาประมาณ 14.00 น.แกนนำพันธมิตรฯ ได้ร่วมกันแถลง โดยหลังจากที่ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้อ่านแถลงการณ์เพื่อย้ำจุดยืนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชนที่ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองแล้ว นายพิภพ ได้ย้ำว่า รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ได้ผ่านการรับรองของมติมหาชนจำนวน 14 ล้านเสียง
นายพิภพ ย้ำว่า หากจะมีการแก้ไขก็ต้องมีการลงประชามติถามประชาชนก่อน และว่าการต่อสู้จะใช้วิธีการประชาธิปไตยเพื่อต่อสู้กับเผด็จการรัฐสภา ซึ่งถ้าไม่ผ่านการลงประชามติก่อนก็ยอมไม่ได้
“พรรคพลังประชาชนจะมาอ้างสิทธิ์ว่าได้รับการเลือกตั้งอย่างเดียวไม่ได้ และตามข้อเท็จจริงแล้วพรรคพลังประชาชนก็ไม่ได้เสียงข้างมาก และเมื่อได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแล้วไม่ใช่หมายความว่าจะทำตามอำเภอใจไม่ได้ เพราะถ้าทำได้ต่อไปไม่รู้ว่าจะแก้ไขในสิ่งที่เรานึกไม่ถึงก็ได้” นายพิภพ ระบุ
นายสนธิ กล่าวว่า เราต้องเลิกความคิด หรือตรรกะที่ว่าเมื่อได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแล้วจะทำอะไรก้ได้ เพราะจะเป็นการให้สิทธิ์กลุ่มการเมืองเข้าไปทำอะไรก็ได้ ไปแก้กฎหมายเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เพราะถ้าเป็นแบบนี้ก็เท่ากับยอมรับว่าใครรวยกว่าก็ทำอะไรก็ได้ ใครมีเงินกว่าก็เป็นผู้ถูกต้อง ซึ่งเรายอมไม่ได้
นายสนธิ ย้ำว่า พันธมิตรฯ เรียกร้องความถูกต้อง โปร่งใส พร้อมยกตัวอย่างถ้ารัฐธรรมนูญฉบับไหนที่นักการเมืองไม่ชอบแสดงว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดี และว่า หมดยุคที่นักการเมืองร่างรัฐธรรมนูญแล้ว
“ผมอยากถามว่า เราอยากให้สังคมการเมืองมีการซื้อเสียง มีการทุจริต ใครรวยกว่าแล้วเข้ามาทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ ผมคนหนึ่งที่ยอมไม่ได้” นายสนธิ ระบุ
นายสมเกียรติ กล่าวว่า รัฐบาลหุ่นเชิดสมัครถือเป็นรัฐบาลเด็กเลี้ยงแกะ เพราะในเอกสารคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภาไม่มีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นวาระเร่งด่วน พร้อมย้ำว่าจะต่อต้านจนถึงที่สุด
นายสมเกียรติ เผยว่า เวลานี้เข้าใกล้สู่การชุมนุมใหญ่แล้ว และในการสัมมนาทางวิชาการในวันที่ 25 เมษายนนี้จะมีการขอมติในที่ประชุมด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ของพรรคพลังประชาชน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้สารภาพออกมาเองว่าสาเหตุที่แก้ไขเพราะจะถูกยุบพรรค พร้อมย้ำว่า หากทุกพรรคไม่มีการทุจริตก็จะไม่มีผลกระทบ และว่า ในวันที่ 25 เมษายนนี้จะมีการขอมติที่ประชุมอีกครั้งว่าจะเอาอย่างไร
ส่วนเรื่องการต่อต้านจากฝ่ายที่สนับสนุนพรรคพลังประชาชนนั้น นายสนธิ กล่าวว่า ความเห็นที่แตกต่างกันเป็นเรื่องปกติ พร้อมทั้งยกตัวอย่างการชุมนุมก่อนหน้านี้ก็มักถูกก่อกวนอยู่เสมอ และครั้งนี้ถ้ามีการก่อกวนอีก ก็ถือว่าเป็นการแสดงธาตุแท้ของอีกฝ่าย และสังคมจะได้แยกแยะได้เอง
