“สมัคร” พล่ามผ่านสื่อทำเนียบชั่วโมงกว่า ยอมรับแก้รัฐธรรมนูญเพื่อ 111 คน ยันไม่ต้องถามประชาชน อ้าง ชาวบ้านเลือกมาแล้ว เหน็บแก้ 309 ใส่ห้ามปฏิวัติ รธน.เลยดีไหม ติง “ประเวศ-อานันท์” ลืมปฏิวัติ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมัคร สุนทรเวช ให้สัมภาษณ์
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 4 เม.ย.ที่บริเวณทางเชื่อมระหว่างตึกไทยคู่ฟ้า และตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ประจำสัปดาห์กับสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล หลังจากหายจากอาการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ โดยนายสมัคร ใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมง 10 นาที ในการให้สัมภาษณ์ ซึ่ง นายสมัคร เริ่มต้นด้วยการขอกล่าวข้างเดียวโดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวซักถามถึง 45 นาที ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวจนนายสมัครที่สวมสูทถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก
นายสมัคร กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ว่า เรื่องของการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ “โหย นั่งอ่านหนังสือพิมพ์เมื่อเช้านี้ ฉบับหนาๆ อย่าง ไทยรัฐ สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ มติชน เขาเขียนกัน ช่างรู้รอบ เราเป็นตัวถูกเขียนถึง รูปน่ะดี แต่เรื่องผมอ่านแล้วโอ้โห ก็เลยขอสรุปความแล้วจะเล่าให้ฟังหน่อยจะได้ตอบคำถามที่ใครจะได้ไม่ต้องถาม”
นายสมัคร กล่าวว่า คือ อยู่ดีๆ ตนเองก็ไม่ได้คิดว่าเกิดมาอยู่ดีๆ เลือกตั้งขึ้นมาแล้วประกาศแก้รัฐธรรมนูญทันที แต่มีเหตุก่อนที่จะมารับหน้าที่ เขามีการปฏิบัติยึดอำนาจ เรื่องนี้บรรดาเกจิอาจารย์ทั้งหลาย ดร.ประเวศ วะสี ก็ดี คุณอานันท์ ปันยารชุน ก็ดี ใครต่อใครเขาก็จะลืมว่ามันมีการปฏิวัติเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 มีเหตุผลหรือไม่มีเหตุผลไม่อาจทราบได้ แต่มีปฏิวัติและมีการฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง และมาเขียนรัฐธรรมนูญเฉพาะตัวขึ้นมา 19 มาตรา แล้วสัญญาว่าใน 1 ปีจะให้รัฐธรรมนูญใหม่ ก็ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ซึ่งตลอดเวลาเขาก็รับรู้กันหมด
“ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งก็ไม่มีใครแหกปากไปว่าเขาเป็นคณะปฏิวัติ ร่างรัฐธรรมนูญใหม่เขาเอาคณะผู้คนเขามาร่างก็ไม่มีใครว่าอีก ก็เห็น ก็เฉยๆ เห็นชื่นชมกันดี เขาก็ร่างตามใจที่เขาต้องการ ก็รู้กันเลยว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มันสู้รัฐธรรมนูญฉบับเก่าไม่ได้ แต่ว่าเขาต้องการทำอันนี้เพราะว่าเขาบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับเก่ามันดีเกินไปสำหรับรัฐบาลอย่างรัฐบาลนายกทักษิณ รัฐธรรมนูญมันไปเอื้อรัฐบาล รัฐบาลแข็งแรงมาก รัฐบาลเลยโกง เขาว่าอย่างนั้นแหละสรุปง่ายๆ” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญ 2550 ต้องการให้รัฐบาลแข็งแรงนั่นคือเจตนาที่ทำกันมา ซึ่งเมื่อปี 40 กว่าจะได้ใช้รัฐธรรมนูญก็ปี 2544 ก็ได้รัฐบาลแข็งแรง แต่สุดท้ายทำกันได้ 4 ปีบวก 1 ปี เขาบอกว่ารัฐบาลแข็งแรงนี่มันโกง เขาบอกว่ามันโกง 1 2 3 4 เขาก็เลยปฏิวัติแล้วเขาก็ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง แล้วก็ร่างใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่นาจะลืมกันไปเลย ตนไม่เคยจะลืมเลย หวังใจว่าสิ่งที่พูดในวันนี้ให้คนทั้งประเทศไม่ต้องลืมว่ามีเหตุที่มาอย่างนี้
“พอเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อรัฐธรรมนูญออกมาก็รู้และสรุปได้คำนึงว่า เขาไม่ชอบนายกรัฐมนตรีคนนี้ แล้วเขาบอกว่าเป็นยังไงๆ เพราะฉะนั้นอะไรที่เป็นช่องทางเขาก็อุดรู ก็ออกรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะอุดรูเท่านั้น รัฐธรรมนูญก็ได้มาอย่างที่ว่านี้” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวตำหนิระบบการเลือกตั้ง ว่า เลือกตั้งมันสะดวกดีนักเขตละคนคนละเขตทันสมัยเหมือนชาวโลกกลับไม่เอา ให้ย้อนหลังดีกว่า เขตละ 1 เขตละ 2 เขตละ 3 ให้เป็น 151 เขต ซึ่งมันยุ่งยากทันที เพราะมันเดินหน้ามาอย่างนี้ แต่ไปถอยหลังกลับกัน แต่ไม่มีใครถามว่าถอยไปทำไม ส่วนวุฒิสมาชิก 200 คนควรจะแค่ว่าสังกัดพรรคไม่สังกัดพรรคเอาแค่นั้น แต่ไม่ตัดสินใจอันนั้น ก็มาเอา 150 คน เลือกตั้ง 76 จังหวัด แต่ตั้งอีก 74 มันขยักเขยื้องอะไรแบบนั้น มันไม่ได้เข้าท่า ก็ให้จดไอ้ความไม่เข้าท่านี้เอาไว้ เพราะเวลาที่จะทำอะไรอะไร แต่ละอันก็ตามดูกันอยู่ เขาบอกว่า ส.ส.ต้องช่วยราษฎรได้ แต่เขาบอกว่าไม่ได้เขาจึงเขียนว่าไม่ให้ยุ่ง
“เขาออกมาตรา 309 เขาบอกว่า ที่เขาทำมาทั้งหมดถูกต้อง เอารัฐธรรมนูญรับรองไว้เลยว่าที่ทำมาทั้งหมดต้องล็อคไว้ด้วยมาตรา 309 จึงมีการประกาศใช้” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวถึงที่มาของรัฐธรรมนูญฉบับ 50 ว่า ถามว่า รัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้ทั้งฉบับไปลงประชามติจำกันได้หรือไม่วันที่ 19 ส.ค.2550 ลงประชามติแล้วคะแนนมันเท่าไหร่ 14 ล้านต่อศูนย์หรือ ก็เปล่า แต่เป็น 14 ล้านต่อ 10 ล้าน คะแนนมันออกมาประมาณ 58 ต่อ 41 ก็แปลว่ามีคนเห็นด้วย 6 คน ไม่เห็นด้วย 4 คน
“และเป็นที่เข้าใจกันด้วยว่าที่เห็นด้วย 6 คน แปลว่า ให้ไปเลือกตั้งเสียก่อนแล้วค่อยมาแก้ไขกัน ไอ้นี่ไปลืมกันได้อย่างไร ไอ้คน 4 คนเขาบอกว่าต้องแก้แน่ ไอ้ใน 6 คนเห็นด้วยเพื่อจะให้เลือกตั้งก่อน ต่อไปจะต้องแก้ มันสะท้อนมาว่าไอ้พวกที่หาเสียงไปบอกว่าจะต้องแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องแก้ มันก็ออกมา 233 ไอ้พวกที่เขาบอกว่าเขาไม่ต้องการจะแก้เขาก็ออกมา 164 ก็เห็นแล้วนี่” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า คณะปฏิวัติมาจากไหนก็เชื่อถือได้ว่าเขาอะไรต่ออะไรได้ แต่ว่าเรามาจากเลือกตั้ง พอคิดที่จะมาทำอะไร เขาฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง เขาเขียนรัฐธรรมนูญยังไงก็ไม่มีใครว่า แต่ว่าเขียนแล้วมันดูแย่ยังไงก็ทนรับเอามาได้ แต่พอคนที่มาจากการเลือกตั้งจะแก้ไข ทำไมมันกลายเป็นคนเลวคนใช้ไม่ได้ เป็นคนจะเอาประโยชน์แต่ตัว เห็นแก่ตัว
“ไอ้สำนวนที่ผมเจ็บช้ำน้ำใจที่สุดเลยนี่ก็คือว่า ไอ้คนที่ทำผิดแล้วให้ไปแก้กฎหมาย แล้วทำไมไม่ย้อนถามหละถ้าไอ้กฎหมายผิดแล้วคนมันอยู่กันได้ยังไง ถ้ากฎหมายมันผิด เขียนกฎหมายไว้ไม่ถูกต้องเนี่ย แล้วจะอยู่ต่อไปได้ยังไง” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวถึงระบบเลือกตั้งอีกว่า จะเลือกตั้งวันข้างหน้าจะเลือกเขตละคนคนละเขต ถ้าแก้เสียวันข้างหน้าก็เลือกตามนี้ วุฒิสมาชิกถ้าแก้ว่าเป็น 200 คน สังกัดไม่สังกัดพรรคก็จะได้ใช้ไปตามนั้น ก็ทำให้เผื่ออนาคต ซึ่งตนคิดถึงเรื่องนี้ตนจึงบอกว่ารัฐธรรมนูญเราจะได้พิจารณาจัดการ ถ้าใครถามตนก็บอกว่าสัก 3 เดือนจะเลือกกันไหม ซึ่งตนไม่ได้ปฏิเสธอะไรเลย
