“ยามเฝ้าแผ่นดิน” แฉต่อ คนในเครือข่าย นปก.พยามล่วงเกินพระราชอำนาจค้านแต่งตั้ง “พล.อ.สุรยุทธ์” เป็นองคมนตรี ด้าน “สนธิ” ชี้สถานการณ์ใกล้แตกหัก กลุ่มไม่เอาศักดินาเร่งปั่นกระแสสู่สากล ประสานกลุ่ม “ทักษิณ” ที่กำลังรุกหนักเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แถมปลุกรากหญ้าไว้หนุนหลังตัวเอง
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ช่วงที่ 1
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ช่วงที่ 2
รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 23 เม.ย. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ร่วมดำเนินรายการ ในช่วงแรก ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ต่อเนื่องจากกรณีสถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที เสนอรายงานเลือกตั้งและการโค่นล้มระบอบกษัตริย์ในเนปาลโดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งโยงไปถึงท่าทีของนายจักรภพ เพ็ญแข รมต.สำนักนายกรัฐมนตรีที่ดูแลด้านสื่อ ซึ่งเคยบอกว่าไม่เห็นด้วยกับระบอบศักดินา วันต่อมาก็มีกรณีของนายโชติศักดิ์ อ่อนสูง แกนนำกลุ่ม 19 กันยาต้านรัฐประหาร ที่ไม่ยืนทำความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ และถูกจับกุม แต่ก็ได้ใช้โอกาสในการไปรับทราบข้อกล่าวหาที่สถานีตำรวจในการขยายผลในวงกว้าง โดยการถือป้ายทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า นายโชติศักดิ์นั้นเป็นผู้ประสานงานแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ที่ออกมาต่อต้านรัฐประหารและขับไล่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และอยู่ในกลุ่มคนรักทักษิณ ล่าสุดปรากฏว่ามีการให้กำลังใจนายโชติศักดิ์ในเว็บไซต์ “ประชาไท” ราวกับว่านายโชติศักดิ์เป็นวีรบุรุษ
ผู้ดำเนินรายการกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่เชื่อมโยงกัน คือเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา นายภูมิวัฒน์ นุกิจ อ้างว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มประชาชนชาวไทยและคณะ 5 คน ได้ไปยื่นหนังสือถวายฎีกาต่อราชเลขาธิการ เพื่อคัดค้านการโปรดโกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นองคมนตรี โดยอ้างว่า พล.อ.สุรยุทธ์เคยเป็นนายกฯ ที่มาจากการรัฐประหาร ที่ทำลายหลักการประชาธิปไตย และถูกสอบสวนเรื่องที่ดินเขายายเที่ยง
นายปานเทพ กล่าวว่า ในยามที่ พล.อ.สุรยุทธ์เป็นนายกฯ บริหารประเทศนั้น เราก็วิพากษ์วิจารณ์ในฐานะสื่อมวลชน แต่ในยามหนึ่งเมื่อมีพระราชวินิจฉัยแต่งตั้งให้ พล.อ.สุรยุทธ์เป็นองมนตรี เราไม่เคยคิดที่จะวิจารณ์ การที่นายภูมิวัฒน์ไปถวายฎีกาคัดค้านจะถือว่าเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจหรือไม่
สำหรับนายภูมิวัฒน์ นั้นถือว่าอยู่ในเครือข่ายของ นปก. และอยู่ในกลุ่มเอ็นจีโอที่ชื่อ “กลุ่มพลเมืองภิวัฒน์” จัดตั้งโดยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือหนูหริ่ง ประธานมูลนิธิกระจกเงา ที่เคยต่อต้านรัฐธรรมนูญ 2550 และเป็นคนอยู่เบื้องหลังการจัดเวที นปก. มีการจัดทำเว็บไซต์เครือข่าย 19 กันยาฯ ต้านรัฐประหาร เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2549 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ไม่ยอมยืนทำความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี
กลุ่มคนเหล่านี้เริ่มเคลื่อนไหวตั้งแต่หลังการรัฐประหาร โดยเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2549 ได้ท้าทายกฎอัยการศึก และกฎห้ามชุมนุม 5 คน ด้วยการไปชุมนุมที่สยามพารากอน โดยใส่เสื้อดำต่อต้านรัฐประหาร แต่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ก็ยังให้เคลื่อนไหว และมีกลุ่มต่างๆ เกิดขึ้น หลายกลุ่ม เช่น เครือข่าย 19 กันยา กลุ่มโดมแดง คนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ พิราบขาว 2006 หลังจากนั้น พีทีวีก็เกิด และพยายามทำตัวเป็นเอ็นจีโอ พยายามจะรวมกลุ่มกัน แต่ก็แตกกันเพราะบางกลุ่มต่อต้านรัฐประหารด้วย ไม่เอา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย ขณะที่พีทีวีเป็นกลุ่มของเครือข่าย พ.ต.ท.ทักษิณ และมวลชนส่วนใหญ่ที่ร่วมเคลื่อนไหวก็เป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ในระหว่างการเคลื่อนไหว เมือวันที่ 30 มี.ค.50 มีการนำเอกสารมาแจกจ่ายให้ลงชื่อถวายฎีกาปลด พล.อ.เปรม ออกจากตำแหน่งประธานองคมนตรี ให้ได้ 100,000 รายชื่อ รวมทั้งเปิดเว็บไซต์ให้ลงชื่อผ่านอินเทอร์เน็ต โดยเครือข่ายเหล่านี้ อยู่ใน นปก.ทั้งหมด ตัวละครต่างๆ จึงเชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะในวันนี้ที่มีการให้กำลังใจนายโชติศักดิ์
** เหน็บ “จักรภพ” อ้างไม่ชอบศักดินาแต่ทำตัวเป็นเสียเอง
อย่างไรก็ตาม นายปานเทพ ตั้งข้อสังเกตว่า กรณีที่นายจักรภพเคยบอกว่า ไม่เห็นด้วยกับศักดินา ซึ่งหมายถึงคนที่ทำตัวอยู่เหนือกว่าคนอื่น เป็นอภิสิทธิชน และบอกว่าตนไม่ยอมรับระบบอุปถัมภ์ ที่ผู้น้อยต้องเอาชีวิตไปเอื้อผู้ใหญ่ และเคยไปแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.อ.เปรม ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น แต่เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา นายจักรภพกลับบอกว่า พล.อ.เปรมเป็นบุคคลที่สูงส่ง ต่อจากนั้นวันที่ 19 เม.ย.นายจักรภพเดินทางไปประชุมวิทยุชุมชนที่ขอนแก่น ก็ได้ให้นายทรงพล จำปาพันธุ์ รองผู้ว่าฯ ขอนแก่น และนายธีรพงษ์ โสดาศรี ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์เขต 1 ที่มีอายุมากกว่า มารดน้ำดำหัวขอพรและมอบมาลัย แถมยังถูกนักศึกษาประท้วงเพราะมีข่าวว่าทีมงานได้สั่งให้ศูนย์ประชาสัมพันธ์เขต 1 จัดรถเบนซ์ไปรับนายจักรภพเท่านั้น
ผู้ดำเนินรายการ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่นายโชติศักดิ์ไปสร้างประเด็นตอนไปรับทราบข้อกล่าวหา เหตุการณ์ที่มีคนไปยื่นถวายฎีกาคัดค้าน พล.อ.สุรยุทธ์ ทั้งที่เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ เมื่อประมวลรวมเข้ากับยุทธศาสตร์ของ นปก.ที่เคยประกาศไว้ว่าจะ คว่ำ-ล้ม-โค่น คือคว่ำรัฐธรรมนูญ 2550 ล้ม คมช.และผลิตผลทั้งหมดของ คมช. โค่นระบอบอำมาตยาธิปไตยที่มี พล.อ.เปรมเป็นตัวแทน ทำให้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นกระบวนการใช่หรือไม่
**จี้ “หมัก” อย่ามัวรอรายงาน
สำหรับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีที่อ้างว่าตัวเองมีเลือดสีน้ำเงิน วันนี้มาอยู่ในกลุ่มที่แวดล้อมด้วย นปก. นายสมัครควรจะทำตัวอย่างไร นายสมัครเองในฐานะ รมว.กลาโหม ได้ประกาศนโยบายข้อที่ 1 ว่า จะพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสมพระเกียรติ ทั้งในฐานะองค์พระประมุข และจอมทัพไทย เพราะฉะนั้นนายสมัครต้องทำอะไรซักอย่าง ไม่ใช่มาบอกว่าไม่รู้ รอคนรายงาน หรือบอกว่ามีคนอื่นทำหน้าที่อยู่แล้ว
ผู้ดำเนินรายการ กล่าวต่อว่า ในวันที่ไปรับทราบข้อกล่าวหานั้น นายโชติศักดิ์ยังได้เขียนแถลงการณ์เรียกร้องให้ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ว่าด้วยควงามผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ และองค์รัชทายาทอีกด้วย
ขณะเดียวกัน รัฐบาลชุดนี้ก็มีการกระทำหลายกรณีที่หมิ่นเหม่ เช่น การโยกย้ายข้าราชการโดยไม่รอพระบรมราชโองการ กรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ที่ไม่รอให้มีพระบรมราชโองการพ้นจากตำแหน่งก่อนแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ การย้าย พล.ท.ศิรพงศ์ บุญพัฒน์ ออกจากตำแหน่ง เลขาธิการ สมช. และแต่งตั้ง พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา จากเตรียมทหารรุ่น 10 ขึ้นมาแทน แม้ว่าจะยังไม่มีพระบรมราชโอกงฯ แต่วันนี้ พล.ท.สุรพล ก็ปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว นายสมัครแก้ไขอะไรหรือไม่
