xs
xsm
sm
md
lg

ดวงประเทศทำนาย “หมัก” ยุบสภา - “อนุพงษ์” จ่อนั่งนายกฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
“วารินทร์” ทำนายดวงเมืองประเทศไทย ฟันธง ปชช.ตายเป็นเบือ จน “สีเขียว” ต้องเข้าประคองสถานการณ์บ้านเมือง คาดรัฐบาลอยู่ได้ไม่ครบปี ฟันธง “หมัก” ประกาศยุบสภากู้เหตุวิกฤติ แย้ม “อนุพงษ์” นั่งเก้าอี้นายกฯ

วันนี้ ( 4 เม.ย.) ที่หมู่บ้านสุขิโต ภายในวิหารหลวงปู่เกวาลัน นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ เจ้าสำนักสุขิโต ให้สัมภาษณ์ถึงดวงประเทศภายหลังการเข้ามาบริหารของรัฐบาลนาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ว่า เรื่องทั้งหมดเกี่ยวข้องกับกระแสของโลก ส่วนกระแสบุญของนายสมัคร ขึ้นมาได้ โดยอาศัยบุญจากผู้อื่น ทำให้มีปัญหาอยู่เสมอ อีกทั้งกรรมของชาติบ้านเมืองยังไม่จบสิ้น ซึ่งจะให้ดีขึ้นต้องรอถึงปี 2552 จากนั้นบ้านเมืองจะค่อยๆ พักฟื้น และค่อยๆ ดีขึ้น ส่วนสาเหตุที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายนั้น มาจากฝ่ายในรัฐบาลเอง และกลุ่มกระแสข้างนอก คือ พวกที่สูญเสียผลประโยชน์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคง ที่สำคัญ คือ กรรมของแผ่นดินยังไม่หมด

เมื่อถามว่า ช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ จะมีปฏิวัติรัฐประหาร หรือเหตุนองเลือดหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า จะมีบุคคลที่จะเข้ามาประคองชาติบ้านเมือง ดูแล้วสีเขียวยังไม่หมด ยังต้องกลับเข้ามาดูแล แต่จะมาดูแลในลักษณะที่ไม่เหมือนกับการปฏิวัติที่ผ่านมา แต่เหมือนเข้ามาทำการปรับเปลี่ยน คล้ายกับการปฏิรูปต่อจากนี้ จึงยังเป็นสีเขียวอยู่ เพราะมันเป็นเวลาของกลุ่มนี้ที่เขายังดูแลอยู่ ตนเคยบอกมาแล้วว่า ถึงอย่างไรกลุ่มนี้ก็ยังไม่หลุดไป ยังต้องอยู่อีกหลายปี

“เป็นกลุ่มสีเขียวที่อยู่ในปัจจุบัน และกลุ่ม คมช.ด้วย คือ ยังเหมือนไม่หมดหน้าที่ ครั้งก่อนที่ทำก็เพื่อประคอง ไม่ได้ทำจริงๆ ผมบอกท่านสนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ แล้วว่า ขึ้นไปทำปฏิวัติเถอะ เวลาปีเดียวไม่พอในการที่จะทำอะไรต่ออะไรให้เรียบร้อย เห็นหรือไม่ว่าพอขึ้นต้นไม่ทันไร ก็ลงแล้ว คือ ทำตรงนั้นท่านต้องการยุติไม่ให้เกิดการประหัตประหาร ผมเห็นตั้งแต่แรกในช่วงเดือน ม.ค.2549 ว่า แผ่นดินจะเดือดร้อน จะวุ่นวาย คนจะประหัตประหารกัน และผมเห็นผู้นำรัฐบาลจะถูกปองร้าย ท่านสนธิ ก็ถามว่า ถ้าอย่างนั้นมันไม่ยุ่งเหรอ แต่ผมเห็นท่านถือธงนำออกมา ดังนั้นจะต้องมีการปฏิวัติ ท่านก็ถามผมว่า ใครจะปฏิวัติ ผมก็บอกว่าก็ท่านไง เพราะผมเห็นท่านถือธง ซึ่งมีความหมายว่า ท่านคือผู้นำชัยมาสู่บ้านเมือง”นายวารินทร์ กล่าว