สำหรับเรื่องที่ นายดวง อยู่บำรุง ลูกชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กลับเข้ารับราชการทหารอีกครั้งนั้น นายสนธิ กล่าวว่า เป็นเรื่องเล็กไม่ควรไปใส่ใจ เป็นเรื่องของพ่อที่มีอำนาจที่อยากช่วยเหลือลูก แต่สิ่งน่าจะทำในตอนนี้ คือ น่าจะให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รื้อฟื้นตามหาตัวไอ้ปื้ดที่ ร.ต.อ.เฉลิม อ้างว่า เป็นคนฆ่าดาบยิ้มมาให้ได้จะดีกว่า
รายละเอียดพันธมิตรฯ แถลงข่าว
พิภพ ธงไชย
พี่น้องประชาชนครับ และสื่อมวลชน ทำไมเราต้องกลับไปยึดประชามติ 14 ล้านเสียง ในการที่จะแก้รัฐธรรมนูญ โดยหลักการสำคัญๆ ที่ผ่านประชามติจากประชาชน เพราะการลงประชามติ 14 ล้านเสียง เป็นกระบวนการประชาธิปไตยที่ประชาชนรับรองการร่างรัฐธรรมนูญของ ส.ส.ร. ส.ส.ร.ชุด 2 เองก็ได้เลียนแบบ ส.ส.ร.ชุด 1 มีการโต้กันว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2550 มีรากมาจากเผด็จการ รัฐธรรมนูญ 2540 ก็มีรากมาจากรัฐธรรมนูญที่เขียนโดยคณะทหารเช่นเดียวกัน แต่เมื่อมีการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ก็ใช้กระบวนการประชาธิปไตย โดยให้มี ส.ส.ร. ซึ่งไม่ใช่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการสร้างกติกาของนักการเมือง เพราะสังคมไทยได้ผ่านวัฒนธรรมในการเขียนรัฐธรรมนูญโดยคณะทหาร โดยสมาชิกรัฐสภามาแล้ว ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย
เพราะฉะนั้น สังคมไทยจึงได้เคลื่อนตัววัฒนธรรมทางการเมืองมาให้คนนอกเป็นคนเขียนรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นเมื่อ ส.ส.ร.ชุด 1 เขียนรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 แล้วนำไปเข้าสู่สภา เพื่อให้เห็นชอบโดยไม่มีแก้ไข ซึ่งก็ทราบกันดีว่านักการเมืองส่วนใหญ่ที่เป็นรัฐบาลตอนนั้น ไม่มีความเห็นชอบที่จะผ่านรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 แต่เนื่องจากกระแสของประชาชน กดดันมาก ว่าจะต้องใช้รัฐธรรมนูญฉบับ 2540 สภาก็จำใจที่ต้องผ่าน โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี คุณสมัคร สุนทรเวช ซึ่งตอนนั้นก็เป็นสมาชิกสภา ได้ไม่เห็นชอบในการผ่านรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 อย่างชัดแจ้ง แต่วันนี้กลับมาบอกว่าเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับ 2540
เมื่อมาถึงรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ถึงแม้ว่าจะมีรากมาจากการรัฐประหาร แต่คณะรัฐประหารก็ไม่กล้าที่จะเขียนรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง จึงได้ตั้งคณะที่ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง เรียกว่า ส.ส.ร.2 เขียนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นมา นอกจากนั้น ส.ส.ร.2 และกฎหมายยังเขียนบอกไว้ว่า เมื่อเขียนเสร็จแล้ว ในระหว่างที่เขียนต้องรณรงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ให้ความคิดเห็นเหมือนกับตอนร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่ากระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 กับ 2540 เป็นกระบวนการที่จะเข้าไปยึดโยงกับระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด
ในรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ถ้าไม่ผ่านรัฐสภา ก็ต้องนำไปสู่การลงประชามติเช่นเดียวกัน แต่ในรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ได้ให้ผ่านการพิจารณาของสภา แต่ไม่ต้องมีมติว่าเห็นชอบหรือไม่ ให้นำไปสู่การลงประชามติเลย ซึ่งประชาชนก็ลงประชามติถึง 14 ล้านเสียง เพราะฉะนั้นถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ต้องถามประชาชน 14 ล้านเสียง เพราะว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ถึงอย่างไรก็ผ่านกระบวนการประชาธิปไตยมา เพราะฉะนั้นในการต่อสู้กับเผด็จการ การต่อสู้กับเผด็จการนั้นมี 2 เผด็จการ ก็คือเผด็จการทหาร กับเผด็จการรัฐสภา เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2540 นั้นถูกทำลายไปด้วยเผด็จการรัฐสภา นั่นก็คือ ไม่คำนึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภา ลากพาไปจนเกิดวิกฤตของประเทศขนาดใหญ่ อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น วันนี้ถ้าพรรครัฐบาลซึ่งทำตัวเป็นเผด็จการรัฐสภา การต่อสู้กับเผด็จการรัฐสภาต้องใช้กระบวนการประชาธิปไตยต่อสู้ เพราะฉะนั้นกระบวนการประชาธิปไตยด้วยรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผ่านกระบวนการประชาธิปไตย คือประชาชนลงประชามติ 14 ล้านเสียง เราจึงเรียกร้องว่า ถ้าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญจะใช้เผด็จการรัฐสภาไม่ได้ จะต้องนำไปถามประชาชน 14 ล้านเสียงก่อนว่าเห็นชอบหรือไม่ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นี่คือการยืนยันของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยต่อสู้กับเผด็จการรัฐสภา ส่วนเบื้องหน้าเบื้องหลังในการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีวาระซ่อนเร้นมาตรา 237 และ 309 นั้น เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงยอมไม่ได้ ขอยืนยัน ณ วันนี้ว่า เราใช้วิธีการทางประชาธิปไตยเพื่อสู้กับเผด็จการรัฐสภา ถ้ารัฐสภาและรัฐบาลไม่ถามเสียงประชาชนก่อนว่าควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่ เราก็จะยืนหยัดการต่อสู้เผด็จการรัฐสภาไปถึงที่สุด เพื่อนำประชาธิปไตยกลับคืนมาครับ
ช่วงถาม-ตอบ
ถาม - เขาก็อ้างว่าเขามีอำนาจ เพราะว่าเขาก็ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน มีอำนาจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเขาเป็นตัวแทนจากประชาชนที่ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว
พิภพ - คืออย่างนี้ครับ ในกระบวนการการเลือกตั้งเพื่อมาบริหารประเทศ แต่เมื่อมาบริหารประเทศแล้วต้องใช้กระบวนการประชาธิปไตยในการฟังความคิดเห็นของประชาชน จะถือสิทธิ์ว่าตัวเองได้รับการเลือกตั้งมาเพียงอย่างเดียวไม่ได้ การเลือกตั้งมา แล้วก็จะขอยืนยัน ณ วันนี้ พรรคพลังประชาชนไม่ได้รับการเลือกตั้งด้วยเสียงส่วนใหญ่เพื่อจัดตั้งรัฐบาลนะครับ การจัดตั้งรัฐบาลเกิดขึ้นจากการหลอกลวงประชาชนของพรรคร่วมรัฐบาล ขอยืนยันตรงนี้ก่อนนะครับ เพราะฉะนั้นการที่พรรคพลังประชาชนจะอ้างว่าตัวเองได้เสียงส่วนใหญ่แล้วจะมาทำตามอำเภอใจจนให้เกิดรูปเผด็จการรัฐสภานั้น มีบทเรียนมาแล้วจากประเทศเยอรมนี ซึ่งฮิตเลอร์ได้อ้างว่าได้เสียงส่วนใหญ่ของประเทศ แล้วนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญตามใจตัวเองฉบับไวมาร์ จึงก่อให้เกิดปัญหา
