กก.สรรหาตุลาการศาลรธน. เตรียมโหวตเลือก 4 ผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อในสายนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ วันนี้ ส่วนสายศาลฎีกานัดประชุมใหญ่คัดเลือก 4 เม.ย.นี้ ขณะที่สายศาลปกครองรอเวลาให้สายอื่นคัดเสร็จก่อน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุม คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรม โดยมี นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้รับทราบการแจ้งการตรวจคุณสมบัติจากหน่วยงานของผู้ที่เข้ารับการสรรหา และกรรมการได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ซึ่งในวันนี้ (25 มี.ค.) จะมีการลงมติเลือกผู้ได้รับการเสนอชื่อสายนิติศาสตร์ และสายรัฐศาสตร์ ให้เหลือ 4 คน จากที่ขณะนี้เหลือ 21 คนโดยนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ได้ถอนตัวไป ซึ่งแม้นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานรัฐสภาไม่สามารถมาร่วมพิจารณาได้ ก็ไม่มีปัญหา เพราะรัฐธรรมนูญระบุไว้แล้วว่า หากมีกรรมการสรรหาฯปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ให้ที่เหลืออยู่หากเกินครึ่ง ก็ปฏิบัติหน้าที่ได้ และต้องใช้มติ 2 ใน 3 ของที่เหลืออยู่ ซึ่งก็คือ 3 คะแนน
"คณะกรรมการสรรหาฯเปิดกว้างรับฟังทุกฝ่าย โดยตัวผู้เข้ารับการสรรหาได้เขียนประวัติมาโดยละเอียด และส่วนใหญ่ให้หน่วยงานที่เคยสังกัดเขียนมารับรองด้วย ประกอบกับมีข้อสังเกตในเชิงข้อกฎหมาย และคณะกรรมการสรรหาฯยังได้สอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้แจ้งข้อสังเกตมา อีกทั้งยังเปิดรับฟังความคิดเห็น ก็จะมีคนที่เขียนมา อาจจะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยกับบุคคลนั้นบุคคลนี้ ก็เอามารวมกัน แล้ววันนี้ได้ตรวจสอบข้อมูล พรุ่งนี้ คิดว่าพร้อมที่จะลงมติ คิดว่า ข้อมูลเพียงพอที่จะตัดสินใจแล้ว โดยไม่ต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ กรรมการสรรหาฯ อยากได้คนที่มาทำหน้าที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาชี้ขาดประเด็นว่า ประเด็นไหนชอบหรือไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตามอำนาจหน้าที่ ไม่ใช่ตำแหน่งลักษณะบริหาร แต่เป็นตำแหน่งที่ต้องใช้คนที่มีความรู้ความสามารถ ที่จะเข้ามาวินิจฉัยในเรื่องที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องวินิจฉัย ไม่ใช่ประเด็นเรื่องการบริหาร
ด้าน นายอนันต์ วงษ์ประภารัตน์ เลขานุการศาลฎีกา กล่าวถึงการสรรหาผู้พิพากษาศาลฎีกา 3 คน เพื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า จะมีการประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพื่อลงคะแนนเลือกผู้พิพากษาซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฎีกา เสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 4 เม.ย.นี้ เวลา 09.30 น. โดยการสรรหานั้น หากผู้พิพากษาศาลฎีกาคนใดไม่ประสงค์ที่จะรับเลือกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็ให้ยื่นหนังสือแสดงความจำนง ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันก่อนนัดประชุมลงคะแนนเลือก เพื่อเสนอต่อ นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา ที่จะนำไปแจ้งให้ที่ประชุมใหญ่ทราบก่อนทำการลงคะแนน แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้พิพากษารายใด แสดงความจำนงไม่ขอคัดเลือกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ขณะที่แหล่งข่าวจากศาลปกครอง กล่าวถึงการสรรหาตุลาการในศาลปกครองสูงสุด 2 คน เพื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ยังไม่ได้กำหนดวันประชุมใหญ่ ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ที่ขณะนี้มีอยู่ทั้งสิ้น 17 คน โดยประธานศาลปกครองสูงสุด จะรอให้คณะกรรมการสรรหาฯ ที่มีนายวิรัช ลิ้มวิชัย เป็นประธาน ได้สรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ สาขานิติศาสตร์ 2 คน และผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ 2 คน ให้ได้ก่อน จากนั้นจึงจะเรียกประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด เพื่อลงคะแนนลับเลือกตุลาการในศาลปกครองพร้อมสอบถามความสมัครใจตุลาการที่ได้รับเลือกไปเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าศาลปกครอง น่าจะเรียกประชุมใหญ่ได้ภายในเร็วๆนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการประชุม คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรม โดยมี นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้รับทราบการแจ้งการตรวจคุณสมบัติจากหน่วยงานของผู้ที่เข้ารับการสรรหา และกรรมการได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ซึ่งในวันนี้ (25 มี.