“โอ้โหย นายสมัคร กลืนน้ำลาย ยังไม่ทันไรถูกนั่น ถูกเขาบังคับ ไม่มีใครมาบังคับขู่เข็ญ อะไรผมหรอกครับ มาตามธรรมชาติไอ้แก้รัฐธรรมนูญเนี่ย” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวถึงเรื่องความเห็นในการแก้ของพรรคพลังประชาชนที่เสียงแตกไปคนละทางว่า ตนไม่ได้ไปประชุมกับเขา แต่มีความเห็นของอยู่ตรงทำเนียบ ตนทำงานจนเลิกเวลา 18.40 น. แต่เขาประชุมกันบ่าย 2 โมง จึงไม่ได้ประชุมกับเขา ทางโน้นเขาบอกให้แก้ 309 แต่ตนคิดชั้นเดียวจึงบอกว่าไม่เห็นด้วยว่าจะต้องแก้ คิดง่ายๆ ตื้นๆ ว่า มันเสร็จไปหมดแล้วไปแก้ทำไม เขาก็บอกว่าต้องแก้ ก็อธิบายเหตุผลแต่ตนไม่ได้ฟังกับเขา
“ผมไม่เห็นเรื่องเสียเหลี่ยมเสียหน้าเสียตาอะไรยังไงเลย ผมอยู่กันคนละซีกก็ต้องบอกว่าก็มันประชาธิปไตย แล้วบัดนี้เขาก็บอกว่าเขาจะยกร่างมา ทั้งหมดเนี่ยมันเป็นเรื่องธรรมดาๆ” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า จะเล่าให้ฟังอีกจะได้ไม่ต้องไปซักถามกันมากว่ามันเดินทางมาตามแบบทางนี้ หรือเรื่องรัฐธรรมนูญไหนพูดกันติดปากว่ารับไปเถอะแล้วแก้ได้ ไม่พอใจแก้ได้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ง่าย ก็พูดยังงั้นอีกแก้ได้แก้ง่าย
“เอ๊าก็จะแก้เข้า ทำไมหละครับ มันศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหนถึงแตะต้องไม่ได้เนี่ย ทำไมมันแตะต้องไม่ได้ ผมเคยบอกแล้วไง ไอ้ทรายเปียกๆริมทะเล ลองไปยืนสิแล้วเอาไม้ขีดเป็นวงล้อมตัวเอง แล้วก็บอกว่าออกไม่ได้โว๊ย ออกไม่ได้โว๊ย ก็ขีดวงเองแล้วบอกว่าออกไม่ได้ ก็ก้าวข้ามออกมาก็จบเรื่อง ก็เขียนรัฐธรรมนูญไว้แล้ว ก็บอกว่าไม่กล้าแก้เพราะศักดิ์สิทธิ์ เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่าอย่าไปแตะ ไปไปมามากลายเป็นว่าไอ้คนที่จะแก้ไขทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า เมื่อเวลาเป็นอะไรเมื่อแก้ได้สำเร็จมันอาจจะไม่ได้ไปย้อนหลัง อาจจะไม่ได้ประโยชน์อะไรกับที่มันเกิดเหตุ ไอ้ที่เกิดไปแล้วพรรค 3 พรรคก็อาจจะถูกยุบไปได้ด้วยเหมือนกันแม้รัฐธรรมนูญจะแก้ แต่รัฐธรรมนูญมันแก้เพราะไอ้คนพวกนี้ได้เสียงข้างมาก ควรจะจัดการแก้ไขสำหรับคนในอนาคตจะได้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะถ้าเราไม่ทำ ต่อไปใครจะทำ เพราะเลือกตั้งเข้ามาก็ต้องทนใช้ฉบับนี้อีก
“ผมมองในแง่นี้เลย ว่าจะทำยังไง ผมก็พูดจาแบบชนิด ผมบอกว่า นี่ แก้รัฐธรรมนูญจะยกเลิกไม่ได้มันต้องปฏิวัติ” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวถึงวิธีแก้ว่า เอารัฐธรรมนูญ 50 มาตั้ง แล้วก็เก็บหมวด 1 ไว้ แล้วก็เอาทั้งหมดออกไป แล้วก็เอาทั้งหมดของ 40 มาใส่ แล้วก็มานั่งเลยว่าอันไหนไม่ดี ก็ปลิดทิ้ง อันไหนดีก็เอาเก็บไว้ อันจะต้องเติมก็เติมเข้าไป อย่างนี้ไม่กี่เดือนก็เสร็จ มันก็จะได้ของดีมาใช้ ถ้าเห็นพ้องต้องกัน
“ไอ้เนี่ยเพื่ออนาคต ผมเนี่ยไม่มีอนาคต เพราะต่อไปผมก็ไม่ลงแล้ว และทำอย่างนี้เพื่ออะไร เพราะตัวเองรึไง ถ้าเพื่อตัวเองก็ไม่คุ้มครองผมหรอก แล้วมาตรา 309 ทำไมนายสมัครบอกไม่เอา เพราะผมคิดชั้นเดียวผมไม่ได้คิดว่าจะต้องไปต่อสู้อะไร ผมคิดว่าผมไม่ได้ทำความผิด จะโดนไม่โดนก็สุดแท้แต่เถอะ ผมก็บอกไม่ต้องแก้ แต่พวกที่เขาบอกว่าโดนคดีความเขาบอกว่าต้องแก้ ก็เหตุผลก็ฟังได้ ก็แก้ มันอยู่คนที่กัน ผมอยู่ทำเนียบ เขาอยู่ที่โน่นถนนเพชรบุรี ไม่ได้เจอไม่ได้คุยกัน” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวต่อไปว่า ต่างคนต่างคิดกัน มันแค่เรื่องอย่างนี้เท่านั้นเอง เรื่องไม่เข้าท่าอะไรยังไงเลย มันกลายเป็นว่าตั้งคำถาม “แก้เพื่อใคร” ซึ่งตนจะตอบคำถามนายอานันท์ ปัญญารชุน ว่าตนแก้เพื่อคนไทยในอนาคตที่ยังจะต้องใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ในการเลือกตั้งครั้งแต่ไป และจะไม่มีตัวตนไปลงสมัครรับเลือกตัง