เพราะฉะนั้นการที่สมาชิกรัฐสภาของพรรคพลังประชาชนอ้างว่าตัวได้รับเสียงมาจากการเลือกตั้ง ก็มีสิทธิ์ที่จะแก้ไขตามอำเภอใจของตัวเอง แต่อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ผ่านประชามติ 14 ล้านเสียง เพราะฉะนั้นจะต้องถามจาก 14 ล้านเสียงด้วย การใช้อำนาจตามอำเภอใจจะก่อให้เกิดเผด็จการรัฐสภา และถ้าเขาสามารถทำได้ ต่อไปอาจจะแก้รัฐธรรมนูญโดยที่เรานึกไม่ถึงก็ได้ ตอนนี้เรายังไม่รู้เลยนะครับว่าเนื้อหาในการแก้รัฐธรรมนูญนั้นจะเป็นอย่างไร ที่เห็นออกมาคือทำลายองค์กรอิสระแน่นอนครับ
ถาม - การชุมนุมใหญ่จะเกิดขึ้นในวันที่มีการยื่นญัตติทันทีเลยใช่ไหมครับ
สนธิ - เดี๋ยวผมขออนุญาตตอบทีเดียว ผมขออนุญาตเพิ่มเติมคุณพิภพ ธงไชย นิดหนึ่ง เราต้องเลิกตรรกะตื้นๆ ที่บอกว่าผมได้รับเลือกเข้ามาในสภาแล้ว เพราะฉะนั้นผมเป็นตัวแทนประชาชน ผมมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้ การที่ใช้ตรรกะเช่นนี้เป็นการยอมรับว่าการเลือกตั้งเป็นวิธีเดียวเท่านั้นเองที่จะให้สิทธิ์พรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมือง กลุ่มบุคคล ที่มีเสียงข้างมากที่สุดในสภาสามารถทำอะไรกับประเทศไทยได้ รวมไปจนถึงการแก้ไขกฎหมายเพื่อเป็นผลประโยชน์กับตัวเอง หรือว่าแก้ไขกฎหมายเพื่อไม่ให้ตัวเองนั้นมีปัญหา เช่น การแก้มาตรา 237 หรือการแก้มาตรา 309 การกระทำเช่นนี้ และการใช้ตรรกะเช่นนี้ เป็นการแสดงออกว่าเป็นการยอมรับว่าใครมีเงิน มีอิทธิพลมากกว่า คนนั้นย่อมมีความถูกต้อง
เป็นที่รู้กันอย่างแจ้งชัดว่า ทุกคะแนนเสียงที่มาจากภาคอีสานและภาคเหนือนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคะแนนเสียงที่ต้องเสียเงินเสียทอง และใช้อำนาจ อิทธิพล กันทั้งสิ้น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ประเทศไทยความถูกต้องก็ตั้งกันอยู่ที่ตัวเงิน ว่าเงินนั้นตั้งขึ้นมา ใครมีเงินมาก มีทุนมาก คนนั้นก็มีความถูกต้อง ตรงนี้เป็นสิ่งซึ่งเรายอมไม่ได้ อีกประการหนึ่งที่ผม คือสิ่งซึ่งพันธมิตรฯ พยายามต่อสู้คือ เรียกร้องความถูกต้องและความเป็นปกติในกระบวนการการเมืองให้กลับมาสู่สังคมไทย เพื่อให้สังคมไทยมีความโปร่งใส อีกประการหนึ่ง ผมจะเสริมนิดหนึ่งนะครับ รัฐธรรมนูญใดก็ตาม โปรดสังเกต ว่าถ้านักการเมืองไม่ชอบ รัฐธรรมนูญนั้นจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ดี ให้จำไว้นะครับ รัฐธรรมนูญที่นักการเมืองไม่ชอบ รัฐธรรมนูญนั้นจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ดี
