รองหน.พรรคชาติไทย ระบุสมาชิกไม่ระส่ำต่อมติกกต. แจงขั้นตอนยังอีกนาน ชี้ไม่กระทบต่อการดำรงตำแหน่งรมต. พร้อมมั่นใจในพยานหลักฐานหากเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาลรธน.
วันนี้ (12 เม.ย.) นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวภายหลังกกต.มีมติยุบพรรค เรื่องนี้ต้องขอทำความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชนก่อนว่า กกต.ไม่มีสิทธิที่จะสั่งยุบพรรคการเมืองได้ เพราะมีคนโทรศัพท์มาสอบถามที่ตนมากมาย กกต.สามารถทำได้เพียงมีมตินำผลสรุปของที่ประชุม กกต. ส่งให้อัยการเพื่อดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน คือ ทางอัยการต้องพิจารณาว่าจะยื่นคำร้องต่อศาบรัฐธรรมนูญหรือไม่ ภายในกรอบเวลา 30 วัน ซึ่งจะมีทางออกได้ 3 ทาง คือ 1.ถ้าทางอัยการมีความเห็นว่าไม่สมควรยื่นคำร้องก็ต้องตั้งคระกรรมการร่วม 2 ฝ่ายระหว่างตัวแทนของสำนักงานอัยการสูงสุดและนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งในกรณีนี้หากคระกรรมการร่วม 2 ฝ่ายยังยืนยันว่ามีความเห็นต่างกัน คือทางอัยการสูงสุดมีความเห็นไม่ควรยื่นร้องต่อศาล แต่ทางนายทะเบียนพรรคการเมืองยืนยันว่าสมควรยื่นต่อศาล ท้ายที่สุดตัวนายทะเบียนพรรคการเมืองจะเป็นผู้ดำเนินการยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเอง
2. ถ้าอัยการสูงสุดมีความเห็นสมควรยื่นคำร้องฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เราก็ไปว่าต่อกันที่ศาลตามกระบวนการไต่สวน และ 3. หรือถ้าทางอัยการสูงสุดมีความเห็นว่ายังขาดหลักฐาน พยาน ไม่เพียงพอ ก็สามารถที่จะขอข้อมูลหรือทำการสอบเพิ่มเติมได้ โดยทางอัยการเป็นผู้ดำเนินการเองได้
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ทางพรรคเองเราเคยวิเคราะห์มาแล้ว ว่าต้องออกมาแนวนี้ ขณะนี้จึงทำได้เพียงรอเวลาให้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้พิจารณาว่าจะมีความเห็นอย่างไร เราก็ว่าไปตามขั้นตอน ยืนยันว่า สมาชิกพรรคชาติไทยไม่ระส่ำกับข่าวนี้ และไม่มีผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในส่วนของพรรคชาติไทย
“ผมยังยืนยันว่าถ้าเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างนี้ เรามั่นใจในหลักฐาน เอกสาร พยานข้อเท็จจริงที่จะใช้ต่อสู้ในชั้นการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ จะดีกว่าในชั้นของ กกต.ที่ใช้แค่ เชื่อๆได้ว่า” นายสมศักดิ์ กล่าว