“ไม่ลงแล้วครับ เพราะฉะนั้นไม่ได้เพื่อตัวผมเองเลย เพื่อคนไทยในวันข้างหน้าที่จะต้องใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้าคน 233 บวกกันเป็น 316 มีโอกาสจะเป็นคนแก้ได้ แล้วไม่แก้เนี่ย อย่างนี้เสียของ แก้ครับ แล้วคนพวกนี้ไม่ได้ประโยชน์อะไรหรอกครับ” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าว ธรรมดาปกติแก้รัฐธรรมนูญแล้วเขาจะต้องเลือกตั้งใหม่ ตนจึงพูดไว้ว่าอีก 3 เดือนจะไปค่อยมาแก้กัน เพราะตนต้องการจะให้เลือกตั้งใหม่หลังจากนั้น “ก็กำลังนี้เขาบอกว่าเขาจะแก้ เขาคิดยังงั้น เขาคิดได้ และต้องให้สิทธิเขาบ้าง จะได้ไม่ได้ก็ต้องทำ”
นายสมัคร กล่าวถึงตุลาการรัฐธรรมนูญตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักไทยและตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค 111 คน ว่า ขนาดตุลาการรัฐธรรมนูญลงมติไว้แล้ว พอทำปฏิวัติมาและมีประกาศฉบับที่ 27 ว่าคดีความเรื่องยุบพรรคให้ลงมติว่ามีความผิดให้พรรคที่ถูกยุบมีความผิดถอดถอน ซึ่งคดีเพิ่งอยู่ในศาลได้ 2 เดือน ยังไม่เป็นโล้เป็นพายเลย
“คิดไว้ล่วงหน้าวันที่ 19 ก.ย.2549 แต่ใช้จริงวันที่ 30 พ.ค.2550 แล้วใครใช้ ศาลรัฐธรรมนูญเอามาอ้างแล้วเอามาใช้ แล้วเห็นไหมครับว่าเป็นยังไง อำนาจปฏิวัติใช้ยังงั้นได้ไหม เขาบอกว่าไม่ได้ เขาไม่ย้อนหลัง”นายสมัคร กล่าวและยืนยันว่าที่ทำการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ทำเพื่ออะไรเลย แต่เพื่อวันข้างหน้าจะได้เลือกตั้งใหม่ จะได้ใช้รัฐธรรมนูญดีขึ้น
นายสมัคร กล่าวย้ำว่า พูดกันชัดๆ เลยว่ามันเชยไม่ดี แล้วทำไมไม่แก้ แล้วมันจะมีประโยชน์กับใครยังไง มันบอกว่าประโยชน์ไม่ได้หรอก และตนเชื่อว่าคนที่โดนคดีความไม่ได้หรอก แต่ว่าเราทำไว้เพื่อวันข้างหน้า สภายุบเมื่อไหร่จะได้มีการเลือกตั้งและมีรัฐธรรมนูญใหม่
นายสมัคร กล่าวย้ำอีกว่า การร่างรัฐธรรมนูญเพื่อเหตุ ต้องการจะฆ่าคนนี้ ต้องการจะส่งเสริมคนนี้ ซึ่งเห็นกันชัดชัด แล้วทำไมถึงทำไม่รู้ไม่ชี้ ทำไมถึงลืมเลือน ทั้งหมอประเวศก็มีความเห็น คุณอานันท์ก็มาบอก ดังนั้นตนตอบคำถามได้ชัดเจนเลยว่าไม่ใช่เพื่อตัวของตนเลย แต่เพื่อประเทศไทยวันข้างหน้าจะมีเลือกตั้ง คนไทยจะได้ไปเลือกตั้งเขตละคนคนละเขต คนไทยจะได้เลือก ส.ว.200 คน เลือกตั้งกันทั้งหมด จะสังกัดไม่สังกัดพรรคจะลงมติจะแก้ไว้ให้
“เรื่องทั้งหมดมันทำเพื่อการเมืองทั้งนั้นไม่ได้เกี่ยวกับอะไร คนอื่นอาจจะมี แต่ผมไม่มี แล้วผมไม่ใช่หัวโจกจะแก้ แต่เมื่อเขาจะแก้ เราก็เป็นประชาธิปไตยในพรรค เขาจะแก้ เขาก็ไปพบกันเขาว่าก็ต้องหาเหตุว่ามันเป็นยังงั้น จะรอไอ้ตอนนั้น เขาบอกว่าตอนนี้มีกำลังพร้อมๆ กำลังแข็งแรงอยู่แก้เลย ก็แก้” นายสมัคร กล่าวตอบคำถามว่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ท่านบอกว่าโดยปกติแก้ไข รธน.เสร็จจะต้องเลือกตั้งกันใหม่หมายความว่าอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า อย่างที่เขาทำก็จะแก้เรื่องการเลือกตั้ง ที่จะต้องใช้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป แต่คราวนี้ก็ยังรอได้ มาคิดได้ว่าถ้าหากเราพร้อม แล้วมีโอกาสจะได้หาเหตุแก้ไข ทำไมไม่แก้เสีย แล้วถ้าเราไม่แก้แล้วใครจะแก้ เท่านั้นเอง ก็จะตอบนายอานันท์ ปัญยารชุน นพ.ประเวศ วะสี เราแก้รัฐธรรมนูญเพื่อคนไทยวันข้างหน้า เขาจะได้ใช้รัฐธรรมนูญที่มันดี ที่ควรจะเป็น