ผมขอเรียนว่า มันหมดยุคแล้วที่นักการเมืองมาร่างรัฐธรรมนูญเอง แล้วมากำหนดกติกาของตัวเอง แล้วมาเลือกตั้ง แล้วมาบริหารจัดการด้วยตัวเอง เปรียบเสมือนว่าประเทศไทยนั้นเป็นของนักการเมืองซึ่งได้เสียงมาจากการซื้อเสียงและการใช้อิทธิพล เพราะฉะนั้นอีกหน่อยใครมีเงินก็ไปซื้อเสียงเข้ามา ก็มาเป็น ส.ส.ก็เข้ามาแก้กฎหมายในสภาได้
คำถามนี้ผมจะถามกลับไปที่พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนว่า นี่เป็นการเมืองที่ท่านต้องการหรือ ถ้านี่เป็นการเมืองที่ท่านต้องการ ก็ขอให้อยู่ในสังคมนี้ต่อไป ผมคนหนึ่งจะไม่อยู่ด้วยในสังคมนี้นะครับ คำถามเมื่อกี๊ให้ อ.สมเกียรติ ตอบครับ
สมเกียรติ - ผมอยากเรียนเรื่องคำถามการอ้างอิงเสียงมาแก้รัฐธรรมนูญ ผมต้องยืนยันว่ารัฐบาลหุ่นเชิดสมัครเป็นรัฐบาลเด็กเลี้ยงแกะนะครับ และรัฐมนตรี 2 คน ที่คุมสื่อ อีกคนหนึ่งเป็นอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง เป็นกลุ่มเด็กเลี้ยงแกะ เพราะว่าในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 18, 19, 20 กุมภาพันธ์ เอกสารแถลงนโยบายทั้ง 28 หน้า ที่ผมเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ ไม่มีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนะครับ ในข้อ 1 ที่มีนโยบายดำเนินในปีแรก มี 19 เรื่องนะครับ ทั้ง 19 เรื่องไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญเลยนะครับ ฉะนั้นรัฐบาลชุดนี้จึงเป็นรัฐบาลโกหก และเด็กเลี้ยงแกะ ตอแหลที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยตั้งแต่มีรัฐบาลมา
ขอให้ท่านทั้งหลายถือว่า การแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้นกระทำตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ระบุว่ารัฐบาลจะบริหารประเทศได้ก็ต่อเมื่อได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว แล้วยืนยันว่า นโยบายที่แถลงนั้นไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญเลยนะครับ เพราะฉะนั้นกลุ่มพวกนี้กำลังกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะ เป็นรัฐบาลหุ่นเชิดที่กำลังทำตามการออกแบบของผู้มีอำนาจที่แท้จริง ขณะนี้กำลังป้วนเปี้ยนอยู่ตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ผมยืนยันว่ากระบวนการเหล่านี้จะได้รับการต่อต้านจากประชาชนอย่างถึงที่สุด
แล้วคำถามที่ 2 ที่กรุณาถามเรื่องการชุมนุมใหญ่นะครับ แถลงการณ์ก็บอกแล้วว่า ใกล้เมื่อถึงวันนั้น เพียงแต่ว่าในวันที่ 25 เมษายนนี้ เป็นการสัมมนาวิชาการครั้งสำคัญที่สุด และถึงวันนั้นจะมีการขอประชามติจากประชาชน พี่น้องประชาชนจะเห็นวัฒนธรรม 2 อำนาจ ได้มาปะทะกันอีกรอบหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ผมกับพันธมิตรฯ ได้คุยกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเป็นการสัประยุทธ์กันครั้งสุดท้าย เป็นการยุทธ์ครั้งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้
สมศักดิ์ โกศัยสุข
ย้ำนิดหนึ่งครับว่า จำคุณสมัครพูดเมื่อวันอาทิตย์ได้ไหม บอกว่าที่ขอแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 237 นี้ เพราะว่าจะถูกยุบพรรค นี่เขาสารภาพนะครับ เป็นคำสารภาพที่ชัดเจน ถ้าไม่ถูกยุบพรรคก็จะไม่แก้ ปัญหาก็คือว่า การถูกยุบพรรคหรือไม่ถูกยุบพรรคนั้น มันมีปัญหาว่าได้ใช้สิทธิ ได้มีการเลือกตั้งโดยสุจริตหรือเปล่า เมื่อไม่สุจริต กกต.ก็ให้ใบแดง ก็เป็นไปตามกฎหมาย พรรคที่เขาไม่ทำการทุจริตการเลือกตั้งก็ไม่ได้โดนยุบพรรค
