“สมัคร” ตำหนิหมอดูนำชื่อตัวเองไปพัวพันกองทัพหวังปฏิวัติตัวเอง เย้ยหมอเดาอดีตทำนายผิดจนหน้าแหกมาแล้ว ไม่วายแว้งกัดสื่องมงายไม่เข้าท่าชอบประโคมข่าวกันเอิกเกริก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการสนทนาประสาสมัคร
วันนี้ (6 เม.ย.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวผ่านรายการสนทนาประสาสมัคร เนื่องในวันจักรีจึงได้ย้อนรำลึกถึงพระราชกรณียกิจในพระบรมราชจักรีวงศ์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลปัจจุบัน รวมครองสิริราชสมบัติ 226 ปี สำหรับพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ถือว่าครองราชย์ยาวนานที่สุดถึง 62 ปี และมีสายพระเนตรยาวไกลที่คำนึงเรื่องน้ำเป็นหลัก ทรงมีพระราชดำริสร้างเขื่อนต่างๆ ทำให้ประเทศชาติและประชาชนมีน้ำใช้ตลอดปี พระองค์ทรงงานหนัก ตลอดระยะเวลาที่พระองค์ทรงครองราชย์ วันนี้จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการออกอากาศมาถวายรายงานพระราชกรณียกิจเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน
นายสมัคร กล่าวว่า เวลานี้มีผู้ติชมแนะนำให้เอาผลการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและผลงานแต่ละกระทรวงมานำเสนอทุกวันอาทิตย์ ซึ่งตนไม่เห็นด้วย เพราะหากเป็นเช่นนั้นขอเปลี่ยนชื่อรายการเป็นรายงานการปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ไม่ดีกว่าหรือ
ช่วงท้ายนายสมัครยังได้กล่าวตำหนิหมอดูขาประจำที่ได้เอาชื่อนายกรัฐมนตรีไปพัวพันกับ ผบ.ทบ. และทำนายว่าจะร่วมมือกับทหารกระทำการปฏิวัติตัวเองว่าเป็นเรื่องประหลาดที่หมอดูคนนี้ชอบออกมาทำนายเรื่องการเมือง ในยามบ้านเมืองที่กำลังจะเข้าที่เข้าทางและหลายครั้งก็เคยทำนายว่านายสมัครไม่มีทางที่นายสมัครจะได้นั่งนายกรัฐมนตรี แล้วเป็นอย่างไร ขณะที่หนังสือพิมพ์ก็พาดหัวข่าวกันเอิกเกริก แต่ไม่อยากเอาความแต่ขอบ่นนิดบ่นตามประสา นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต หรือโหรคมช.ออกมาทำนายดวงเมืองว่า ข่าวเอิกเริกในหน้าหนังสือพิมพ์วันนี้ วันนั้น คนนี้ ยังงั้น ยังงี้ ก็ว่ากันไปเถอะ อย่างวันนี้คนก็บอกว่านายสมัครออกรายการต้องซัด แต่ตนบอกว่าไม่ เพราะคนอื่นพูด แถลงเยอะแล้ว อย่างไรก็ตามคนที่จะออกมาแถลงอะไรต่างๆควรจะต้องมีความคิด ซึ่งการเอาชื่อคนไปเกี่ยวพันพัวพัน เอาชื่อนายกรัฐมนตรีไปพัวพันกับทหารว่าจะทำการปฏิวัติตัวเอง
“ทำนายคนนั้นจะเป็นนายกฯ คนนี้ ผมว่าไอ้คนเป็นหมอดูควรจะคิดบ้าง ว่าที่พูดไปนั่นมันรุกล้ำกันเกินไปบ้างหรือเปล่า ไปเที่ยวกล่าวอย่างโง้นอย่างงี้ ผมว่าผมเสียหาย ที่ทำนายกันมาอย่างนี้ ผมเสียหายแต่ผมจะยกประโยชน์ให้”นายสมัคร กล่าวด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
นายสมัคร กล่าวตำหนิอย่างรุนแรงว่า ให้หมอดูไปนั่งคิดดูตัวเองซะก่อนหน่อยว่าที่พูดมานั้นเป็นยังไง “มันต้องการอะไร เป้าหมายเป็นยังไง หน้าที่หมอดูเขาต้องทำกันอย่างนี้เหรอ แล้วทำไมหมอดูคนอื่นทำไมเขาหุบปากอยู่เฉยๆ ทำไมหมอดูคนนี้ต้องมาเคลื่อนไหว ทำไมถึงต้องกำหนดยังงั้นอย่างงี้ ทำไมต้องออกข่าวทำพิธีต่อชะตายังโง้นยังงี้ มันเป็นยังไง คนบอกว่าไม่ไป มีคนไม่ไปครับ ชวนคนโน้นไปคนนี้ไปทำพิธี วันพรุ่งนี้วันที่ 7 เม.ย. เขาจะทำพิธี ผมบอกด้วยว่าแล้วถ้าใครไม่ไปก็ระวังไว้มั่ง”