“อยากบอกว่ามีเหตุ ผมเป็นชาวพุทธ พระพุทธเจ้าท่านตรัสรู้ก็บอกเราอริยะสัตย์4 มีทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ท่านบอกว่าชีวิตนี้เป็นทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย มันเป็นทุกข์ แต่ท่านเป็นพระ ท่านต้องการจะดับทุกข์ทั้ง 4 นี้ จึงต้องไปหานิพพาน ต้องหาเหตุเพื่อจะดับทุกข์ เมื่อรู้เหตุแล้ว เมื่อดับเหตุได้ก็จะมีความสุข อันนั้นท่านเป็นพระก็หานิพพาน แต่ทุกข์ของคนเป็นนักการเมือง คือ มีรัฐธรรมนูญที่มันแย่คาอยู่กลางบ้านกลางเมือง เป็นทุกข์ ไปถามนักการเมืองดูเขาทุกข์กันทั้งนั้น ทุกอย่างมีคนมาทำให้เกิดเหตุ ถ้าจะทำให้กลับไปเหมือน” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวว่า ถามหน่อยว่า ถ้าสมมติว่า ไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกิดขึ้นมา รัฐธรรมนูญฉบับ 40 ยังอยู่ไหม ก็ยังอยู่ เพราะไม่มีเศรษฐีมาเล่นการเมือง แต่อันนี้โชคดีมีเศรษฐีมาเล่นการเมืองถึงได้เกิดเหตุอย่างนี้ ถ้าตอนนั้นเป็นพรรคประชาธิปัตย์ รัฐธรรมนูญฉบับ 40 ยังอยู่แน่นอน เพราะประชาธิปัตย์ไม่ใช่เศรษฐี เขาก็ไม่คิดแบบเศรษฐีคิด แต่คิดอย่างเศรษฐีตนก็ว่าเขาคิดดี 5 ปีที่ผ่านมา ก็ทำดี แต่เขาก็โดนไปอย่างนั้น เพราะมีคนกล่าวหาว่ารัฐบาลมีอำนาจมากเกินไป รัฐธรรมนูญให้อำนาจมากเกินไป เขาไม่บอกรัฐธรรมนูญเลว เขาบอกว่านายกฯมันแย่ ก็ต้องปฏิวัติเอานายกฯออก แล้วฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ฉีกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับไม่เป็นไร เราจะแก้ 4-5 มาตรา จะเป็นจะตาย ถูกด่าเช้าด่าเย็น ถูกวิจารณ์เสียไม่มี คนฉีกทิ้งทั้งเล่มไม่เป็นปัญหา
เมื่อถามว่าขณะนี้ในการแก้รัฐธรรมนูญรัฐบาลเองยังมีความเห็นไม่ตรงกันจะทำอย่างไรให้ราบรื่น นายสมัคร กล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังดำเนินการ ตนก็จะบอกว่าวิปรัฐบาลก็ควรจะรีบประชุมกัน แต่ให้ประชุมแต่ละพรรคก่อน แล้วมาประชุมร่วมกัน หรือเอามติ 6 พรรค เข้ามาที่ประชุมครม.เพราะมี 6 พรรคเช่นกัน แต่ตนคิดว่าควรจะเป็นประชุมส.ส.ทั้งหมด แล้วออกความเห็นกันเสียให้เสร็จ แก้ให้ได้เร็ว แต่ไม่ต้องรีบร้อน คือ ตกลงกันก่อนให้มันตกผลึก แล้วมาจัดการยกร่างแก้ไข เรื่องนี้ไม่ต้องรีบแต่ทำได้เร็วก็ดี วันนี้แก้ไขเสีย
“ไม่ใช่เพื่อตัวเองเลย แล้วผมก็ไม่ต้องการมาลงเล่นอีก ไม่ใช่เพื่อผม คนอื่นเขาได้ประโยชน์ เขาต้องลงเลือกตั้งใหม่ จะเห็นได้เลยว่ารัฐธรรมนูญครั้งที่แล้วมันขบ ใครบอกรัฐธรรมนูญครั้งที่แล้วดีก็ดัดจริต จะดีได้อย่างไร เอาของดีมาฉีกทิ้ง แล้วเขียนใหม่พอเกลียดชังคนหนึ่งก็เอามาใส่ไว้เห็นได้ชัด แล้วเราเข้ามาแก้ให้ นพ.ประเวศและคนอื่นก็มาพูดกันตอนปลาย ไม่พูดตอนต้น” นายสมัคร กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคชาติไทยก็ไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกมาตรา 309 นายสมัคร กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร ไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องลงคะแนน ปัญหาคือว่าจะเอาชนะกันทำไม ต้องลงกันให้ได้ เพราะอยู่ในรัฐบาลด้วยกัน ไม่เป็นปัญหา สำหรับตนแล้วเรื่องวิธีการเลือกตั้งถ้าแก้ได้แล้วใครเดือดร้อนไหม มันดีกว่าเก่าแน่นอน ก็มีการแดกดันส.ส.ว่าถ้าไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญต้องตายแน่นอน ตนบอกเลยต้องตายแน่ ถ้าเขาจะเอาให้ตายต้องตาย แก้ไม่ได้หรอก ไม่ทันกินหรอก ยังไงก็ไม่ทันกิน