เพราะฉะนั้น รัฐธรรมนูญนี้จึงไม่ได้มีปัญหากับพรรคการเมืองที่ไม่ได้โกง ทุจริต เมื่อทุจริตการเลือกตั้งแล้วก็ไปถอนทุนคืน ซึ่งสื่อมวลชนก็คงจะติดตามข่าวว่าอีก 6 เดือน ก็อาจจะถูกถอนทุนคืน เพราะฉะนั้นเห็นชัดว่าการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อประโยชน์ของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ และประโยชน์ของนักการเมืองที่กำลังจะถูกยุบพรรค คุณสมัคร ยังพูดอีกว่าเขาไม่เห็นด้วยนะทีแรก กับ 309 แต่เนื่องจากว่ามติของพรรคพลังประชาชนนั้นเห็นด้วยว่าให้แก้ 309
309 นั้นก็ช่วยไม่ให้คดีต่างๆ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังถูกดำเนินการอยู่นั้น ไม่ว่าเรื่องที่ถึงศาล หรือว่าถึง ป.ป.ช. หรืออัยการ หรือก่อนกระบวนการยุติธรรมต่างๆ อันนี้ก็ชัดเจน ดังนั้นเห็นชัดเลยครับว่าการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลนี้ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนแน่นอน แต่ว่าเป็นเพื่อคนส่วนน้อย จึงไม่มีความชอบธรรม ดังนั้นเรื่องการชุมนุมใหญ่ แน่นอนว่าวันที่ 25 นี้ เครือข่ายประชาชนทั่วประเทศมา ก็จะเป็นเรื่องที่เราจะขอความเห็นที่นั่นเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ พี่น้องทางอีสานได้มีการรวมตัวกันแน่น วันที่ 25 จะมาร่วม และวันที่ 26 หลังจากกิจกรรมเสร็จแล้วเราจะคุยกันอีกทีหนึ่งในการตัดสินใจตามท่าทีที่พันธมิตรฯ ได้แถลงไว้ ฉะนั้นอยากจะเรียนว่า ที่พี่น้องคนไทยทั้งประเทศเข้าใจว่าคนอีสานทั้งภาคเป็นฐานใหญ่ของกลุ่มรัฐบาล ขอยืนยันว่าไม่จริง ที่คะแนนออกมาผ่านจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในภาคอีสานส่วนใหญ่เป็นของพรรคร่วมรัฐบาลจริง แต่ถ้าไปดูลึก ประชาชนเพียงแค่ 35 เปอร์เซ็นต์ ลงคะแนนให้ อีก 70 เปอร์เซ็นต์ นี่ไม่ใช่นะ เพราะฉะนั้นการตีขลุมว่าอีสานกับเหนือเป็นฐานใหญ่ของพรรครัฐบาลและร่วมรัฐบาล ไม่ใช่นะ เพียงแต่ว่าในการลงคะแนนนั้นมีพี่น้องอีสานบางส่วนไม่ไปใช้สิทธิ์ การใช้สิทธิ์อยู่ในระดับประมาณ 60 กว่า ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ 30 เปอร์เซ็นต์ โหวตให้พรรครัฐบาล 40 ที่เหลือคะแนนแตก
ฉะนั้นในการลงประชามติในการรับร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ บางจังหวัดของอีสานถึงคะแนนเเห็นชอบไง เพราะฉะนั้นขอย้ำกับสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนทั่วประเทศว่า เหนือและอีสานไม่ใช่คนส่วนใหญ่เอาด้วยกับรัฐบาล แต่ถ้าบอกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ของเหนือและอีสานน่ะใช่ ฉะนั้น 70 เปอร์เซ็นต์ตอนนี้ยังไม่ใช่ จึงขอยืนยันว่า การที่อ้างว่าจะมี ส.ส.ในสภาเป็นข้างมาก จะทำอะไรก็ได้นั้น ไม่ใช่ ฉะนั้นท่าทีของพันธมิตรฯ ในการที่จะต้องลงประชามติจึงเป็นท่าทีที่ถูกต้องแล้ว
