ป.ป.ช.จี้ถามสปิริต “ไชยา” ย้อนคดีซุกหุ้นยุค “แม้ว”

ป.ป.ช.จี้ถามสปิริต “ไชยา” ไม่ลาออก ย้อนคดีบกพร่องโดยสุจริตยุคแม้วซุกหุ้น ด้าน “วีระ” อัด เลิกตะแบง รัฐธรรมนูญใหญ่กว่ากฎหมายลูก หวังยื้อเพื่อถอนทุน

วันนี้ (10 เม.ย.) นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยว่า ประธาน ป.ป.ช.ได้ลงนามในหนังสือเพื่อแจ้งต่อ 4 องค์กร คือ นายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้พิจารณาเรื่องความสิ้นสุดการเป็นรัฐมนตรีตามขั้นตอนต่อไป เชื่อว่า ขณะนี้หนังสือดังกล่าวอยู่ระหว่างการเดินทาง ขอยืนยันว่า ที่ต้องส่งให้ 4องค์กร เพราะ ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจที่จะไปวินิจฉัย ประเด็นการขาดคุณสมบัติของรัฐมนตรี และเรื่องนี้การขาดคุณสมบัติไม่เกี่ยวกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ หากเกี่ยวบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ป.ป.ช.สามารถวินิจฉัยชี้มูลเองได้ และส่งให้ศาลดำเนินการทางคดีอาญาต่อไป

นายกล้านรงค์ ชี้แจงว่า นายไชยา ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน ทั้งของตัวเองและภรรยา มาครบเรียบร้อย ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ 30 วัน หลังจากรับตำแหน่ง เพียงแต่ไม่ได้แจ้งขอรับประโยชน์จากหุ้นของภรรยา จึงได้แจ้งย้อนกลับมาในภายหลัง ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการแจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ หาก นายไชยา ลาออก ก็ถือว่าสิ้นสุดการเป็นรัฐมนตรี ส่วนข้อสงสัยว่าจะโดนคดีอาญาตามมาหรือไม่นั้น ก็ยังไม่เห็นว่าจะต้องโดนคดีอาญาอะไรตามมาเลย การลาออกก็ถือว่าการเป็นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสิ้นสุดลง

ส่วนในประเด็นที่ นายไชยา ยืนยันว่า ตัวเองยื่นตามกฎหมายลูกรัฐธรรมนูญปี 2540 นายกล้านรงค์ กล่าวว่า ไม่ขอตอบโต้ประเด็นที่ นายไชยา ระบุ และการให้ข่าวของตนก็ไม่ได้ต้องการออกมาตอบโต้อะไร

ด้าน นายสุพจน์ ฤชุพันธุ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ News Hour ช่องเอเอสทีวี ว่า ได้สอบถาม นายไชยา ตอนเช้าว่าจะลาออกเหรอ ตนคุยกับ นายไชยา เรื่องนี้มาตลอด ท่านไชยา บอกว่า ต้องสู้เพื่อให้พิสูจน์ว่า การที่เราอยู่ตรงนี้เราอยู่ด้วยความถูกต้อง ถ้าถามว่าวันนี้ท่านลาออกไป ความเห็นของ ป.ป.ช.จะยุติเลย จะไม่มีใครขึ้นมาพิสูจน์เลยว่าจริงๆ แล้ว ถูกหรือผิด

“ป.ป.ช.ไปหยิบเอา 30 วัน ที่คุณไชยา เดินทางไปพบ ป.ป.ช.ว่าเกิน มาเป็นจุดชี้ขาด แต่ ป.ป.ช.ไม่ได้ดูว่า จริงๆ แล้วกฎหมายลูกบัญญัติถึงจำนวนของคู่สมรสของคุณไชยาไว้หรือเปล่า เมื่อไม่กำหนดก็ไม่สามารถบังคับใช้กับคู่สมรสของคุณไชยาไม่ได้อยู่แล้ว ไปหยิบแค่เวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เท่านั้นเอง มันก็ไม่เป็นธรรม” นายสุพจน์ กล่าว

ในขณะที่ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชาชนต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า กระบวนการที่ยื่นไปทั้งสี่องค์กรขณะนี้กำลังเดินไปตามกระบวนการ และประเด็นของนายไชยา ก็จะเป็นเรื่องพิสูจน์น้ำยาของนายสมัคร ซึ่งตนคิดว่าไม่ช้าเรื่องทุกอย่างก็จะไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ

เขาระบุว่า แม้ นายไชยา จะอ้างเรื่องความไม่ชัดเจนกฎหมายลูกก็ไม่เป็นผล เพราะมาตรา 269 ระบุไว้ชัดเจนมีผลบังคับใช้ และรัฐธรรมนูญก็ใหญ่กว่ากฎหมายลูก แม้ว่ากฎหมายลูกยังไม่ชัดเจนก็ต้องถือแนวปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ

“เขาก็คงพยายามยื้อไปเรื่อยๆ ก่อน เพราะลงทุนไปเยอะ และก็มีสัญญาใจกับทักษิณกันไว้ ในเรื่องการช่วยดูแลการเลือกตั้ง เป็นเรื่องของต่างตอบแทน อยู่แค่สองเดือนจะออกไปง่ายๆ ได้อย่างไร แล้วนี้จะมาต่อรองตำแหน่งให้พี่ชายนั่งต่ออีก ผมอยากถามว่ามีสิทธิ์อะไรมาจองตำแหน่งกันแบบนี้” นายวีระ กล่าว