ค.) จะมีการลงมติเลือกผู้ได้รับการเสนอชื่อสายนิติศาสตร์ และสายรัฐศาสตร์ ให้เหลือ 4 คน จากที่ขณะนี้เหลือ 21 คนโดยนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ได้ถอนตัวไป ซึ่งแม้นายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานรัฐสภาไม่สามารถมาร่วมพิจารณาได้ ก็ไม่มีปัญหา เพราะรัฐธรรมนูญระบุไว้แล้วว่า หากมีกรรมการสรรหาฯปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ให้ที่เหลืออยู่หากเกินครึ่ง ก็ปฏิบัติหน้าที่ได้ และต้องใช้มติ 2 ใน 3 ของที่เหลืออยู่ ซึ่งก็คือ 3 คะแนน
"คณะกรรมการสรรหาฯเปิดกว้างรับฟังทุกฝ่าย โดยตัวผู้เข้ารับการสรรหาได้เขียนประวัติมาโดยละเอียด และส่วนใหญ่ให้หน่วยงานที่เคยสังกัดเขียนมารับรองด้วย ประกอบกับมีข้อสังเกตในเชิงข้อกฎหมาย และคณะกรรมการสรรหาฯยังได้สอบถามไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้แจ้งข้อสังเกตมา อีกทั้งยังเปิดรับฟังความคิดเห็น ก็จะมีคนที่เขียนมา อาจจะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยกับบุคคลนั้นบุคคลนี้ ก็เอามารวมกัน แล้ววันนี้ได้ตรวจสอบข้อมูล พรุ่งนี้ คิดว่าพร้อมที่จะลงมติ คิดว่า ข้อมูลเพียงพอที่จะตัดสินใจแล้ว โดยไม่ต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ กรรมการสรรหาฯ อยากได้คนที่มาทำหน้าที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาชี้ขาดประเด็นว่า ประเด็นไหนชอบหรือไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตามอำนาจหน้าที่ ไม่ใช่ตำแหน่งลักษณะบริหาร แต่เป็นตำแหน่งที่ต้องใช้คนที่มีความรู้ความสามารถ ที่จะเข้ามาวินิจฉัยในเรื่องที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องวินิจฉัย ไม่ใช่ประเด็นเรื่องการบริหาร
ด้าน นายอนันต์ วงษ์ประภารัตน์ เลขานุการศาลฎีกา กล่าวถึงการสรรหาผู้พิพากษาศาลฎีกา 3 คน เพื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า จะมีการประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพื่อลงคะแนนเลือกผู้พิพากษาซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฎีกา เสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 4 เม.ย.นี้ เวลา 09.30 น. โดยการสรรหานั้น หากผู้พิพากษาศาลฎีกาคนใดไม่ประสงค์ที่จะรับเลือกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็ให้ยื่นหนังสือแสดงความจำนง ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันก่อนนัดประชุมลงคะแนนเลือก เพื่อเสนอต่อ นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา ที่จะนำไปแจ้งให้ที่ประชุมใหญ่ทราบก่อนทำการลงคะแนน แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้พิพากษารายใด แสดงความจำนงไม่ขอคัดเลือกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ขณะที่แหล่งข่าวจากศาลปกครอง กล่าวถึงการสรรหาตุลาการในศาลปกครองสูงสุด 2 คน เพื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ยังไม่ได้กำหนดวันประชุมใหญ่ ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ที่ขณะนี้มีอยู่ทั้งสิ้น 17 คน โดยประธานศาลปกครองสูงสุด จะรอให้คณะกรรมการสรรหาฯ ที่มีนายวิรัช ลิ้มวิชัย เป็นประธาน ได้สรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ สาขานิติศาสตร์ 2 คน และผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์ 2 คน ให้ได้ก่อน จากนั้นจึงจะเรียกประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด เพื่อลงคะแนนลับเลือกตุลาการในศาลปกครองพร้อมสอบถามความสมัครใจตุลาการที่ได้รับเลือกไปเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าศาลปกครอง น่าจะเรียกประชุมใหญ่ได้ภายในเร็วๆนี้