วีระ สมความคิด
ผมอยากย้ำนะครับว่า ความไม่ชอบธรรมของการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เราต้องไม่ลืมนะครับว่ามันเกิดจากการทุจริตเลือกตั้งนะครับ คือถ้าคุณไม่ทุจริตในการเลือกตั้งจนคุณยงยุทธ ติยะไพรัช ต้องถูกใบแดง มันจะไม่นำมาซึ่งการรีบเร่งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่นอนนะครับ ตรงนี้ผมอยากจะย้ำกับพี่น้องประชาชนว่า มันมาจากการทุจริต มันมาจากการที่คุณไปท้าทายกฎหมาย คุณไปละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ อยากให้ประชาชนอย่าลืมประเด็นนี้ และเราก็คงจะยอมรับไม่ได้หรอกครับถ้าคุณยอมเข้าสู่กติกา แล้วคุณไปละเมิดกติกา แต่พอคุณจะถูกลงโทษคุณก็จะมาแก้ไขกติกานี้ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลาเลย และนี่ก็คือสิ่งที่เครือข่ายภาคประชาชน และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เราคงยอมไม่ได้นะครับตรงนี้
ถาม - ในวันที่ 25 นี้ ในเรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัย ไม่ให้มีการเผชิญหน้ากันระหว่าง 2 กลุ่ม พันธมิตรฯ เตรียมการอย่างไรไว้บ้าง
สุริยะใส - ก็คงปล่อยให้ตำรวจนะครับ ส่วนของเราก็จะดูแลกันภายใน ไม่ใช่ข้อกังวลอะไร
ถาม - จะมีการเปลี่ยนมุมไม่ให้มาอยู่ตรงรั้วฝั่งที่เคยเกิดเหตุ เราให้หันไปใช้ทางสนามกีฬา
สุริยะใส - ให้ตำรวจจัดการนะครับ ส่วนของเราจะดูแลรับผิดชอบเฉพาะในหอประชุมใหญ่ และในบริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ถาม - เป็นห่วงกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
สุริยะใส - ไม่ห่วง เพราะว่าคนของฝ่ายเรามีวินัย และรับผิดชอบ และเชื่อมั่นสันติวิธี แล้วก็ไม่ได้พูดด้วยปากนะครับ และแสดงเจตนารมณ์ชัดเจน วันที่ 25 มีอะไร ก็เปิดเผยหมดนะครับ ไม่ได้มีวาระซ่อนเร้น ไม่ได้บอกว่าจะไม่จัดแต่แอบให้ลิ่วล้อคุณมา แล้วก็มาก่อกวน วิธีแบบนี้เราไม่ทำนะครับ
ถาม - มีการประเมินไหมว่าเสียงต่อต้านการชุมนุมของพันธมิตรฯ จะมีเพิ่มมากขึ้นกว่าครั้งแรกที่ผ่านมา เพราะว่าขณะนี้รัฐบาลก็ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกแล้ว ซึ่งมันก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่สามารถทำให้ประชาชนในพื้นที่ภาคต่างๆ เข้ามาเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ ได้
สนธิ - คือเรื่องการที่กลุ่มคนมีความเห็นไม่ตรงกันนั้นเป็นธรรมชาติของการปกครองระบอบประชาธิปไตยนะครับ เราไม่เคยกังวลนะครับ ในการต่อสู้ครั้งแรกของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในช่วงต้นปี 2549 นั้น ก็อยู่ในระบอบเดียวกัน มีการขนคนมา แล้วมาสิงสู่อยู่ที่สวนจตุจักร หรือว่าขนเจ้าหน้าที่ป่าไม้มารังควานการชุมนุมที่สงบ สันติ ที่สวนลุมพินี ก็เป็นการกระทำประจำอยู่แล้วนะครับ เรามีความเคยชินกับเรื่องนี้ เราเพียงแต่คิดว่าถ้าเขาจะทำก็เป็นสิทธิที่เขาทำได้ เพียงแต่ว่าผมเชื่อว่าประชาชนและสังคมจะมองออกถึงคุณภาพของคน วาจาที่พูด กริยาและมารยาทที่แสดงออก ย่อมส่อสะท้อนถึงรากเหง้า รากฐานของพฤติกรรม และสันดานของคน ก็จะได้รู้เลยว่าฝ่ายหนึ่งสงบ อหิงสา ใช้ปัญญา อีกฝ่ายหนึ่งใช้ความรุนแรงและใช้ความถ่อย เกรงกลัวคงไม่เกรงกลัวล่ะครับ เพราะว่าเราไม่ได้ยกทัพไปปะทะอะไรกับเขา เราอยู่ในที่มั่น และเราก็ไม่ได้ไปหาเรื่องกับใครนะครับ
