ฝ่ายค้านสรุปแก้ รธน.แค่ “รักษาชีวิต-ทรัพย์สิน-อำนาจแม้ว”

วิปฝ่ายค้าน ฟันธง “พลังแม้ว” แก้รัฐธรรมนูญเพื่อเป้าหมาย 3 ประการ คือ ทำเพื่อรักษาชีวิต-ทรัพย์สิน-อำนาจของทักษิณ เท่านั้น เตรียมตั้งเวทีสาธารณะเปิดโปงเร็วๆ นี้ วัดใจ “เพ็ญทีวี” ไฟเขียวถ่ายทอดสด

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ให้สัมภาษณ์

วันนี้ (22 เม.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุมวิปฝ่ายค้านได้หยิบยกการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นการแก้ไขเพื่อตนเอง และแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลยังสะท้อนให้เห็นความไม่ชัดเจน และความไม่ชอบธรรมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีเป้าหมายที่แท้จริงในการแก้ไขเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

นายสาทิตย์ กล่าวว่า วิปฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีเป้าหมาย คือ 1.เป็นการแก้ไขเพื่อรักษาชีวิตของอดีตนายกรัฐมนตรี โดยจะเห็นว่ามีการโยกย้ายข้าราชการตำรวจและข้าราชการฝ่ายปกครองอย่างผิดปกติ เพื่อรองรับการเดินสายลงพื้นที่ทั่วประเทศ 2.เพื่อรักษาทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเห็นว่า วาระของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) จะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน โดยจะมีการโอนเรื่องสอบสวนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในเดือนกรกฏาคม จึงสอดรับกับกรอบเวลาที่พรรคพลังประชาชนกำหนดไว้ว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน เพื่อที่จะแก้ไของค์กรอิสระอย่าง กกต., ป.ป.ช.และศาลรัฐธรรมนูญ

ส่วนประเด็นที่ 3 เป็นการรักษาอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นการปูทางเพื่อเข้าสู่อำนาจใหม่ ดังนั้น วิปฝ่ายค้านจึงกังวลว่าจะนำไปสู่สถานการณ์ที่ขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น แทนที่รัฐบาลจะสนใจวิกฤตของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าวยากหมากแพง วิกฤตของน้ำรัฐบาลกลับไปสนใจแก้ปัญหาวิกฤตส่วนตัวมากกว่า อย่างไรก็ตาม หากพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาลยังดึงดันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเกิดปัญหาข้อกฎหมาย ซึ่งในมาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญกำหนดรัฐสภาให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ แต่หากจะแก้ไขทั้งฉบับต้องดำเนินการอีกแนวทางหนึ่ง โดยต้องให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม รวมทั้งต้องมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ดังนั้น เรื่องนี้จึงต้องมีปัญหาเกิดขึ้น

ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า นอกจากนี้ หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมบานปลายมากยิ่งขึ้น โดยเห็นจากกรณีที่ตุลาการได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอำนาจตุลาการระแวงอำนาจบริหารจะเข้ามาแทรกแซงการทำหน้าที่ จึงเกรงว่าจะมีการขยายความขัดแย้งที่บานปลายและไม่ทราบจุดจบ

นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า ในต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ฝ่ายค้านจะเปิดเวทีสาธารณะเพื่อหาทางออกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงานยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชาชน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ฝ่ายค้าน อดีต ส.ส.ร.และผู้ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาร่วมประชุมแสดงความเห็น โดยวิปฝ่ายค้านจะขอความร่วมมือจากนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีถ่ายทอดการสัมมนาด้วย