ส่วนคนที่จะปฏิรูปรอบใหม่ เป็นกลุ่มคนในเครื่องแบบ หรือคนกลุ่มใหม่นั้น เจ้าของสำนักสุขิโต กล่าวว่า เป็นการปฏิรูปจากคนกลุ่มใหม่ และกลุ่มเก่าประคองกัน ซึ่งขณะนี้ไม่สามัคคีกัน ผนวกกับกรรมของแผ่นดินยังมี ดังนั้น เหตุตรงนี้เกิดแน่นอน จึงทำให้มีการทำบุญเพื่อแก้กรรมประเทศวันที่ 7 เม.ย.นี้ โดยเชิญพระพุทธรูปปางพิชิตมารนำขึ้นประดิษฐาน ณ ฐานพุทธมณฑลล้านนา เพื่อเป็นการแก้เคล็ด เราก็พยายามช่วยเต็มที่ ตนคงช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่คงไม่ได้ทั้งหมด

เมื่อถามว่า การเผชิญหน้าของกลุ่มเก่า และกลุ่มรัฐบาลนี้ จะเกิดการนองเลือดใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า กำลังจะเกิด แต่ต้องดูอานิสงค์หลังการแก้กรรมประเทศในวันที่ 7 เม.ย.นี้ ก่อน สาเหตุคงไม่ได้เกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยตรง แต่น่าจะมาจากคนในกลุ่มของท่าน ทั้งรัฐมนตรีที่อยู่ในรัฐบาลนี้ และผู้ที่เสียประโยชน์ รวมถึงคนใน 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยด้วย แต่เป็นบางคน ไม่ใช่ทุกคน กลุ่มเหล่านี้ก็เสียประโยชน์ อีกทั้งความแตกแยกของรัฐบาลกับกลุ่มของเขาเองมีมาก ซึ่งเป็นลักษณะของการคุกรุ่น พร้อมที่จะระเบิด

“อย่างคุณสมัคร เข้ามาเป็นนายกฯ ได้อย่างไร เราก็รู้กันอยู่ โดยดูที่จิตสำนึกของท่านต่อบ้านเมือง ท่านก็มีอยู่ ท่านพยายามปรับหลายอย่าง แต่ไม่ได้ผล ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกว่านายสมัคร บารมีสู้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ แต่พอหลังจากที่คุณสมัคร ไปทำบุญกับหลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ ผมก็มานั่งดูอีกครั้ง เห็นว่าท่านเป็นนายกฯ จากนั้นไม่เกินอีก 2-3 สัปดาห์ เขาก็ได้เป็นนายกฯ ถือเป็นมหัศจรรย์ของบุญ ซึ่งไม่รู้ใครที่แนะนำท่าน เป็นการเปิดฐานบุญ ตรงกันข้ามกับคุณอภิสิทธ์ ที่ลอยไปเลย”นายวารินทร์ กล่าว

นายวารินทร์ กล่าวอีกว่า อย่างกรณีของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กับ พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในอดีตมีการชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. ความจริง ฐานบุญของ พล.อ.มนตรี นำมา แต่ก่อนเข้าพรรษา พล.อ.อนุพงษ์ ไปทำบุญ โดยท่านมาทำบุญที่วัดลำปางเหนือ พอกลับมา ตนจับมือท่านเลย บอกว่าดีใจด้วยท่าน ผบ.ทบ. ซึ่งวันนั้นตรงกับวันที่ 28 ก.ค. มีพยานอยู่ 4-5 คน ตัวท่านเองยังบอกว่า คงไมได้เป็นหรอก คงเป็น พล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม แต่ที่สุดแล้วท่านก็ได้เป็น อย่างที่บอกว่าเรื่องบุญ ต้องทำให้ถูกที่ถูกทาง คนที่ทำบุญก็หมดบุญได้ ต้องมีการเติมบุญอยู่ตลอดเวลา

เมื่อถามอีกว่า นายสมัคร จะแก้ปัญหาที่กำลังปะทุได้อย่างไร นายวารินทร์ กล่าวว่า ตนคิดว่าลำบาก ตอนนี้ก็พยายามหาทางแก้ไข ท่านเข้ามาตัวคนเดียว ตอนนี้บอกตรงๆ ว่า นายสมัคร มีแต่กองทัพเท่านั้น ที่ให้การสนับสนุน เวลานายสมัคร ไปไหน ต้องมี ผบ.ทบ.ไปด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าท่านกลัวว่าจะมีปฏิวัติ แต่เพื่อเป็นการพึ่งพิงกัน เพราะอย่างไรก็แล้วแต่ อำนาจเต็มก็อยู่ที่นายสมัคร อย่างน้อยเป็นนายกฯ ก็มีอำนาจยุบสภาได้ และทำได้ก่อนที่จะเกิดเหตุ ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุ มีทางเดียว คือ ยุบสภา ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้สูง