** “สนธิ” ชี้สถานการณ์ใกล้แตกหัก
ด้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและเอเอสทีวี และ 1 ในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โทรศัพท์เข้าแสดงความคิดเห็นในรายการว่า ถ้ามองภาพรวมแบบป่าทั้งป่า จะพบว่านี่คือยุทธศาสตร์ที่จะเข้าสู่ขั้นแตกหัก เป็นยุทธศาสตร์ 3 ประสาน คือกลุ่มไม่เอาศักดินา ประสานกับกลุ่มของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับ พล.อ.เปรม เห็นได้ชัดเจนว่าตอนที่กลุ่ม นปก.ออกมาเคลื่อนไหวนั้นต้องการดิ้นรนเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา ส่วนพวกไม่เอาศักดินานั้นเป็นพวกซ้ายเก่าอกหัก ที่มาเป็นที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ คนพวกนี้จะใช้ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อล้มศักดินา โดยมองว่า ทุนสามานย์ดีกว่าศักดินาล้าหลัง โดยที่พวกเขาไม่เข้าใจว่าศักดินาไทยนั้นก้าวหน้า ไม่ได้ล้าหลังแบบเนปาล
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ในช่วง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ 4-5 ปีนั้น มีกระบวนการโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างหนาแน่น พวกนี้พยายามดึงเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นสู่สากล ป้ายที่นายโชติศักดิ์เขียนเป็นภาษอังกฤษนั้นเจตนาก็เพื่อยกเรื่องนี้ขึ้นสู่สากลเพื่อจะบอกว่าศักดินาไทยล้าหลัง แล้วการเรียกร้องให้เลิกมาตรา 112 ถือว่า คนพวกนี้น่าสงสาร เขาไม่รู้ความเป็นมาของสังคมไทย น่าสงสารพ่อแม่เขาที่เข้ามาพึ่งพระมหากรุณาธิคุณ แล้วถ้าลูกของเขาไม่เข้าใจบทบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็เป็นเรื่องที่น่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง
นายสนธิ กล่าวต่อว่า การรุกของ 3 ประสานนั้น กระบวนการของนายโชติศักดิ์และพวกที่ไปยื่นถวายฎีกาเป็นส่วนหนึ่ง ประสานกับช่วงนี้ที่พรรคพลังประชาชนกำลังเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งก็ประสานเอามวลชนไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณที่ภาคอีสาน ซึ่งเป็นพวกสายเหยี่ยว คนพวกนี้ไม่มีอุดมการณ์ มองแค่ว่า พล.อ.เปรมเป็นอุปสรรคของตัวเองก็คิดจะล้ม พล.อ.เปรม
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ตนเป็นคนแรกๆ ที่ฉีกหน้ากาก พล.อ.สุรยุทธ์ จนพันธมิตรต่อว่า แต่ถึงไม่ชอบแค่ไหน เมื่อเป็นพระราชอำนาจของพระองค์ท่านที่จะทรงแต่งตั้งเป็นองคมนตรี ตนก็หยุดวิพากษ์วิจารณ์
นายสนธิย้ำว่า สถานการณ์แตกหักกำลังใกล้เข้ามา ทุกอย่างกำลังเร่ง พรรคพลังประชาชนเร่งสถานการณ์ทางการเมือง พวกโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ก็เร่ง และทำให้สถาบันอยู่ในภาวะอันตรายอย่างมาก นายสมัครทำไมไม่ตื่นเต้นอะไรเลย ไม่เห็นไม่ทราบอะไรทั้งสิ้น คนที่มีเลือดสีนำเงินหรือจงรักภักดีอย่างแท้จริง เพียงรู้เรื่องพวกนี้ก็ต้องอยู่ไม่เป็นสุขแล้ว แต่ทั้งนี้ ก็มองได้ว่านายสมัครนั้นแม้จะมีความจงรักภักดีแต่ก็ถูกตั้งมาเป็นนายกฯ เพื่อที่จะทำลาย พล.อ.เปรมเพราะมีความหลังที่ฝังใจอยู่
“เมื่อมองป่าทั้งป่า สถานการณ์กำลังเร่ง การโจมตีสถาบันฯ มีปริมาณมากขึ้นเพื่อให้ก้าวไปสู่สากลทีละนิดๆ ขณะเดียวกันพวกเขาก็ใช้รากหญ้าที่ตัวเองซื้อไว้ สร้างภาพว่ายังชื่อชอบ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ จุดแตกหักใกล้จะมาถึงแล้ว” นายสนธิกล่าว
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 1
( 56 k ) | ( 256 K )
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิป
รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ช่วงที่ 2
( 56 k ) | ( 256 K )