นายสมัคร กล่าวอีกว่า “เป็นหมอดูประหลาดไหม หมอดูรายนี้ประหลาดจริงๆนะครับ ทีแรกโอ้โหยฟันธงไว้เลย ไม่ใช่หมอลักษณ์นะครับ โอ๊ยยืนยันคนนี้เลย นายคนนี้แหละครับที่บอกเลยหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกแน่นอน 100 % นายสมัครไม่มีทางเลย แล้วเป็นยังไงวันนี้ หมอคนที่พูดจาวันนี้เป็นยังไง ตกลงที่ทายไว้เป็นยังไง แล้วมาทายใหม่เนี่ยต้องการอะไร ไม่เข้าท่า”
นายสมัคร กล่าวต่อว่า หนังสือพิมพ์ก็มาประโคมกันเอิกเริกเหลือเกิน โอ้โหย เก่งกาจซะเหลือเกิน คนนี้มาทำเก่งกาจแล้วทำไมทายไม่ถูก ออกข่าวเป๊ะป๊ะเลย ทำไมทายไม่ถูกหละครับ แล้วคราวนี้จะให้ทำยังไง แล้วเขาต้องการอะไรถึงมาแถลงอย่างงี้
“ทำไมเอาคนอื่นเขาไปพัวพัน เอาผบ.ทบ.ไปพัวพัน เอาชื่อผมไปพัวพันผบ.ทบ. ไปบอกเขาว่าเขาจะเป็นนายกในวันข้างหน้า มันเอิกเริกขนาดนี้ต้องการอะไร ต้องการอะไรที่ทำอย่างนี้ ต้องการให้บ้านเมืองเป็นยังไง สื่อสารมวลชนทั้งหลายก็โอ้โหยประโคมกันโอ้โหเอิกเริก ยกย่องสรรเสริญกัน ก็มันทายผิดชัดๆ แต่ยังยกย่องสรรเสริญกันอยู่ได้ยังไง”นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอย่างฉุนเฉียวอีกว่า “หมอคนนี้ที่ทายเอิกเริก ทายผิดชัดๆ หมอไม่อายด้วย นี่มาทำอีกแล้ว จะเอาชื่อผมไปเกี่ยวข้องไปพัวพัน หาว่าผมเนี่ยคบกับทหารจะทำการปฏิวัติ ได้ยังไงครับ คนอย่างผมไปทำปฏิวัติได้ยังไงครับ หมอจะเป็นไอ้โหรคณะปฏิวัติก็เป็นไปเถอะ แต่ว่าอย่ามาทำพูดจาพัวพัน ไม่ได้หรอกครับ”
“ทำหน้าตาซีดเซียวให้สัมภาษณ์ ยังโง้นยังงี้ มันทำไมหละ คิดอะไรขึ้นมาหรือใครเขาวานให้ทำอะไรยังไง ไปรับจ้างใครเขาทำขึ้นมา เก่งขนาดไหนหละครับ แล้วเก่งแล้วทำไมทายผิด”นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวด้วยความไม่พอใจอย่างมากในการนำชื่อของตนไปพัวพันว่า “เอาชื่อผมไปพัวพันกับผบ.ทบ.เขา มันเรื่องอะไร ต้องการทำอะไร ต้องการทำให้เกิดความเสียหายยังไง ผมไปทำอะไรให้ แล้วบอกผมไม่ได้เป็นไง อภิสิทธิ์เป็นนายกแน่นอน100%ไง แล้วตอนนี้ทำไม ไหนลองตอบสิว่าคราวที่แล้วทำไมทายอย่างงั้นเพราะอะไร อายไหมอย่างนี้อายไหม ลงข่าวกันเอิกเริกใหญ่ มีการเชิญชวนให้ไปทำพิธี
“บอกเลยว่าถ้าผบ.ทบ.ถ้าไม่ไปแล้วก็ระวังนะครับ เอ๊ะ เขาบอกแล้วว่าเขาไม่ไปทำพิธีแล้วทำไมถึงบอกว่าเขาจะเป็นนายกวันข้างหน้า เอ๊ะทายอะไรกันยังไงกันแน่”นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวสรุปถึงคำตำหนิที่พูดมาทั้งหมดว่า “ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับ แต่ถ้าไม่พูดเสียเลยมันจะไม่สมกับรายการพูดจาประสาสมัคร พูดจาภาษาสมัครต้องพูดอย่างงี้ ต้องแสดงความเห็นอย่างนี้ ต้องเอากันให้ชัดเจนครับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายรายการนายสมัคร ได้กล่าวท้าทายหมอดูว่า “เอ๊า เก่งจริงลองช่วยทายสิครับว่า วันอาทิตย์หน้าผมจะมาออกอากาศได้หรือเปล่า ลองทายสิครับ เอาให้ถึงสิ้นเดือนนี้ ถ้าผมอยู่เกินจะว่าไง ถ้าเกินหมอไปแขวนตัวตายไหม แขวนคอตายไหม หรือว่าทำไม่ได้ ทำนายทำไมครับมันเกินเหตุ เกินหน้าที่ของหมอ บอกให้รู้ไว้เท่านั้นแหละครับ"