ส่วนรัฐบาลจะอยู่บริหารประเทศผ่านพ้นปี 2551 หรือไม่นั้น นายวารินทร์ กล่าวว่า คิดว่าไม่พ้นปีนี้ แค่พ้นเดือน พ.ค.ไปให้ได้ก่อน แต่ขณะนี้ยังมีปัจจัยในการต่อบุญได้อยู่ อิทธิฤทธิแพ้บุญ แต่บุญแพ้กรรม ซึ่งกรรม คือ ตัวกำหนด กรรมจะหมด หรือจะคลายไปก็ต่อเมื่อมีการอโหสิกรรม บ้านเมืองก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเราต้องแก้เป็นช่วงๆ ถามว่าชีวิตที่สูญสิ้นในแผ่นดินนี้มากเท่าไหร่ พวกตายโหงก่อนอายุขัยมากมาย พวกนี้มันเป็นพลังที่เรามองไม่เห็น รวมกันเมื่อใดก็ย่ำแย่

ต่อข้อถามที่ว่า เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.นี้ เกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองเป็นหลัก เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการเช็คบิล ใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า ใช่ แล้ว อาจจะมีการสูญเสียบุคคลสำคัญระดับผู้ใหญ่ที่รู้จักกันทั่วประเทศ นอกจากนี้ปัญหาความขัดแย้ง รอยร้าวต่างๆ จะปรากฏขึ้นมา ก่อนที่จะเกิดตรงนี้ จะเกิดจากภัยธรรมชาติต่างๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร โดยเหตุการณ์ลักษณะคล้ายๆ น้องๆ สึนามิ ลักษณะคล้ายแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ก่อให้เกิดความวุ่นวาย มันจะพลิกสถานการณ์ต่างๆ อย่างที่บอกว่า คนเราทำลายธรรมชาติ แล้วธรรมชาติก็จะกลับมาทำร้ายเรา แต่ตนจะดูผลบุญอานิสงค์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 เม.ย.นี้อีกครั้ง เพราะตรงนี้เราทำให้กับบ้านเมืองโดยเฉพาะ เหมือนที่เราเคยทำในตอนนั้นที่มันจะเกิด แต่พอทำแล้วก็ดีขึ้น แต่ความสูญเสียก็ยังต้องมี

“พระปางพิชิตมารที่เรามาสร้าง มีพลังจากผู้ที่มีอำนาจมาสร้าง คือ ทหาร เพราะทหารถือเป็นเสาหลักของบ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองเข้มแข็ง แต่ถ้าหากบ้านเมืองไม่มีผู้ที่ปกป้องแล้ว ก็พังเลย เหมือนเป็นสัญลักษณ์ เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเมือง แล้วต่อไปหลังจากปีนี้ หลังจากเกิดความสูญเสีย ก็จะเกิดความสั่นคลอนของสถาบันต่างๆ แล้วสิ่งนี้ถือเป็นเรื่องกรรมของแผ่นดิน”เจ้าสำนักสุขิโต กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ประชาชนกลัวเรื่องปฏิวัติ อยากให้ฟันธงว่าจะมีหรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวย้ำว่า มีการปฏิรูปฯ แต่ครั้งนี้จะต่างจากครั้งที่แล้ว จะวุ่นวายหนัก อาจจะมีการปะทะเสียเลือดเนื้อ ส่วนจะมาก หรือน้อย ไม่รู้ ต้องดูก่อน แต่ในภาพที่เห็นช่วงต้นปี ตนเห็นว่ามีการตายเป็นเบือ แต่ทั้งนี้ต้องดูจากวันที่ 7 เม.ย.ก่อน หลังจากที่เราต่อบุญ ตอนนี้เราต้องต่อบุญเท่านั้น

ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กับนายสมัคร จะแตกแยกกัน นายวารินทร์ กล่าวว่า มีแน่นอน เหมือนกับคนละทางเลย ตอนแรกประกอบกันได้ แต่พอช่วงหนึ่งสถานะของกรรมทำให้ต้องแยกกัน เพราะผลบุญทั้งคู่หมดกัน และผลกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่หมด รวมทั้งอำนาจเป็นเครื่องต่อรอง ทำให้การไม่ยอมทำตามเกิดขึ้น แต่วิบากกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่หมด เพราะยังต้องอาญาแผ่นดิน ผลกรรมยังมีอีกมาก เพราะตอนเป็นนายกฯ ฆ่าไก่ไปไม่รู้เท่าไหร่ในช่วงไข้หวัดนกระบาด รวมถึงคนตายไปเท่าไหร่ในการฆ่าตัดตอนผู้ค้ายาเสพติด ทำให้กรรมยังไม่หมด ต้องเผชิญกรรมไปอีกนาน วิบากกรรมท่านหนัก ไม่น้อยเลย