เมื่อถามว่า หากใช้ข้ออ้างจะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อคนไทย ทำไมจึงไม่ขอความเห็นด้วยการลงประชามติ นายสมัคร กล่าวว่า ที่เลือกตั้งคราวที่แล้วพรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้งได้เสียงข้างมาก จึงถือเป็นมติของมหาชนเขาลงคะแนนมาแล้ว ดังนั้นในสภาที่เขาทำหน้าที่กันอยู่ทุกวันเพราะเขาได้รับเลือกตั้งมาแล้ว กินเงินเดือนอยู่ทุกวันทำงานอยู่ทุกวันนี้เพราะได้รับเลือกตั้งจากเสียงข้างมากมาแล้ว
“ถ้าเผื่อว่าคนพวกนี้คิดผิดป่านนี้ก็ได้เป็นฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านหน้าแหลมอยู่ที่ไหนยังไม่รู้ ไม่นั่นหรอก แต่ว่าเป็นฝ่ายข้างมากในการเลือกตั้งเขาเห็นว่าเอาข้างนี้” นายสมัคร กล่าว
เมื่อถามว่า มุมมองของนายกฯ คือ เลือกตั้งครั้งเดียวทำได้ทุกอย่างเลยใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า เอ๊ะ แล้วคุณจะให้เลือกกี่ครั้ง ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หมายความว่า จะทำอะไรก็ไม่ต้องถามประชาชนแล้วใช่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า คุณจะมาพูดจากับตนอย่างนี้ จะบอกให้คุณฟังนะ เลือกตั้งครั้งเดียวมันเลือกหนเดียวแน่นอน แต่ว่าถ้าจะทำอะไรทุกครั้งต้องไปถามประชาชนอีกแล้วจะเลือกตั้งมาทำไป หาตัวแทนเขาทำงาน 4 ปีถึงจะหมดเวลาแล้วค่อยเลือกตั้งใหม่ อะไรคนจะทำจะคิดอะไรใหม่ต้องไปถามประชาชนก่อน อะไรกัน
เมื่อถามว่า ที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาระบุว่า ตั้งแต่มีข่าวการแก้ไขรัฐธรรมนูญกระแสต่อต้านรัฐบาลเริ่มมีมากขึ้น นายสมัคร กล่าวว่า ไม่มีปัญหา กระแสต้านรัฐบาลจะมีก็มีไป เพราะเป็นสิทธิอันพึงได้ของระบอบประชาธิปไตย คนไม่ชอบก็ต้องมีแต่คนชอบก็ต้องมา สถานการณ์วันนี้อย่าไปคิดว่าจะเอากันแล้วเหมือนตอนไทยรักไทยแล้ว ไม่เหมือน ยังไงก็ไม่เหมือน
เมื่อถามว่าประชาชนเลือกรัฐบาลเข้ามาหวังให้แก้ปัญหาปากท้องประชาชนมากกว่าให้มาแก้รัฐธรรมนูญ นายสมัคร กล่าวว่า นี่ ไอ้มือหนึ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจแล้วอีกมือหนึ่งแก้รัฐธรรมนูญได้ไหม มันแก้ได้ไหม
“นี่ผมจะถามคุณหน่อยสิว่าถ้าคุณจะถอดเสื้อ มือหนึ่งถอดเสื้อ ถ้าคุณปวดท้องจะลงท้องคุณจะถอดกางเกงไหม เสื้อก็ถอดกางเกงก็ถอดมันเป็นอะไรไหม หา” นายสมัคร กล่าว
ผู้สื่อข่าวบอกว่า ถ้าปวดท้องก็ถอดกางเกงอย่างเดียว นายสมัคร กล่าว ถอดกางเกงอย่างเดียวแล้วถ้าร้อนถอดเสื้อไหม ปัดโธ่ คืองานเขาก็ทำกันอยู่ แต่ว่าจะไปแก้ แบบที่ว่าคนเขาเลือกมาทำไมผมจะไม่รู้ว่าคนเขาเลือกกันมาทำไม” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวอีกว่า ขอถามหน่อยว่าที่แล้วมารัฐบาลอยู่กันราบเรียบโรยกลีบกุหลาบมาใช่ไหม แล้วพวกตนจึงรับเลือกตั้งเข้ามา มันไม่ใช่ มันมีปฏิวัติยึดอำนาจไป 16 เดือน ออกรัฐธรรมนูญใหม่กระโดกกระเดก นึกขึ้นได้ก็ต้องขอพูดเขาบอกว่า ไอ้คนถ้าหากว่าไม่ไปเลือกตั้งไม่ไปโกงเขาแล้วจะไม่โดนอย่างนี้เหรอ ตนบอกว่าไอ้ที่เขาต้องขึ้นศาลกันอยู่เวลานี้เพราะเขาร้องทุกข์ว่ามันเตรียมการจะล่อกันตั้งแต่ 6 เดือนก่อนการเลือกตั้ง
“ที่อีสานก็จะล่อกันทางนี้ 6 เดือนก่อนเลือกตั้ง ที่เหนือก็ 6 เดือนก่อนเลือกตั้ง เขาต้องการให้กกต.เห็นเรื่องนี้ต่างหากล่ะ ส่งคนขึ้นไปทำไปนำไปฟัดตัว ไม่ใช่ความลับเลย ไปจับคนหนึ่งที่อยู่ในค่ายในกรม คือพยาน 10 คน ฟังเสียงคนเดียวอีก 9 คนไม่ยอมฟัง แล้วไอ้เจ้าคนนี้เอาไปเก็บกักไว้ แหม่ มันมีเหตุ” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร กล่าวว่า แล้วเหตุนี้มันเกิดตั้งแต่ยังไม่มีการประกาศเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญยังไม่ออกมันเตรียมการกันแล้ว อีสานฆ่าอย่างนี้ ทางเหนือฆ่าอย่างนี้แล้วก็ตามล่ากันมา เพราะฉะนั้นมันถึงต้องออกปากไงว่าพรรคการเมืองพรรคนี้มันหลุดรอดมาได้ตรงนี้ก็บุญแล้ว มันกระโดดเข้ามากว่าจะผ่านด่านมาได้มันแทบตาย แล้วดันได้ 233 แล้วที่เขาช่วยเหลือกันมาก็ได้ 164 ก็ไม่เป็นไร แต่ทางเราทั้งบีบทั้งคั้นทั้งกดทั้งบีบก็อุตส่าห์ได้ 233