อนึ่ง เมื่อวันที่ 4 เม.ย.นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต ให้สัมภาษณ์ถึงดวงประเทศภายหลังการเข้ามาบริหารของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่าเรื่องทั้งหมดเกี่ยวข้องกับกระแสของโลก ส่วนกระแสบุญของนายสมัครขึ้นมาได้โดยอาศัยบุญจากผู้อื่นทำให้มีปัญหาอยู่เสมอ อีกทั้งกรรมของชาติบ้านเมืองยังไม่จบสิ้น ซึ่งจะให้ดีขึ้นต้องรอถึงปี 2552 จากนั้นบ้านเมืองจะค่อยๆ พักฟื้น และค่อยๆ ดีขึ้น ส่วนสาเหตุที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายนั้นมาจากฝ่ายในรัฐบาลเอง และกลุ่มกระแสข้างนอก คือ พวกที่สูญเสียผลประโยชน์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคง ที่สำคัญ คือ กรรมของแผ่นดินยังไม่หมด
เมื่อถามว่า ช่วงเปลี่ยนผ่านนี้จะมีปฏิวัติรัฐประหาร หรือเหตุนองเลือดหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า จะมีบุคคลที่จะเข้ามาประคองชาติบ้านเมือง ดูแล้วสีเขียวยังไม่หมด ยังต้องกลับเข้ามาดูแล แต่จะมาดูแลในลักษณะที่ไม่เหมือนกับการปฏิวัติที่ผ่านมา แต่เหมือนเข้ามาทำการปรับเปลี่ยน คล้ายกับการปฏิรูปต่อจากนี้จึงยังเป็นสีเขียวอยู่ เพราะมันเป็นเวลาของกลุ่มนี้ที่เขายังดูแลอยู่ ตนเคยบอกมาแล้วว่าถึงอย่างไรกลุ่มนี้ก็ยังไม่หลุดไป ยังต้องอยู่อีกหลายปี
“เป็นกลุ่มสีเขียวที่อยู่ในปัจจุบัน และกลุ่ม คมช.ด้วย คือยังเหมือนไม่หมดหน้าที่ ครั้งก่อนที่ทำก็เพื่อประคอง ไม่ได้ทำจริงๆ ผมบอกท่านสนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ แล้วว่าขึ้นไปทำปฏิวัติเถอะ เวลาปีเดียวไม่พอในการที่จะทำอะไรต่ออะไรให้เรียบร้อย เห็นหรือไม่ว่าพอขึ้นต้นไม่ทันไรก็ลงแล้ว คือทำตรงนั้นท่านต้องการยุติไม่ให้เกิดการประหัตประหาร ผมเห็นตั้งแต่แรกในช่วงเดือน ม.ค.2549 ว่าแผ่นดินจะเดือดร้อน จะวุ่นวาย คนจะประหัตประหารกัน และผมเห็นผู้นำรัฐบาลจะถูกปองร้าย ท่านสนธิก็ถามว่าถ้าอย่างนั้นมันไม่ยุ่งเหรอ แต่ผมเห็นท่านถือธงนำออกมา ดังนั้นจะต้องมีการปฏิวัติ ท่านก็ถามผมว่าใครจะปฏิวัติ ผมก็บอกว่าก็ท่านไง เพราะผมเห็นท่านถือธง ซึ่งมีความหมายว่าท่านคือผู้นำชัยมาสู่บ้านเมือง” นายวารินทร์ กล่าว
ส่วนคนที่จะปฏิรูปรอบใหม่เป็นกลุ่มคนในเครื่องแบบ หรือคนกลุ่มใหม่นั้น เจ้าของสำนักสุขิโต กล่าวว่า เป็นการปฏิรูปจากคนกลุ่มใหม่ และกลุ่มเก่าประคองกัน ซึ่งขณะนี้ไม่สามัคคีกัน ผนวกกับกรรมของแผ่นดินยังมี ดังนั้น เหตุตรงนี้เกิดแน่นอน จึงทำให้มีการทำบุญเพื่อแก้กรรมประเทศวันที่ 7 เม.ย.นี้ โดยเชิญพระพุทธรูปปางพิชิตมารนำขึ้นประดิษฐาน ณ ฐานพุทธมณฑลล้านนา เพื่อเป็นการแก้เคล็ด เราก็พยายามช่วยเต็มที่ ตนคงช่วยได้ในระดับหนึ่งแต่คงไม่ได้ทั้งหมด
