“กมล บันไดเพชร” มือกฎหมาย รมว.สาธารณสุข อ้าง"ไชยา"ยังไม่ควรแสดงสปิริต หวั่นโดนครหาลาออกหนีความผิด และการแสดงสปิริตของผู้บริหารบ้านเมือง ทำประเทศเสียคนเก่งและดีมามากแล้ว – ด้านเลขาฯแพทย์ชนบทชี้ ทู่ซี้!ไม่ลาออก มีแต่คนมองว่า “ไม่มีศักดิ์ศรี”
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ คมชัดลึก
ต่อกรณีที่นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ได้ถูก ป.ป.ช. ชี้ว่าขาดคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรีเนื่องจากไม่ได้มีการแจ้งเรื่องที่ภรรยาถือหุ้นเกิน 5% ซึ่งขัดต่อกฎหมาย จนมีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้นายไชยา ลาออกเพื่อเป็นการแสดงสปิริต
วันนี้ (9เม.ย.) ดร.ทิวา เงินยวง คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์ในรายการ คมชัดลึก ทางสถานีโทรทัศน์ เนชั่นแชนแนล เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ถ้าหากตนเป็นนายไชยา ตอนนี้ก็คงจะลาออกทันที เนื่องจากตามกฎหมายแล้วก็เขียนไว้อย่างชัดเจน ถึงแม้จะมองว่าหุ้นดังกล่าวเป็นเงินเพียง 2.5 ล้าน ไม่น่าจะมองได้ว่าเป็นการปกปิดหรือทำให้เสียหายมากมาย แต่เราก็ต้องมองว่ากฎหมายใช้กับทุกคนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน เช่นขโมยเงินแค่ 50 บาท กับ 10,000 บาทความผิดมันก็เท่ากันคือการขโมย ส่วนที่มีการอ้างว่าไม่เข้าใจข้อกฎหมายนั้น ก่อนยื่นบัญชีทรัพย์สิน ก็ได้มีเลขาธิการ ป.ป.ช. ไปชี้แจงกับรัฐมนตรีทุกคนแล้ว จึงไม่สามารถอ้างได้ว่าเป็นการลืม แต่หากนายไชยา ยังยืนยันว่าตีความกฎหมายกันคนละอย่างก็คงต้องใช้กระบวนการศาลพิจารณาต่อไป
ดร.ทิวากล่าวต่อว่า อยากจะยกตัวอย่างเมื่อครั้งรัฐมนตรี 5 คน สมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ถือหุ้นเกิน 5% ซึ่งในครั้งนั้น ป.ป.ช. ยังไม่ได้มีการรายงานข้อเท็จจริง ออกต่อสาธารณชนด้วยซ้ำ เพียงแต่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า มีรัฐมนตรีถือหุ้นเกิน 5% รัฐมนตรีทั้ง 5 คนก็ลาออกเลยไม่เหมือนคราวนี้ที่ ป.ป.ช.มีการรายงานข้อเท็จจริง ส่งรัฐมนตรีไปแล้วว่าด้วยซ้ำ ว่าขาดคุณสมบัติของการเป็นรัฐมนตรี
“เรื่องลาออกหรือไม่นั้น ผมไปวิจารณ์ไม่ได้ แต่ผมคิดว่ามาตรฐานทางด้านจริยธรรมนั้นต่างกัน แต่วันนี้เราน่าจะสร้างมาตรฐานจารีต วัฒนธรรมอันดีงามของนักการเมืองเพิ่มขึ้นมา”ดร.ทิวากล่าว
ด้าน นพ.พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ เลขาธิการแพทย์ชนบท กล่าวว่า คนที่อยู่ในระดับผู้บริหารประเทศจะมาอ้างว่าไม่เข้าใจกฎหมายนั้นเป็นเรื่องที่ฟังไม่ขึ้น เพราะหากเป็นถึงรัฐมนตรี แต่มาอ้างว่าไม่เข้าใจข้อกฎหมาย เราจะมั่นใจในความสามารถของนายไชยา ได้อย่างไร และตนคิดว่าถึงแม้นายไชยาจะยังไม่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ผมเชื่อว่าสังคม ก็คิดว่านายไชยาได้สิ้นความเป็นรัฐมนตรีไปแล้ว เพราะ ป.ป.ช. ก็ชี้แจงรายงานออกมาแล้วว่าขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้อยู่ต่อ ก็เหมือนเป็นการทำให้ศักดิ์ศรีและชื่อเสียงของตัวเองลดลง เป็นการได้ไม่คุ้มเสีย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของจริยธรรมของนักการเมือง
“ส่วนกรณีที่มีคนมองว่าทางชมรมแพทย์ชนบทไม่ชอบกันเป็นส่วนตัวหรือไม่ ถึงออกมาหนุนให้ คุณไชยา ลาออกนั้น ผมขอยืนยันว่าทางชมรมไม่ได้มีความรู้สึกไม่ชอบคุณไชยาเป็นการส่วนตัว เพียงแต่เราไม่ชอบเรื่องแนวคิด นโยบายการพัฒนางานด้านสาธารณสุข ของคุณไชยา ที่มีมาตั้งแต่เรื่องการทบทวนการทำสิทธิเหนือสิทธิบัตรยา (ซีแอล) การที่คุณไชยา สนับสนุนให้มีการโฆษณาเหล้าเบียร์มากขึ้น รวมไปถึง การที่คุณไชยาพยายามสนับสนุนให้ ผับ-บาร์มีการการสูบบุหรี่ได้ ทั้งที่เราเพิ่งประกาศกฎห้ามสูบบุหรี่ในผับ-บาร์ มาได้ไม่ถึง 2 เดือน ทำให้เราไม่มั่นใจว่าคุณไชยา มีความคิดที่จะสนับสนุนในการสร้างเสริมสุขภาพจริงหรือเปล่า และในฐานะของคนทำงานด้านการแพทย์ การส่งเสริมสุขภาพจะมั่นใจและศรัทธาตัวรัฐมนตรีคนนี้ได้อย่างไร” นพ.พงษ์เทพ กล่าว
ด้านนายกมล บันไดเพชร ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ในฐานะที่ปรึกษาด้านกฎหมายของนายไชยา กล่าวว่า ประเด็นที่จะนำไปโต้แย้งก็คือ ข้อกฎหมายนั้นไม่ชัดเจน ซึ่งกฎหมายบอกว่าให้แจ้งการถือหุ้นของคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะนั้นจะต้องแจ้งให้ทราบ แต่ไม่ได้บอกเอาไว้ว่ารัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้แจ้ง หรือภรรยาเป็นผู้แจ้ง และอีกประเด็นก็คือรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่ารัฐมนตรีห้ามถือหุ้นเกิน 5% แต่กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญกลับไม่มีบอกไว้ว่า ภรรยาห้ามถือเกิน 5% ด้วย กรณีนี้จึงมองได้ว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิด แต่เป็นเพียงการเข้าใจในข้อกฎหมายที่แตกต่างกัน
นายกมลกล่าวต่อว่า หากนายไชยาตัดสินใจลาออกตอนนี้ ตนได้เสนอความคิดไปว่า หากลาออกตอนนี้บางคนอาจจะมองได้ว่า นายไชยาทำผิดจริงหรือ ถึงได้หนีโดยการตัดสินใจลาออก ทำให้เสียโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองว่าแท้จริงแล้วผิดหรือไม่ ซึ่งจากในกรณีที่คล้ายกันนี้ ในอดีตก็มีผู้บริหารของประเทศได้ลาออกไป เช่น 5 รัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลสุรยุทธ์ที่ถือหุ้นเกิน 5% แล้วลาออกด้วยสปิริต อย่างที่หลายคนเรียกร้องนั้น ทำให้ประเทศของเราต้องเสียบุคคลที่เก่ง และดีไปแล้วไม่รู้เท่าไหร่
ส่วนกรณีที่ างชมรมแพทย์ชนบท ออกมาบอกว่า นายไชยาทำหน้าที่ในด้านสาธารณสุขได้ไม่ดีหรือทำให้ทางชมรมแพทย์ชนบทไม่มั่นใจในความสามารถนั้น ตนมองว่า ทางชมรมแพทย์ชนบท ควรให้โอกาสคนให้มากกว่านี้ เพราะนายไชยา ยังทำงานได้ไม่ถึง 2 เดือน จะไปคาดการณ์ได้อย่างไรว่าไม่มีความสามารถ เหตุใดจึงรีบตัดสิน และหากไม่มีความสามารถจริง นายกฯ ก็คงไม่เอาไว้