“การกลับมาครั้งแรกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่มีอะไร และครั้งที่สองลูกน้องก็เข้ามาเหมือนเดิม สถานการณ์เริ่มนิ่ง แต่คอยดูการกลับมาครั้งที่สาม ให้คอยดูว่ามันจะเริ่มวุ่น ความจริงน่าจะเข้ามาต่อสู้คดี อย่าเพิ่งไปเดินสาย เห็นกลุ่มที่มาสนับสนุนก็มา กลุ่มที่สูญเสียประโยชน์จากคุณทักษิณ ที่ท่านไปทำเขาไว้เยอะก็มา กลุ่มที่คุณทักษิณ เองก็ไม่รู้ว่าไปทำ แต่บริวารไปทำก็มีจำนวนมากเยอะมาก”นายวารินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่า อนาคตหลังจากนายสมัคร เป็นนายกฯ แล้ว ใครจะเป็นนายกฯ คนต่อไป นายวารินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่เห็นใครมีบารมีพอที่จะมาเป็นนายกฯ หากขึ้นมาก็ดำรงตำแหน่งก็คงอยู่ได้ไม่นาน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ก็มีสิทธิ์ได้ขึ้น แต่ขึ้นมาแล้วก็ไม่นาน ความเป็นไปได้ที่นายสมัคร ยุบสภาแล้วจับมือ พล.อ.อนุพงษ์ ช่วยกันดูแลบ้านเมืองยังมีอยู่

เมื่อถามอีกว่า การปฏิรูปฯ ที่ระบุไว้ คือ ให้ทหารมาปกครองแผ่นดินใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า เป็นไปได้ เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.อนุพงษ์ อาจขึ้นมาเป็นนายกฯ ได้ใช่หรือไม่ นายวารินทร์ กล่าวว่า อาจจะเป็นได้ แต่ตอนนี้บารมียังไม่ถึง ต้องดูการต่อบุญของท่านในอนาคต ตนจะดูเรื่องบุญ และกรรมเสริมกัน ตนเคยบอกว่าท่านอยู่ในเก้าอี้ ผบ.ทบ.ไม่ครบ 3 ปี อาจจะเป็นการพลิกขึ้น หรือย้ายออก ยังแกว่งอยู่ ยังมีบุญค้ำอยู่ ซึ่งไม่เกินปี 2552 ตอนนี้บุญขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่ต่อบุญ

“เหมือนกับ พล.อ.สนธิ ให้ท่านมาต่อบุญ แต่ท่านไม่มาเอง ให้คนอื่นมาก็ดวงตก ส่วนประชาชนที่จะช่วยบ้านเมืองให้รอดพ้นวิกฤติไปได้นั้น ต้องพยายามปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบ ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไว้ คือ การเดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง อย่าทะเยอทะยาน รุกล้ำผู้อื่น อย่าไปคดโกง อยู่ในศีลธรรม ก็จะช่วยกันประคับประคองไปด้วย”นายวารินทร์ กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันที่ 6-7 เม.ย.นี้ สำนักสุขิโตจะประกอบพิธีทำบุญสืบชะตาประเทศ และมีพิธีเบิกเนตรพระพุทธรูปปางพิชิตมาร เพื่อนำขึ้นประดิษฐาน ณ พุทธมณฑลล้านนา จ.เชียงใหม่ รวมถึงการหล่อพระประจำวันเกิดทั้งหมด 9 ปาง โดยมีตัวแทนจากเหล่าทัพ และอดีตสมาชิก คมช.เข้าร่วมพิธีอย่างคึกคัก อาทิเช่น พล.อ.สนธิ พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. พล.ร.อ. สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. และ พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นตัวแทนของ พล.อ. อนุพงษ์ รวมไปถึง พล.ท. สำเริง ศิวาดำรงค์ แม่ทัพภาคที่ 3

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ ได้เดินทางเข้าพบนายสมัคร ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาในการเข้าพบ 1 ชั่วโมงก่อนที่จะเดินทางกลับออกจากทำเนียบรัฐบาล ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ เข้าพบภายหลังจากที่นายสมัคร ออกจากการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล และเริ่มปฏิบัติงานเป็นวันแรก เพราะมีข่าวว่า หมอวารินทร์ ทำนายว่า พล.อ.อนุพงษ์ ฐานบุญเสริมบารมี มีสิทธิได้นั่งเก้าอี้นายกฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น