“ผมมีสิทธิ์พูดเต็มที่เลยเพราะความจริงเป็นอย่างนี้ ผมยืนยันเลยว่าที่ต้องแหกปากร้องก็เพราะล่อกันมา 6 เดือนก่อนเลือกตั้ง จะเอากันให้ตายตั้งแต่ตั้งไข่ ตั้งแต่ยังไม่รู้ใครว่าสมัครอะไร แต่เอาเป็นเขตแล้ว ทางนั้นฟาดเชียงราย ทางนี้บุรีรัมย์ มีหมด วางตัวคน ไม่ใช่ความเท็จไม่ใช่ความลับรู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองแต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เพราะฉะนั้นคนที่โดนต้องแบบนี้” นายสมัคร กล่าว
เมื่อถามว่า ที่บอกว่า จะแก้ รธน.เพื่อประชาชน ดังนั้น จะอธิบายข้อเสนอแก้มาตรา 309 อธิบายอย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า ไม่อธิบายหรอก บอกเขาสิว่ามันแก้ไม่ได้หรอก มันแก้ได้แต่มันไม่มีประโยชน์ถึงตรงนี้หรอก อย่าไปคิดว่าจะได้ประโยชน์อะไรอย่างนี้เลย ถ้าเขาบอกว่ากฎหมายมันไม่ย้อนหลังก็จบเรื่องไปเท่านั้นเอง
“ไม่หรอก คือ ผมอยากจะบอกว่าประชดด้วยการตัด ผมไม่ให้เขาตัดหรอก เพราะไอ้นี่คือตัวสำคัญ แต่ก่อนมันไม่มีอย่างนี้ เขาขอตัดวรรคสองออกเท่านั้นเอง ถามว่าเขาตัดวรรคสองออกทำไม ก็เพราะต้องการจะเล่นงาน เล่นงานเพราะว่าต้องการจะให้กรรมการพรรค ถ้าโดนก็โดนทั้งพรรค แล้วก็ไปล่อกันอยู่ที่เชียงราย กรรมการพรรคจะให้โดนทั้งพรรค คุณ(สื่อ)ไม่เห็นเหรอว่านี่กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” นายสมัคร กล่าวและว่า เห็นหรือเปล่าว่าเขาเขียนมาตรา 237 วรรค 2 ไว้อย่างนี้ เป็นบวกตั้งเปิดไว้เพื่อต้องการให้กรรมการพรรคคนใดคนหนึ่งไปทำอย่างนั้น ต้อนเข้ามาให้ได้ ปัดโธ่ไปจัดฉากกันมา ซื้อตงซื้อตัวเรื่องนี้อยู่ในศาล ผมก็หวังว่าศาลท่านได้ดูเหตุผล
เมื่อถามว่า มาตรา 309 มีแนวโน้มว่าจะตัดทิ้งทั้งมาตรา นายสมัคร กล่าวว่า มันจะอะไรก็ช่าง ไม่มีความเห็นแล้ว เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้นายสมัครยืนยันว่าแก้ไปก็ขายหน้า นายสมัคร กล่าวว่า ตนพูดหนเดียว พอเขาชี้แจงมีเหตุผลตนก็หุบปาก ไม่เห็นมันเสียหายอะไรยังไงเลย แต่เห็นด้วยหรือไม่ไม่ออกความเห็นแล้ว พอใจหรือยัง
เมื่อถามถึงความเห็นที่บางฝ่ายต้องการแก้ทั้งฉบับ ดังนั้นเป็นไปได้หรือไม่ที่จะตั้งส.ส.ร.ขึ้นใหม่เพื่อแก้รัฐธรรมนูญ นายสมัคร กล่าวว่า ส.ส.นี่เป็นตัวแทนประชาชน เขาให้มาออกกฎหมายแล้วจะเอาใครมาออกกฎหมาย ทำไมไม่ให้ประชาชนออกกฎหมายล่ะ เขาให้ตัวแทนของประชาชนมาออกกฎหมาย ทุกวันนี้สภาเขาออกกฎหมายเขาเอา ส.ส.ออกกฎหมาย แล้วก็อยากให้ประชาชนเป็นคนแก้แล้วเป็นยังไง
เมื่อถามว่า เพื่อที่จะลดข้อครหาที่ว่าแก้เพื่อการเมือง นายสมัคร กล่าวว่า คุณไม่เข้าใจเลยว่าเขามีระบบเลือกตั้งเอาตัวแทนไปทำงานในสภา นี่เป็นระบบรัฐสภา ตกลงตั้งส.ส.ร.ต้องยกสภานี้ไปเหรอ แล้วกฎหมายอื่นๆ ทำไมไม่ตั้ง ส.ส.ร.กฎหมายทุกฉบับไม่ตั้ง ส.ส.ร.ทุกฉบับไม่ดีเหรอ “คนเป็นส.ส.ทั้งสภา 480 คนไม่มีปัญญาจะวินิจฉัยเรื่องนี้เหรอ วุฒิสมาชิกอีก 200 คน จะไปตั้งคนอื่นมาอีกทำไม”
