xs
xsm
sm
md
lg

คกก.สอบ “การุณ” ถ่อย ถามหาคลิปนาทีถีบ ยันไม่มีมวยล้ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การุณ โหสกุล
ปธ.สอบข้อเท็จจริง “ผู้ทรงถ่อย” ขีดเส้น 30 วันรู้เรื่อง ยันไม่มีมวยล้ม สั่ง คกก.ปิดปากจนกว่าสรุปผลสอบสวนแล้วเสร็จ เน้นให้ความสำคัญพยานแวดล้อม ถามหาคลิปมือถือมัดนาทีถ่อย

วันนี้ (4 เม.ย.) ที่รัฐสภา พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีการทะเลาะวิวาทระหว่าง นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคพลังประชาชน กับ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการสอบสวนกรณีดังกล่าว ว่า ขณะนี้มี 3 พรรคการเมืองส่งตัวแทนเข้าร่วมเป็นกรรมการฯ แล้ว 3 พรรค คือ พรรคพลังประชาชน ส่ง นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ พรรคประชาธิปัตย์ ส่ง นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.สัดส่วน และพรรคเพื่อแผ่นดิน ส่ง ม.ร.ว.กิตติวัฒนา ไชยันต์ ปกมนตรี ส.ส.สัดส่วน จึงได้สั่งให้ ผอ.สำนักรองประธานสภาคนที่ 2 ประสานไปยังพรรคที่เหลือเพื่อส่งชื่อมาโดยเร็วเพื่จะได้เรียกประชุมในต้นสัปดาห์หน้า

เมื่อถามว่า ม.ร.ว.กิตติวัฒนา ระบุว่า ได้ยินเสียงด่าทอในห้องอาหารจริง จะส่งผลเสียต่อนายการุณ หรือไม่ รองประธานสภา กล่าวว่า ก็เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องสืบทราบ เข้าใจว่า เป็นการให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะได้รับแต่งตั้งจากทางพรรค แต่ตอนนี้กรรมการสอบสวนทุกคนต้องรักษามายาท และขอความกรุณาให้งดการให้สัมภาษณ์ในช่วงนี้จนกว่าจะได้ข้อสรุปก่อน แต่ข้อมูลทั้งหลายน่าจะเป็นผลดี เพราะท่านเป็นผู้หนึ่งที่เห็นเหตุการณ์ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ไม่มีภาพเหตุการณ์จากกล้องจากวงจรปิด แต่นอกจากวัตถุพยานแล้วเรายังสามารถตรวจสอบพยานแวดล้อมอื่นได้อีก โดยเฉพาะจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและเด็นเสริฟกาแฟจากบริเวณนั้น ซึ่งน่าจะมีน้ำหนักมากว่าพยานบุคคลจากพรรคประชาธิปัตย์หรือพลังประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนที่มีผู้ระบุว่ามีการใช้มือถือถ่ายคลิปวีดิโอเหตุการณ์ไว้ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ถ้าสมาชิกหรือบุคคลใดมีก็ให้ส่งมายังคณะกรรมการด้วย ถ้ามีก็เป็นเรื่องที่ดีจะได้ง่ายต่อการหาข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการให้เสร็จภายในกรอบเวลา 30 วันที่ตั้งไว้ได้หรือไม่ พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า คาดเดาไม่ได้ เพราะสืบพยานหลายปาก เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือว่าจะไม่เป็นมวยล้ม พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ตนมีศักดิ์ศรี วุฒิภาวะ และกรรมการที่แต่ละพรรคแต่งตั้งมา ก็ล้วนมีวุฒิภาวะทั้งสิ้น และตนก็ไม่ได้เสนอตัวเอง แต่เป็นผู้นำฝ่ายค้านที่มีความมั่นใจในกความเป็นกลางของตนจึงได้เสนอให้มาเป็นประธานสอบ จึงขอให้ความมั่นใจว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เมื่อถามว่ากรอบการสอบสวนจะเน้นการไกล่เกลี่ยหรือหาบทลงโทษผู้กระทำผิด รองประธานสภา กล่าวว่า เราต้องหาข้อเท็จจริงให้ได้ก่อน ส่วนจะไกล่เกลี่ยหรือหาบทลงโทษเป็นเรื่งพิจารณาอีกที

เมื่อถามว่า มีสมาชิกพรรคพลังประชาชนจะเข้าชื่อถอดถอนนายสมเกียรติที่ออกมาท้าทายใสภาก่อน พ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่จะทำได้ แต่จะสำเร็จหรือไม่เป็นอีกเรื่อง แต่ส่วนตัวเห็นว่า ไม่ได้เป็นการท้าทาย ซึ่งการประชุมในวันนั้นก็เรียบร้อยดี ตนพยายามตัดบทไม่ให้มีปัญหา แต่ยอมรับว่าการกระทบกระทั่งกันก็มีบ้าง เพราะมนุษย์ปุถุชนก็มีอารมณ์เป็นธรรมดา อย่างไรก็ตามในการสอบสวนจะใช้ประมวลจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรปี 2542 มาประกอบการพิจารณา ซึ่งตรงนี้จะมีความชัดเจนในกรอบการดำเนินการ อยากฝากถึงประชาชนว่าสภานี้ยังมีสมาชิกที่มีคุณภาพมากกว่าคนที่ด้อยคุณภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น