เมื่อถามว่า การเผชิญหน้าของกลุ่มเก่าและกลุ่มรัฐบาลนี้จะเกิดการนองเลือดใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า กำลังจะเกิด แต่ต้องดูอานิสงส์หลังการแก้กรรมประเทศในวันที่ 7 เม.ย.นี้ ก่อน สาเหตุคงไม่ได้เกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยตรง แต่น่าจะมาจากคนในกลุ่มของท่าน ทั้งรัฐมนตรีที่อยู่ในรัฐบาลนี้ และผู้ที่เสียประโยชน์ รวมถึงคนใน 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยด้วย แต่เป็นบางคนไม่ใช่ทุกคน กลุ่มเหล่านี้ก็เสียประโยชน์ อีกทั้งความแตกแยกของรัฐบาลกับกลุ่มของเขาเองมีมาก ซึ่งเป็นลักษณะของการคุกรุ่น พร้อมที่จะระเบิด
“อย่างคุณสมัครเข้ามาเป็นนายกฯ ได้อย่างไร เราก็รู้กันอยู่ โดยดูที่จิตสำนึกของท่านต่อบ้านเมือง ท่านก็มีอยู่ ท่านพยายามปรับหลายอย่าง แต่ไม่ได้ผล ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกว่านายสมัคร บารมีสู้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ แต่พอหลังจากที่คุณสมัครไปทำบุญกับหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ ผมก็มานั่งดูอีกครั้ง เห็นว่าท่านเป็นนายกฯ จากนั้นไม่เกินอีก 2-3 สัปดาห์ เขาก็ได้เป็นนายกฯ ถือเป็นมหัศจรรย์ของบุญ ซึ่งไม่รู้ใครที่แนะนำท่าน เป็นการเปิดฐานบุญ ตรงกันข้ามกับคุณอภิสิทธ์ ที่ลอยไปเลย” นายวารินทร์ กล่าว
นายวารินทร์ กล่าวอีกว่า อย่างกรณีของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในอดีตมีการชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. ความจริง ฐานบุญของ พล.อ.มนตรี นำมา แต่ก่อนเข้าพรรษา พล.อ.อนุพงษ์ ไปทำบุญ โดยท่านมาทำบุญที่วัดลำปางเหนือ พอกลับมาตนจับมือท่านเลยบอกว่าดีใจด้วยท่าน ผบ.ทบ. ซึ่งวันนั้นตรงกับวันที่ 28 ก.ค. มีพยานอยู่ 4-5 คน ตัวท่านเองยังบอกว่าคงไมได้เป็นหรอก คงเป็น พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม แต่ที่สุดแล้วท่านก็ได้เป็น อย่างที่บอกว่าเรื่องบุญต้องทำให้ถูกที่ถูกทาง คนที่ทำบุญก็หมดบุญได้ ต้องมีการเติมบุญอยู่ตลอดเวลา
เมื่อถามอีกว่า นายสมัครจะแก้ปัญหาที่กำลังปะทุได้อย่างไร นายวารินทร์ กล่าวว่า ตนคิดว่าลำบาก ตอนนี้ก็พยายามหาทางแก้ไข ท่านเข้ามาตัวคนเดียว ตอนนี้บอกตรงๆ ว่านายสมัครมีแต่กองทัพเท่านั้นที่ให้การสนับสนุน เวลานายสมัครไปไหนต้องมี ผบ.ทบ.ไปด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านกลัวว่าจะมีปฏิวัติ แต่เพื่อเป็นการพึ่งพิงกัน เพราะอย่างไรก็แล้วแต่ อำนาจเต็มก็อยู่ที่นายสมัคร อย่างน้อยเป็นนายกฯ ก็มีอำนาจยุบสภาได้ และทำได้ก่อนที่จะเกิดเหตุ ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุ มีทางเดียว คือ ยุบสภา ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง
ส่วนรัฐบาลจะอยู่บริหารประเทศผ่านพ้นปี 2551 หรือไม่นั้น นายวารินทร์ กล่าวว่า คิดว่าไม่พ้นปีนี้ แค่พ้นเดือน พ.ค.ไปให้ได้ก่อน แต่ขณะนี้ยังมีปัจจัยในการต่อบุญได้อยู่ อิทธิฤทธิแพ้บุญ แต่บุญแพ้กรรม ซึ่งกรรมคือตัวกำหนด กรรมจะหมดหรือจะคลายไปก็ต่อเมื่อมีการอโหสิกรรม บ้านเมืองก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเราต้องแก้เป็นช่วงๆ ถามว่าชีวิตที่สูญสิ้นในแผ่นดินนี้มากเท่าไหร่ พวกตายโหงก่อนอายุขัยมากมาย พวกนี้มันเป็นพลังที่เรามองไม่เห็น รวมกันเมื่อใดก็ย่ำแย่
ต่อข้อถามที่ว่า เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.นี้ เกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองเป็นหลัก เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการเช็กบิล ใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า ใช่ แล้วอาจจะมีการสูญเสียบุคคลสำคัญระดับผู้ใหญ่ที่รู้จักกันทั่วประเทศ นอกจากนี้ ปัญหาความขัดแย้ง รอยร้าวต่างๆ จะปรากฏขึ้นมา ก่อนที่จะเกิดตรงนี้จะเกิดจากภัยธรรมชาติต่างๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร โดยเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆ น้องๆ สึนามิ ลักษณะคล้ายแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ก่อให้เกิดความวุ่นวาย มันจะพลิกสถานการณ์ต่างๆ อย่างที่บอกว่าคนเราทำลายธรรมชาติ แล้วธรรมชาติก็จะกลับมาทำร้ายเรา แต่ตนจะดูผลบุญอานิสงส์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 เม.ย.นี้อีกครั้ง เพราะตรงนี้เราทำให้แก่บ้านเมืองโดยเฉพาะ เหมือนที่เราเคยทำในตอนนั้นที่มันจะเกิด แต่พอทำแล้วก็ดีขึ้น แต่ความสูญเสียก็ยังต้องมี
“พระปางพิชิตมารที่เรามาสร้าง มีพลังจากผู้ที่มีอำนาจมาสร้าง คือ ทหาร เพราะทหารถือเป็นเสาหลักของบ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองเข้มแข็ง แต่ถ้าหากบ้านเมืองไม่มีผู้ที่ปกป้องแล้วก็พังเลย เหมือนเป็นสัญลักษณ์ เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมือง แล้วต่อไปหลังจากปีนี้ หลังจากเกิดความสูญเสียก็จะเกิดความสั่นคลอนของสถาบันต่างๆ แล้วสิ่งนี้ถือเป็นเรื่องกรรมของแผ่นดิน” เจ้าสำนักสุขิโต กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ประชาชนกลัวเรื่องปฏิวัติ อยากให้ฟันธงว่าจะมีหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวย้ำว่า มีการปฏิรูปฯ แต่ครั้งนี้จะต่างจากครั้งที่แล้ว จะวุ่นวายหนัก อาจจะมีการปะทะเสียเลือดเนื้อ ส่วนจะมากหรือน้อย ไม่รู้ ต้องดูก่อน แต่ในภาพที่เห็นช่วงต้นปี ตนเห็นว่ามีการตายเป็นเบือ แต่ทั้งนี้ต้องดูจากวันที่ 7 เม.ย.ก่อน หลังจากที่เราต่อบุญ ตอนนี้เราต้องต่อบุญเท่านั้น
ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายสมัครจะแตกแยกกัน นายวารินทร์ กล่าวว่า มีแน่นอน เหมือนกับคนละทางเลย ตอนแรกประกอบกันได้ แต่พอช่วงหนึ่งสถานะของกรรมทำให้ต้องแยกกัน เพราะผลบุญทั้งคู่หมดกัน และผลกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่หมด รวมทั้งอำนาจเป็นเครื่องต่อรอง ทำให้การไม่ยอมทำตามเกิดขึ้น แต่วิบากกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่หมด เพราะยังต้องอาญาแผ่นดิน ผลกรรมยังมีอีกมาก เพราะตอนเป็นนายกฯ ฆ่าไก่ไปไม่รู้เท่าไหร่ในช่วงไข้หวัดนกระบาด รวมถึงคนตายไปเท่าไหร่ในการฆ่าตัดตอนผู้ค้ายาเสพติด ทำให้กรรมยังไม่หมด ต้องเผชิญกรรมไปอีกนาน วิบากกรรมท่านหนัก ไม่น้อยเลย