เมื่อถามว่า คิดหรือไม่ว่าเหตุใด ส.ส.จึงไม่ร่าง รธน.ปี 2540 เองแต่ต้องให้ ส.ส.ร.ร่าง นายสมัคร กล่าวว่า ตนจะบอกให้ฟังว่าเขาทะเลาะกันมาตั้งแต่ปฏิวัติปี 2534 เขาเถียงกันตั้งแต่คุณอานันท์มาเป็นนายกฯหนที่ 2 ว่ารัฐธรรมนูญจะต้องแก้ไข แล้วจะต้องแก้ไขต่อไปทำให้มันดี ตอนนั้นเขาก็ตกลงกันไว้ว่าเขาจะฟังความประชาชน ผมฟังความตอนนั้นแล้ว
“เขาตั้ง ส.ส.ร.มา 100 คน เขาเอามาจากไหน ไม่ใช่ประชาชนเลือกมาแต่เขาตั้งมา แต่เอาไปตามต่างจังหวัด แต่ละจังหวัดเขาทำกันอย่างไรรู้ไหม มีประชากรเป็นล้าน มีคนโหวตได้ตั้งหลายแสน แต่มีคนมาร่วมประชุม 800 คน แล้วทุกคนก็เข้าคิวมีไมโครโฟนอยู่แล้วก็บอกว่าต้องการอะไร จดยิก ๆ ต้องการอะไรจดยิก ๆ แล้วก็เสร็จแล้วประชุมครั้งที่ 1 แล้วก็กลับมาทำซอร์ทติ้ง อะไรซ้ำกันๆๆๆ ยกร่างไป แล้วก็ออกมาอีก เชิญอีก แล้วก็ 800 คนเก่านั่นกลับมา เสร็จเรียบร้อยลงมติบอกว่าโอเคเห็นชอบ ไอ้นี่ล่ะที่คนหยิบมือหนึ่งเท่านั้นเอง คนที่สนใจการเมือง คนเป็นแสนๆ จะมาอยู่ในห้องประชุมได้ยังไง นั่นล่ะ ส.ส.ร.แต่เราก็ไม่ว่า ส.ส.ร.จัดการทำพิธีออกมามันดี มันดีเราก็ชมว่าดี แล้วยังไงจะเอาอีกก็ได้ผมไม่ว่าหรอก แต่ว่าให้ผมแก้ตรงนี้ก่อน แล้วจะร่างใหม่ก็ได้
เมื่อถามว่า นายกฯเคยบอกว่าแก้แล้วจะมีเลือกตั้งใหม่จะยังมีอยู่หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ผมอธิบายให้ฟังชัดเจนว่าแก้เรื่องวิธีการเลือกตั้ง เขาก็จะแก้แล้วก็จะใช้กันทันทีจะได้เลือกตั้งกันใหม่ ถึงได้บอกว่า 3 เดือนจะไปแล้วค่อยแก้ แต่ทีนี้มันเกิดเหตุตรงนี้ขึ้นมาแล้วก็มีเหตุควรแก้ ก็แก้ก็แก้ แต่แก้เสร็จแล้วก็จะไม่เลือกตั้งใหม่ เพราะเราจะอยู่ครบ 4 ปี แล้วจะเลือกทำไม
เมื่อถามว่า แล้วทำไมไม่รอให้ครบ 4 ปีค่อยแก้ นายสมัคร กล่าวว่า เวลาเมื่อทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปได้ แต่ก่อนแถลงข่าววันไหนเดี๋ยวนี้ผมเลือกวันอังคาร กับวันศุกร์ไม่เหมือนแต่ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากแก้ ม.237 จะช่วยให้พรรคไม่ถูกยุบได้หรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ไม่ทันหรอก รัฐธรรมนูญออกหน้าออกหลังก็ต้องถูกตีความอีกย้อนหน้าย้อนหลังได้ไหม เรื่องเกิดแล้วมาทำกฎหมายตรงนี้
“หู้ย..ไม่ได้อยู่ในความมุ่งหวังของผมเลย ความหวังของผมคือว่าให้รัฐธรรมนูญที่หยิบมาใช้เนี่ยะ มันดีกว่าที่เป็นอยู่ ที่ผมประหลาดใจคือว่าคณะปฏิวัติร่างรัฐธรรมนูญดันมีคนชื่นชม ไอ้คนมาจากเลือกตั้งขอแก้รัฐธรรมนูญกลายเป็นถูกตำหนิติเตียน โลกนี้มันช่างน่าอเนจอนาถจริง ๆ ถ้าคุณเป็นผมคุณจะรู้สึก ไม่ชอบใจปฏิวัติฉีกรัฐธรรมนูญเลยร่างใหม่แล้วร่างไม่ดี พอเลือกตั้งมาเสร็จเขาบอกขอแก้รัฐธรรมนูญกลายเป็นว่าไม่ควรไปแก้ไม่ควรแตะต้องเป็นของศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นว่าตัวทำผิดไปแก้กฎหมาย แล้วกฎหมายผิดแล้วคนจะต้องนั่งทนอย่างนี้กันเหรอ
เมื่อถามว่ามีการแก้ในช่วงที่มีการพิจารณาคดียุบพรรคทำให้เกิดความสับสน นายสมัคร กล่าวว่า บอกแล้วว่ามันไม่มีผล มันไม่มีผลหรอก
เมื่อถามว่า เหตุใดจึงไม่รอช่วงเวลา 3 เดือนก่อนการเลือกตั้งตามที่นายกฯเคยระบุไว้ นายสมัคร กล่าวว่า บอกแล้วว่ารัฐบาลจะอยู่ได้เท่าไหร่ยังไม่รู้ แต่เราบอกว่าอีก 3 เดือนจะไปแล้วก็จะจัดการแก้ไข ก็เป็นการปรารภธรรมดาเท่านั้นเอง จะมาบอกว่านายสมัคร พูดแล้วคืนคำ แล้วตกลงผมจะอยู่ได้สี่ปีใครจะยืนยันให้ผม ใครจะยืนยัน ผมก็ปรารภไปตามธรรมดาไม่มีอะไรแน่นอน
เมื่อถามว่า จะแก้รัฐธรรมนูญอย่างไรให้ไม่ถูกแก้ได้ง่าย นายสมัคร กล่าวว่า เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญสิว่าห้ามปฏิวัติ พูดคำนี้เดี๋ยวโดนอีก