ถาม - ขอถามเรื่องกรณีคำสั่งที่นายกฯ ในนามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เซ็นคำสั่งคืนยศให้กับคุณดวงเฉลิม ว่าทาง ผบ.สส.วันนี้ก็บอกว่าอย่าไปคิดอะไรมาก เพราะเขาอยากทำเขาต้องทำ ตรงนี้พันธมิตรฯ มองว่าอย่างไร และคิดว่ามีอะไรแอบแฝง
สนธิ - เดี๋ยวผมพูดจบแล้วให้ อ.สมเกียรติ เติมนิดนะครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก เป็นเรื่องคนที่เป็นลูกของพ่อ แล้วพ่อเผอิญมีอำนาจตอนนี้ ก็อยากจะช่วยลูก ผมว่าอย่าไปใส่ใจดีกว่านะครับ แต่ อ.สมเกียรติ อาจจะมีอีกแง่มุมหนึ่ง ในความเห็นของผมนะครับ คือผมคิดว่าที่สำคัญท่าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ท่านน่าที่จะใส่ใจ ในฐานะผู้ที่ดูแลความสงบของประเทศชาติ รีบๆ สั่งตำรวจ หรือขอให้ตำรวจช่วยดำเนินการรื้อคดีแล้วหาไอ้ปื๊ดให้ได้ดีกว่า นะครับ
ผมคิดว่าถ้าคุณเฉลิมแสดงเจตนารมณ์นี้ เพราะว่าคุณเฉลิมเป็นคนพูดเองว่าไอ้ปื๊ดเป็นคนยิงจ่ายิ้ม ผมคิดว่าถ้าคุณเฉลิมจะแสดงออกสักนิดหนึ่ง เรียกท่านรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาพบ และประกาศว่า ผมอึดอัดใจ ไม่สบายใจมาก ตั้งแต่เรื่องราวมันจบไปและไอ้ปื๊ดมันหนีไป นี่เห็นไหม ลูกผมไม่ผิดเพราะไอ้ปื๊ดเป็นคนยิง เพราะฉะนั้นผมจะหาไอ้ปื๊ดให้ได้ ผมอยากจะเห็นมารยาทตรงนี้ของคุณเฉลิมแสดงออก ผมว่าอย่างนี้จะสวยกว่านะครับ ส่วนลูกเขาจะรับราชการแล้วอีกหน่อยไต่เต้าขึ้นไปเป็นถึงผู้บัญชาการทหารบก ก็ถือว่าเป็นบุญเป็นวาสนาของเขาก็แล้วกัน เชิญ อ.สมเกียรติ ครับ
สมเกียรติ - เรื่องนี้ผมอยากเรียนนิดหนึ่งนะครับ เพราะว่าท่านรัฐมนตรีมหาดไทย ได้ให้เกียรติพวกเรามาก โดยเฉพาะผม ผมถือว่าเป็นบุญคุณของประเทศอย่างใหญ่หลวงที่จะได้รับคนที่มีขีดความสามารถสูงเข้ามารับราชการในประเทศไทยนะครับ เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงมาก และก็เข้าสุภาษิตไทย ดูวัวให้ดูที่หาง ดูนางให้ดูที่แม่ ถ้าให้ดูรัฐมนตรียอดแย่ให้ดูที่ลูกชายนะครับ ขอบคุณมากครับ
ถาม - ขอย้ำชัดๆ ว่าการชุมนุมใหญ่จะมีการขอประชามติในวันที่ 25 และบอกว่าจะมีการชุมนุมเมื่อวาระของร่างรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณาของสภา อันนี้ไม่ได้หมายความว่ายื่นญัตติใช่ไหม ยื่นญัตติแต่ยังไม่ชุมนุม?
สุริยะใส - ความชัดเจนในเรื่องนี้รอปฏิกิริยาจากทางพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งผมเข้าใจว่า 1-2 วัน จะมีความชัดเจนนะครับ หลังจากถ้าเขามีปฏิกิริยากลับมา 1-2 วัน 25 ก็จะมีความชัดเจนจากเรานะครับ เช่น การกำหนดช่วงเวลา ถ้าต้องชุมนุมใหญ่ ก็คงมีความชัดเจนทันทีถ้าทุกอย่างมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้
ถาม - สถานที่
สุริยะใส - เดี๋ยวแจ้งอีกทีหนึ่งดีกว่านะครับ ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ
/0110