“การกลับมาครั้งแรกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่มีอะไร และครั้งที่สองลูกน้องก็เข้ามาเหมือนเดิม สถานการณ์เริ่มนิ่ง แต่คอยดูการกลับมาครั้งที่สาม ให้คอยดูว่ามันจะเริ่มวุ่น ความจริงน่าจะเข้ามาต่อสู้คดี อย่าเพิ่งไปเดินสาย เห็นกลุ่มที่มาสนับสนุนก็มา กลุ่มที่สูญเสียประโยชน์จากคุณทักษิณ ที่ท่านไปทำเขาไว้เยอะก็มา กลุ่มที่คุณทักษิณเองก็ไม่รู้ว่าไปทำ แต่บริวารไปทำก็มีจำนวนมากเยอะมาก” นายวารินทร์ กล่าว
เมื่อถามว่า อนาคตหลังจากนายสมัครเป็นนายกฯ แล้ว ใครจะเป็นนายกฯ คนต่อไป นายวารินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่เห็นใครมีบารมีพอที่จะมาเป็นนายกฯ หากขึ้นมาก็ดำรงตำแหน่งก็คงอยู่ได้ไม่นาน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ก็มีสิทธิ์ได้ขึ้น แต่ขึ้นมาแล้วก็ไม่นาน ความเป็นไปได้ที่นายสมัครยุบสภาแล้วจับมือ พล.อ.อนุพงษ์ ช่วยกันดูแลบ้านเมืองยังมีอยู่
เมื่อถามอีกว่า การปฏิรูปฯ ที่ระบุไว้ คือ ให้ทหารมาปกครองแผ่นดินใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า เป็นไปได้ เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.อนุพงษ์ อาจขึ้นมาเป็นนายกฯ ได้ใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า อาจจะเป็นได้ แต่ตอนนี้บารมียังไม่ถึง ต้องดูการต่อบุญของท่านในอนาคต ตนจะดูเรื่องบุญ และกรรมเสริมกัน ตนเคยบอกว่าท่านอยู่ในเก้าอี้ ผบ.ทบ.ไม่ครบ 3 ปี อาจจะเป็นการพลิกขึ้น หรือย้ายออก ยังแกว่งอยู่ ยังมีบุญค้ำอยู่ ซึ่งไม่เกินปี 2552 ตอนนี้บุญขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่ต่อบุญ
“เหมือนกับ พล.อ.สนธิ ให้ท่านมาต่อบุญ แต่ท่านไม่มาเอง ให้คนอื่นมาก็ดวงตก ส่วนประชาชนที่จะช่วยบ้านเมืองให้รอดพ้นวิกฤตไปได้นั้น ต้องพยายามปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบ ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไว้ คือ การเดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง อย่าทะเยอทะยาน รุกล้ำผู้อื่น อย่าไปคดโกง อยู่ในศีลธรรม ก็จะช่วยกันประคับประคองไปด้วย” นายวารินทร์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 6-7 เม.ย.นี้ สำนักสุขิโตจะประกอบพิธีทำบุญสืบชะตาประเทศ และมีพิธีเบิกเนตรพระพุทธรูปปางพิชิตมาร เพื่อนำขึ้นประดิษฐาน ณ พุทธมณฑลล้านนา จ.เชียงใหม่ รวมถึงการหล่อพระประจำวันเกิดทั้งหมด 9 ปาง โดยมีตัวแทนจากเหล่าทัพ และอดีตสมาชิก คมช.เข้าร่วมพิธีอย่างคึกคัก เช่น พล.อ.สนธิ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. พล.ร.อ. สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. และ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นตัวแทนของ พล.อ.อนุพงษ์ รวมไปถึง พล.ท.สำเริง ศิวาดำรงค์ แม่ทัพภาคที่ 3